พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากนัดแรกในวันนี้ (19 พ.ค.) เห็นชอบปรับโครงสร้างราคาใหม่ ด้วยการปรับลดราคาต้นทุนขายส่ง จาก 74.40 บาท ลดเหลือ 70.40 บาทต่อใบ รายย่อยจึงมีส่วนต่างกำไร 9.50 บาท เมื่อขายในราคา 80 บาท สำหรับมูลนิธิ องค์กรต่างๆ กำหนดราคาขายส่งในราคา 68.80 บาท จากเดิมต้นทุน 72.82 บาท ยอมรับว่าการจัดสรรสลากให้รายย่อยคนละ 5 เล่ม เมื่อรวมกับการเพิ่มส่วนต่างๆ แล้วจะทำให้คนขายปลีกอยู่
นอกจากนี้ ยังได้ยกเลิกรางวัลแจ็กพ็อต รางวัลที่ 1 ชุดที่ 1 - 30 สำหรับสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 30 ล้านบาท และชุดที่ 49 - 74 รางวัลแจ็กพอต จำนวน 22 ล้านบาท เนื่องจากเป็นสาเหตุให้มีการรวมชุดและนำมาขายเกินราคา โดยจะเริ่มใช้แนวทางดังกล่าวได้ในงวดที่ 1 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ หากมีการยกเลิกรางวัลแจ็กพอต จะทำให้รางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาล กลับมามีมูลค่ารางวัลละ 3 ล้านบาท หรือคู่ละ 6 ล้านบาท ตามเดิม แต่ถ้าผู้ค้าสลากยังอยากที่จะรวมชุดขายสามารถทำได้ในราคาที่ไม่เกินที่กำหนดไว้ คือ 80 บาทต่อคู่ เช่น รวม 5 คู่ ต้องขายในราคา 400 บาท
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบการเดินหน้าการตั้งกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อสังคม ด้วยการนำเงินสัดส่วน 3% ของรายได้จากการขายสลากฯ เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยป้องกันการพนัน และการช่วยเหลือทางสังคม ด้วยการยกเลิกการตั้งกองทุนรับซื้อสลาก เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่แนวทางในการแก้ปัญหาสลากเกินราคาและขายไม่หมด จึงต้องการตั้งกองทุนเพื่อมาช่วยเหลือทางสังคม สำหรับแนวทางดังกล่าวจะเตรียมเสนอให้ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาคาดว่า เริ่มดำเนินได้ทันการออกรางวัลงวดที่ 16 มิถุนายนนี้
สำหรับกลุ่มผู้ค้าที่มีอิทธิพลรายใหญ่ เช่น กลุ่ม 5 เสือ ยืนยันว่าไม่มีนโยบายจะเข้าไปหารือ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยไปหารือตามที่ปรากฏในข่าว ณ ขณะนี้ไม่อยากมองใครไม่ดี มีหน้าที่ทำตามนโยบายรัฐ คือจะต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ เพื่อเป็นการคืนความสุขให้ประชาชน แต่ประชาชนก็ต้องรักษาสิทธิ์ด้วย เมื่อรู้ว่าที่ใดขายเกิน 80 บาท อย่าไปยอมซื้อ เพราะถ้าไม่ซื้อรัฐบาลก็ไม่เสียหาย เพราะรัฐไม่รับซื้อคืน ประชาชนก็ไม่เสียหาย คนเสียหายคือผู้ค้าที่ขายไม่หมด อย่ายอมให้เกิดการทุจริตตั้งแต่ตัวคนซื้อ
นอกจากนี้ ยังได้ยกเลิกรางวัลแจ็กพ็อต รางวัลที่ 1 ชุดที่ 1 - 30 สำหรับสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 30 ล้านบาท และชุดที่ 49 - 74 รางวัลแจ็กพอต จำนวน 22 ล้านบาท เนื่องจากเป็นสาเหตุให้มีการรวมชุดและนำมาขายเกินราคา โดยจะเริ่มใช้แนวทางดังกล่าวได้ในงวดที่ 1 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ หากมีการยกเลิกรางวัลแจ็กพอต จะทำให้รางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาล กลับมามีมูลค่ารางวัลละ 3 ล้านบาท หรือคู่ละ 6 ล้านบาท ตามเดิม แต่ถ้าผู้ค้าสลากยังอยากที่จะรวมชุดขายสามารถทำได้ในราคาที่ไม่เกินที่กำหนดไว้ คือ 80 บาทต่อคู่ เช่น รวม 5 คู่ ต้องขายในราคา 400 บาท
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบการเดินหน้าการตั้งกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อสังคม ด้วยการนำเงินสัดส่วน 3% ของรายได้จากการขายสลากฯ เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยป้องกันการพนัน และการช่วยเหลือทางสังคม ด้วยการยกเลิกการตั้งกองทุนรับซื้อสลาก เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่แนวทางในการแก้ปัญหาสลากเกินราคาและขายไม่หมด จึงต้องการตั้งกองทุนเพื่อมาช่วยเหลือทางสังคม สำหรับแนวทางดังกล่าวจะเตรียมเสนอให้ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาคาดว่า เริ่มดำเนินได้ทันการออกรางวัลงวดที่ 16 มิถุนายนนี้
สำหรับกลุ่มผู้ค้าที่มีอิทธิพลรายใหญ่ เช่น กลุ่ม 5 เสือ ยืนยันว่าไม่มีนโยบายจะเข้าไปหารือ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยไปหารือตามที่ปรากฏในข่าว ณ ขณะนี้ไม่อยากมองใครไม่ดี มีหน้าที่ทำตามนโยบายรัฐ คือจะต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ เพื่อเป็นการคืนความสุขให้ประชาชน แต่ประชาชนก็ต้องรักษาสิทธิ์ด้วย เมื่อรู้ว่าที่ใดขายเกิน 80 บาท อย่าไปยอมซื้อ เพราะถ้าไม่ซื้อรัฐบาลก็ไม่เสียหาย เพราะรัฐไม่รับซื้อคืน ประชาชนก็ไม่เสียหาย คนเสียหายคือผู้ค้าที่ขายไม่หมด อย่ายอมให้เกิดการทุจริตตั้งแต่ตัวคนซื้อ