วันนี้ (24 เม.ย.) เวลา 14.08 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถเข็นพระที่นั่งลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อไปประทับเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ และทอดพระเนตรทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา ณ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เป็นการส่วนพระองค์ โดยมี ศ.คลินิก นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เป็นผู้ถวายการเข็นรถเข็นพระที่นั่ง พร้อมด้วย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และคณะแพทย์และพยาบาล ผู้ถวายการรักษาตามรับเสด็จฯ ท่ามกลางความปลื้มปิติของประชาชนที่ทราบข่าวต่างพากันเฝ้ารับเสด็จฯตลอดทั้งสองเส้นทางที่ขบวนผ่าน โดยพสกนิกรเมื่อได้เห็นพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงต่างพากันเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
จากนั้นเวลา 14.18 น. ขบวนรถตู้พระที่นั่งไปถึงยังหอประชุมกองทัพเรือ (อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์) โดยมี พล.ร.อ.พจนา เผือกผ่อง รองผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.ท.พลเดช เจริญพูล รองเสนาธิการทหารเรือ พล.ร.ท.ลือชัย รุดดิษฐ์ เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ พร้อมด้วยนายทหารและเจ้าหน้าที่ รอเผ้ารับเสด็จฯ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ลายแพะสีม่วงขาว พระสนับเพลาสีดำ รองพระบาทหนังสีดำ ทรงมีพระพักตร์ที่แจ่มใส
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จยังห้องชมชลธี ชั้น 3 อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อประทับเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ พร้อมทอดพระเนตรทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ พระบรมมหารารชวัง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร เป็นต้น และเสวยพระสุธารส ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินกลับยังที่ประทับ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ในเวลา 15.28 น. รวมระยะเวลาเสด็จ 1 ชั่วโมง 10 นาที
สำหรับหอประชุมกองทัพเรือ หรืออาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวัง ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2545 ในพื้นที่ของกองทัพเรือ เพื่อใช้รองรับการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค (APEC) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2546 และเนื่องจากหอประชุมแห่งนี้มีชื่อเสียง ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม และเป็นจุดชมทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงาม จึงได้รับเกียรติให้ใช้จัดงานพิธีและกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญในระดับชาติและนานาชาติอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2549 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และพระประมุขกับพระราชวงศ์ต่างประเทศ ที่ทรงเข้าร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มาทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี ณ ราชนาวิกสภา และทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่หอประชุมกองทัพเรือแห่งนี้
จากนั้นเวลา 14.18 น. ขบวนรถตู้พระที่นั่งไปถึงยังหอประชุมกองทัพเรือ (อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์) โดยมี พล.ร.อ.พจนา เผือกผ่อง รองผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.ท.พลเดช เจริญพูล รองเสนาธิการทหารเรือ พล.ร.ท.ลือชัย รุดดิษฐ์ เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ พร้อมด้วยนายทหารและเจ้าหน้าที่ รอเผ้ารับเสด็จฯ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ลายแพะสีม่วงขาว พระสนับเพลาสีดำ รองพระบาทหนังสีดำ ทรงมีพระพักตร์ที่แจ่มใส
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จยังห้องชมชลธี ชั้น 3 อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อประทับเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ พร้อมทอดพระเนตรทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ พระบรมมหารารชวัง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร เป็นต้น และเสวยพระสุธารส ก่อนจะเสด็จพระราชดำเนินกลับยังที่ประทับ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ในเวลา 15.28 น. รวมระยะเวลาเสด็จ 1 ชั่วโมง 10 นาที
สำหรับหอประชุมกองทัพเรือ หรืออาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านตรงข้ามกับพระบรมมหาราชวัง ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2545 ในพื้นที่ของกองทัพเรือ เพื่อใช้รองรับการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค (APEC) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2546 และเนื่องจากหอประชุมแห่งนี้มีชื่อเสียง ทั้งในด้านสถาปัตยกรรม และเป็นจุดชมทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงาม จึงได้รับเกียรติให้ใช้จัดงานพิธีและกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญในระดับชาติและนานาชาติอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2549 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และพระประมุขกับพระราชวงศ์ต่างประเทศ ที่ทรงเข้าร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มาทอดพระเนตรขบวนเรือพระราชพิธี ณ ราชนาวิกสภา และทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่หอประชุมกองทัพเรือแห่งนี้