พินัยกรรมของหลวงพ่อคูณ ระบุว่า ข้อ 1 ให้มอบร่างกายแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากละสังขาร เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นมอบให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปศึกษาค้นคว้าตามวัตถุประสงค์
ข้อ 2 พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน ให้จัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชน์ใดๆ
ข้อ 3 ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกศและพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษและให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปี ร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นตามความเหมาะสม
ข้อ 4 เมื่อดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่านและเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
ข้อ 5 พินัยกรรมฉบับนี้ทำชึ้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2543 ที่วัดบ้านไร่ ขณะนั้นหลวงพ่อคูณอายุ 77 ปี มีพยานรับรอง 4 คนคือ รศ.สุขชาติ เกิดผล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, นายประทีป วงษ์กาญจนรัตน์, นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และนายเนาวรัตน์ สังการกำแหง นิติกร 8 (ชำนาญการ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ข้อ 2 พิธีกรรมศาสนา การสวดอภิธรรมศพ ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพที่คณะแพทยศาสตร์ 7 วัน ให้จัดทำพิธีบำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และให้จัดงานแบบเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชน์ใดๆ
ข้อ 3 ห้ามขอพระราชทานเพลิงศพ โกศและพระราชพิธีอื่นๆ เป็นกรณีพิเศษและให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำพิธีเช่นเดียวกับการจัดพิธีศพของอาจารย์ใหญ่นักศึกษาแพทย์ประจำปี ร่วมกับอาจารย์ใหญ่ท่านอื่น แล้วเผา ณ ฌาปนสถานวัดหนองแวง พระอารามหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หรือวัดอื่นตามความเหมาะสม
ข้อ 4 เมื่อดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว อัฐิ เถ้าถ่านและเศษอังคารทั้งหมด ให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปลอยที่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
ข้อ 5 พินัยกรรมฉบับนี้ทำชึ้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2543 ที่วัดบ้านไร่ ขณะนั้นหลวงพ่อคูณอายุ 77 ปี มีพยานรับรอง 4 คนคือ รศ.สุขชาติ เกิดผล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, นายประทีป วงษ์กาญจนรัตน์, นายธวัช เรืองหร่าย ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ และนายเนาวรัตน์ สังการกำแหง นิติกร 8 (ชำนาญการ) มหาวิทยาลัยขอนแก่น