เมื่อเวลา 23.30 น.ของคืนวันที่ 2 พ.ค. พ.ต.ท.จิระเดช จิตรโสภา พงส.สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุรถบรรทุกเกี่ยวสายไฟแรงสูงทำเสาไฟฟ้าล้มขวางถนนหลายต้น บริเวณถนนบรมราชชนนีขาออก ช่องทางเดินรถคู่ขนานก่อนเบี่ยงเข้าพุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม.จึงประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางเบี่ยงช่วงสะพานข้ามคลองควายก่อนถึงพุทธมณฑลสาย 3 ประมาณ 1 กิโลเมตร พบรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 82-7499 นครปฐม จอดขวางถนนทั้ง 3 เลน ในสภาพกระบะท้ายยกขึ้นเกี่ยวเสาไฟฟ้าล้มลง จำนวน 24 ต้น ขวางถนนสร้างความเสียหายไปประมาณ 2 กิโลเมตร นอกจากนี้มีรถยนต์ของชาวบ้านที่ขับตามหลังมาถูกเสาไฟฟ้าล้มทับ จำนวน 5 คัน รถ จยย.อีก 3 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นคนขี่ รถ จยย.1 คัน เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำส่ง รพ.ใกล้เคียงก่อนปิดการจราจรในช่วงดังกล่าวและเร่งระบายรถที่ติดขัดเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร
จากการสอบสวนนายส่งเสียง นกดารา อายุ 60 ปี โชเฟอร์สิบล้อ อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 1 ต.ทุ่งกระพังโคม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของรถปัจจุบันนำรถมารับจ้างขนดินจากจุดก่อสร้างพื้นทางของกรมทางหลวงเพื่อนำมาทิ้งที่พงหญ้ารกร้างในซอยตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนเกิดเรื่องตนก็ขับรถไปรับดินมาจากจุดก่อสร้างขยายถนนบริเวณพุทธมณฑลสาย 4 แล้วนำดินมาทิ้งที่นี่ตามปกติ โดยระหว่างที่ยกกระบะท้ายทิ้งดินจนหมดแล้วตนก็ได้กดสวิตช์สั่งการให้กระบะท้ายยุบตัวลงมาเหมือนเช่นเคย แต่ขณะที่กำลังขับรถออกจากซอยเข้าถนนใหญ่ไม่รู้เลยว่ากระบะท้ายยกขึ้นมาเองทำให้เกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูงและฉุดเสาไฟฟ้าล้มระเนระนาดดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.จิระเดช กล่าวว่า จากการตรวจสอบรถบรรทุกของนายส่งเสียง พบว่า ไม่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ เท่ากับว่าเจ้าตัวต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งในเบื้องต้นจะเรียกผู้เสียหายทั้งการไฟฟ้า และเจ้าของรถที่ได้รับผลกระทบทุกรายเข้าให้ปากคำ ก่อนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินทางราชการ และทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหายแก่นายส่งเสียง และเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้ทุกฝ่ายต่อไป
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังปิดจราจร ถนนบรมราชชนนีขาออก ช่องทางเดินรถคู่ขนาน จากสาย2-สาย3 เพื่อปักเสาไฟฟ้าเสร็จไปแล้วกว่า 20 ต้น เหลืออีก 10 กว่าต้น คาดว่าช่วงสายวันนี้จะแล้วเสร็จ
จากการสอบสวนนายส่งเสียง นกดารา อายุ 60 ปี โชเฟอร์สิบล้อ อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 1 ต.ทุ่งกระพังโคม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของรถปัจจุบันนำรถมารับจ้างขนดินจากจุดก่อสร้างพื้นทางของกรมทางหลวงเพื่อนำมาทิ้งที่พงหญ้ารกร้างในซอยตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนเกิดเรื่องตนก็ขับรถไปรับดินมาจากจุดก่อสร้างขยายถนนบริเวณพุทธมณฑลสาย 4 แล้วนำดินมาทิ้งที่นี่ตามปกติ โดยระหว่างที่ยกกระบะท้ายทิ้งดินจนหมดแล้วตนก็ได้กดสวิตช์สั่งการให้กระบะท้ายยุบตัวลงมาเหมือนเช่นเคย แต่ขณะที่กำลังขับรถออกจากซอยเข้าถนนใหญ่ไม่รู้เลยว่ากระบะท้ายยกขึ้นมาเองทำให้เกี่ยวสายไฟฟ้าแรงสูงและฉุดเสาไฟฟ้าล้มระเนระนาดดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.จิระเดช กล่าวว่า จากการตรวจสอบรถบรรทุกของนายส่งเสียง พบว่า ไม่ได้ทำประกันภัยเอาไว้ เท่ากับว่าเจ้าตัวต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งในเบื้องต้นจะเรียกผู้เสียหายทั้งการไฟฟ้า และเจ้าของรถที่ได้รับผลกระทบทุกรายเข้าให้ปากคำ ก่อนแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินทางราชการ และทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหายแก่นายส่งเสียง และเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้ทุกฝ่ายต่อไป
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ยังปิดจราจร ถนนบรมราชชนนีขาออก ช่องทางเดินรถคู่ขนาน จากสาย2-สาย3 เพื่อปักเสาไฟฟ้าเสร็จไปแล้วกว่า 20 ต้น เหลืออีก 10 กว่าต้น คาดว่าช่วงสายวันนี้จะแล้วเสร็จ