ผู้เสียหายเกือบ 30 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายหน้าหลอกลวงแรงงาน ซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย อ้างว่าจะพาไปทำงานในไร่องุ่นที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ค่าจ้างเดือนละ 50,000 บาท แต่ว่าจะต้องเสียค่าดำเนินการคนละ 120,000-170,000 บาท
โดยหนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 2557 ได้เห็นเฟซบุ๊กของคนรู้จักกัน โพสต์รูปพาสปอร์ตจึงเข้าไปสอบถามว่าจะเดินทางไปไหน โดยมีการสนทนากันว่า จะไปทำงานที่ออสเตรเลีย จากนั้นก็มีการนัดหมายกันที่สนามบินเชียงใหม่ เพื่อคุยรายละเอียดการทำงานและการเดินทาง หลังจากนั้นได้ตกลงโอนเงินเข้าธนาคารกสิกรไทย สาขาเชียงใหม่ เข้าบัญชี น.ส.พัชรียา บุญทวีสวัสดิ์ ครั้งแรกโอน 25,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการในครั้งแรก ส่วนครั้งที่โอน 75,000 บาท ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 และบอกว่าไม่เกิน 3 เดือนจะได้เดินทาง ระหว่างนี้มีการติดต่อกันโดยตลอดว่าจะได้เดินทาง แต่เวลาผ่านไปเกือบ 7 เดือน ก็ยังไม่เดินทาง นายหน้าอ้างว่าหมายเลขหนังสือเดินทางกับหนังสือวีซ่าขอเข้าเมืองไม่ตรงกัน จนมีการนัดหมายว่าจะเดินทางวันที่ 11 พฤษภาคม เวลา 19.00 น. โดยสายการบินอาหรับแอร์ไลน์ และนัดหมายผู้เสียหายกว่า 30 คน เวลา 17.00 น. ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อทุกคนมาถึงสนามบินก็พยายามติดต่อนายหน้าที่ชื่อ นัทที ตั้งแต่ 17.00 - 20.00 น. ก็ยังสามารถติดต่อได้ โดยอ้างว่ากำลังเดินทาง แต่หลังจาก 21.00 น. กลับติดต่อไม่ได้ จึงรู้ว่าถูกหลอก จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่สนามบิน จากนั้นเจ้าหน้าที่สนามบินได้นำผู้เสียหายมาส่งที่กองปราบปรามเพื่อให้แจ้งความ
ทั้งนี้ ผู้เสียหายอ้างว่า ก่อนเดินทางมีการกู้หนี้ยืมสินโดยการนำโฉนดที่ดินเทือกสวนไร่นา ไปจำนอง รายละ 200,000-300,000 บาท ดอกเบี้ย ร้อยละ 5 จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เดินทาง จึงมาแจ้งความเพื่อเรียกเงินคืน
อย่างไรก็ตาม ทางกองปราบได้รับเรื่องไว้ และได้เปิดอาคารสโมสรกองปราบปรามให้ผู้เสียหายได้นอนพัก และจะทำการสอบปากคำในตอนเช้า
โดยหนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 2557 ได้เห็นเฟซบุ๊กของคนรู้จักกัน โพสต์รูปพาสปอร์ตจึงเข้าไปสอบถามว่าจะเดินทางไปไหน โดยมีการสนทนากันว่า จะไปทำงานที่ออสเตรเลีย จากนั้นก็มีการนัดหมายกันที่สนามบินเชียงใหม่ เพื่อคุยรายละเอียดการทำงานและการเดินทาง หลังจากนั้นได้ตกลงโอนเงินเข้าธนาคารกสิกรไทย สาขาเชียงใหม่ เข้าบัญชี น.ส.พัชรียา บุญทวีสวัสดิ์ ครั้งแรกโอน 25,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการในครั้งแรก ส่วนครั้งที่โอน 75,000 บาท ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 และบอกว่าไม่เกิน 3 เดือนจะได้เดินทาง ระหว่างนี้มีการติดต่อกันโดยตลอดว่าจะได้เดินทาง แต่เวลาผ่านไปเกือบ 7 เดือน ก็ยังไม่เดินทาง นายหน้าอ้างว่าหมายเลขหนังสือเดินทางกับหนังสือวีซ่าขอเข้าเมืองไม่ตรงกัน จนมีการนัดหมายว่าจะเดินทางวันที่ 11 พฤษภาคม เวลา 19.00 น. โดยสายการบินอาหรับแอร์ไลน์ และนัดหมายผู้เสียหายกว่า 30 คน เวลา 17.00 น. ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อทุกคนมาถึงสนามบินก็พยายามติดต่อนายหน้าที่ชื่อ นัทที ตั้งแต่ 17.00 - 20.00 น. ก็ยังสามารถติดต่อได้ โดยอ้างว่ากำลังเดินทาง แต่หลังจาก 21.00 น. กลับติดต่อไม่ได้ จึงรู้ว่าถูกหลอก จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่สนามบิน จากนั้นเจ้าหน้าที่สนามบินได้นำผู้เสียหายมาส่งที่กองปราบปรามเพื่อให้แจ้งความ
ทั้งนี้ ผู้เสียหายอ้างว่า ก่อนเดินทางมีการกู้หนี้ยืมสินโดยการนำโฉนดที่ดินเทือกสวนไร่นา ไปจำนอง รายละ 200,000-300,000 บาท ดอกเบี้ย ร้อยละ 5 จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้เดินทาง จึงมาแจ้งความเพื่อเรียกเงินคืน
อย่างไรก็ตาม ทางกองปราบได้รับเรื่องไว้ และได้เปิดอาคารสโมสรกองปราบปรามให้ผู้เสียหายได้นอนพัก และจะทำการสอบปากคำในตอนเช้า