รัฐบาลเนปาลรีบเร่งกระจายความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลในวันพฤหัสบดี (14พ.ค.) ขณะที่นายกรัฐมนตรียอมรับไม่ได้เตรียมการว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ซ้ำสองตามมาติดๆ
แผ่นดินไหวขนาด 7.3 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (12 ) ทำให้เกิดดินถล่มรุนแรงในหลายพื้นที่ อีกทั้งทำให้อาคารบ้านเรือนมากมายพังครืนลง เนื่องจากได้รับความเสียหายเอยู่ก่อนแล้วจากแผ่นดินไหวระดับ 7.8 ในวันที่ 25 เมษายน ซึ่งถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปี ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 8,000 คน และทำลายอาคารบ้านเรือนเกือบ 500,000 หลัง
ขณะนี้ รัฐบาลเนปาลกำลังรีบเร่งจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังพื้นที่ห่างไกลบนเทือกเขาทางตะวันออกของประเทศที่ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุดจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด
ทว่า นอกจากความยากลำบากในการเดินทางแล้ว การปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ยังทุลักทุเลจากความเสียหายเป็นวงกว้างของศูนย์ราชการสิงหะดูบาร์ในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งบางส่วนไม่มั่นคงพอที่จะใช้งานได้อีกต่อไป ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีต้องทำงานกันในเต็นท์ โดยที่อัตตาร์ กุมาร คาตรี โฆษกนายกรัฐมนตรีระบุว่า ปฏิบัติการเร่งด่วนในขณะนี้คือ การบริหารจัดการภัยพิบัติ
ทางด้านนายกรัฐมนตรีสุชิล คอยราลา กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังเดินทางถึงหมู่บ้านชาริโกฏิ ของเขตโดลาคา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคาร โดยยอมรับว่า หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปลายเดือนที่แล้ว รัฐบาลไม่ได้เตรียมการหรือคาดคิดว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งที่สองตามมาแบบนี้ เขาบอกอีกว่า ฤดูมรสุมที่กำลังจะมาถึงซึ่งคาดว่า จะหอบฝนมาตกอย่างหนัก จะทำให้ประชาชนมากมายที่ยังไร้บ้านพักอาศัย ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากยิ่งขึ้น
ในกาฐมาณฑุที่มีผู้เสียชีวิต 11 คนเมื่อวันอังคาร ผู้รอดชีวิตซึ่งขวัญหนีดีฝ่อ ยังคงต้องอาศัยกินนอนกลางแจ้ง เนื่องจากไม่มั่นใจว่า บ้านเรือนที่พักมั่นคงปลอดภัยพอ
ขณะนี้ ทั้งในกาฐมาณฑุและพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ กำลังขาดแคลนเต็นท์และผ้าใบ ชาวบ้านบางคนต้องนำกล่องกระดาษแข็งมาดัดแปลงเป็นที่พักพิงชั่วคราว
แผ่นดินไหวขนาด 7.3 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (12 ) ทำให้เกิดดินถล่มรุนแรงในหลายพื้นที่ อีกทั้งทำให้อาคารบ้านเรือนมากมายพังครืนลง เนื่องจากได้รับความเสียหายเอยู่ก่อนแล้วจากแผ่นดินไหวระดับ 7.8 ในวันที่ 25 เมษายน ซึ่งถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปี ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 8,000 คน และทำลายอาคารบ้านเรือนเกือบ 500,000 หลัง
ขณะนี้ รัฐบาลเนปาลกำลังรีบเร่งจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังพื้นที่ห่างไกลบนเทือกเขาทางตะวันออกของประเทศที่ได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุดจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด
ทว่า นอกจากความยากลำบากในการเดินทางแล้ว การปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ยังทุลักทุเลจากความเสียหายเป็นวงกว้างของศูนย์ราชการสิงหะดูบาร์ในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งบางส่วนไม่มั่นคงพอที่จะใช้งานได้อีกต่อไป ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีต้องทำงานกันในเต็นท์ โดยที่อัตตาร์ กุมาร คาตรี โฆษกนายกรัฐมนตรีระบุว่า ปฏิบัติการเร่งด่วนในขณะนี้คือ การบริหารจัดการภัยพิบัติ
ทางด้านนายกรัฐมนตรีสุชิล คอยราลา กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังเดินทางถึงหมู่บ้านชาริโกฏิ ของเขตโดลาคา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคาร โดยยอมรับว่า หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปลายเดือนที่แล้ว รัฐบาลไม่ได้เตรียมการหรือคาดคิดว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งที่สองตามมาแบบนี้ เขาบอกอีกว่า ฤดูมรสุมที่กำลังจะมาถึงซึ่งคาดว่า จะหอบฝนมาตกอย่างหนัก จะทำให้ประชาชนมากมายที่ยังไร้บ้านพักอาศัย ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากยิ่งขึ้น
ในกาฐมาณฑุที่มีผู้เสียชีวิต 11 คนเมื่อวันอังคาร ผู้รอดชีวิตซึ่งขวัญหนีดีฝ่อ ยังคงต้องอาศัยกินนอนกลางแจ้ง เนื่องจากไม่มั่นใจว่า บ้านเรือนที่พักมั่นคงปลอดภัยพอ
ขณะนี้ ทั้งในกาฐมาณฑุและพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ กำลังขาดแคลนเต็นท์และผ้าใบ ชาวบ้านบางคนต้องนำกล่องกระดาษแข็งมาดัดแปลงเป็นที่พักพิงชั่วคราว
