บรรยากาศการรณรงค์หาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายในอังกฤษเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) เป็นไปอย่างคึกคัก โดยผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ ตระเวนออกไปหาเสียงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อดึงคะแนนจากผู้สนับสนุนให้ได้มากที่สุดก่อนที่การเลือกตั้งทั่วไปจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ (7 พ.ค.)
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษและหัวพรรคอนุรักษ์นิยม ใช้เวลา 2 วันก่อนการเลือกตั้งเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อหาเสียงแบบทิ้งทวน และได้กล่าวกับผู้สนับสนุนว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมีขึ้นจะเป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่สุดของยุค และขอให้ผู้สนับสนุนออกมาใช้สิทธิ์ เพื่อร่วมตัดสินว่าจะให้เขาบริหารประเทศต่อไปเพื่อสานต่อภารกิจผลักดันให้ประเทศก้าวต่อไปข้างหน้า หรือจะให้นายเอ็ด มิลิแบนด์ ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญ มารับตำแหน่งผู้นำ และกลับไปเริ่มต้นจากศูนย์ ทำให้ภารกิจการบริหารประเทศที่ลุล่วงไปด้วยดีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาต้องสูญเปล่า
แม้ว่าทั้งนายคาเมรอนและมิลิแบนด์จะแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถนำพรรคคว้าชัยชนะได้อย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 650 ที่นั่ง แต่จากผลการสำรวจล่าสุดชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงานจะขับเคี่ยวกันอย่างสูสี และไม่มีพรรคใดได้รับชัยชนะครองเสียงข้างมากในสภาได้อย่างเด็ดขาด ทำให้ต้องดึงพรรคเล็กมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสม
การเลือกตั้งในครั้งนี้ยังมีแนวโน้มว่า อังกฤษจะมีรัฐบาลเสียงน้อยเป็นครั้งแรกในรอบ 41 ปี และยังจะผลักดันให้อังกฤษอาจต้องถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ อียู
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษและหัวพรรคอนุรักษ์นิยม ใช้เวลา 2 วันก่อนการเลือกตั้งเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อหาเสียงแบบทิ้งทวน และได้กล่าวกับผู้สนับสนุนว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมีขึ้นจะเป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่สุดของยุค และขอให้ผู้สนับสนุนออกมาใช้สิทธิ์ เพื่อร่วมตัดสินว่าจะให้เขาบริหารประเทศต่อไปเพื่อสานต่อภารกิจผลักดันให้ประเทศก้าวต่อไปข้างหน้า หรือจะให้นายเอ็ด มิลิแบนด์ ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญ มารับตำแหน่งผู้นำ และกลับไปเริ่มต้นจากศูนย์ ทำให้ภารกิจการบริหารประเทศที่ลุล่วงไปด้วยดีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาต้องสูญเปล่า
แม้ว่าทั้งนายคาเมรอนและมิลิแบนด์จะแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถนำพรรคคว้าชัยชนะได้อย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 650 ที่นั่ง แต่จากผลการสำรวจล่าสุดชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมและพรรคแรงงานจะขับเคี่ยวกันอย่างสูสี และไม่มีพรรคใดได้รับชัยชนะครองเสียงข้างมากในสภาได้อย่างเด็ดขาด ทำให้ต้องดึงพรรคเล็กมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสม
การเลือกตั้งในครั้งนี้ยังมีแนวโน้มว่า อังกฤษจะมีรัฐบาลเสียงน้อยเป็นครั้งแรกในรอบ 41 ปี และยังจะผลักดันให้อังกฤษอาจต้องถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ อียู
