วันนี้ (23 เม.ย.) เป็นวันแรกของการเปิดให้เดินทางเข้าตรวจสอบงาช้างบ้าน วัดขนาด ชั่งน้ำหนัก ถ่ายรูป และติดสติกเกอร์เลขที่จดแจ้ง พร้อมมอบใบรับรองการครอบครองงาช้างให้ ภายหลังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้เปิดให้ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ได้แจ้งการครอบครองงาช้างบ้าน ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม - 21 เมษายน ที่ผ่านมา รวมระยะเวลา 90 วัน ตามพระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ.2558
ทั้งนี้ มีประชาชนนำงาช้างบ้าน ทั้งงาช้างสมบูรณ์ งาช้างท่อน และผลิตภัณฑ์ทำจากงาช้าง (เช่น ฐานไม้ ด้ามมีด หัวแหวน หัวเข็มขัด สร้อย) พร้อมใบนัดหมายของกรมอุทยานฯ มาตรวจสอบ โดยกรมอุทยานฯ ได้เปิดให้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานวันละ 100 รายตามลำดับ ที่ได้แจ้งไว้ แบ่งเป็น ช่วงเช้า 50 ราย และ ช่วงบ่าย 50 ราย ยกเว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากเมื่อวันสุดท้ายของการเปิดให้แจ้งครอบครองงาช้างบ้าน วันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา มีผู้มาแจ้งครอบครองตกค้างประมาณ 8,000 ราย ที่ไม่ได้มีการนำงาช้างและผลิตภัณฑ์งาช้างมาให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯตรวจสอบ ทั้งนี้ ในส่วนกลาง คือ พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีตกค้างการแจ้งขึ้นทะเบียนครอบครองงาช้างไว้ประมาณ 6,000 ราย
จากการสอบถามผู้ที่ได้แจ้งครอบครองงาช้างและนำงาช้างมาตรวจสอบพร้อมรับเอกสารใบครอบครองงาช้าง กล่าวว่า ได้นำกำไลข้อมือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้าง 2 ชิ้น รวมน้ำหนัก 0.5 กิโลกรัม มาให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ตรวจสอบ โดยตนเองได้ซื้อกำไลงาช้างดังกล่าวมากว่า 10 ปีแล้ว ในราคาวงละ 25,000 บาท ซึ่งการมาแจ้งการครอบครองช่วยให้สบายใจขึ้นว่าได้ครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ มีประชาชนนำงาช้างบ้าน ทั้งงาช้างสมบูรณ์ งาช้างท่อน และผลิตภัณฑ์ทำจากงาช้าง (เช่น ฐานไม้ ด้ามมีด หัวแหวน หัวเข็มขัด สร้อย) พร้อมใบนัดหมายของกรมอุทยานฯ มาตรวจสอบ โดยกรมอุทยานฯ ได้เปิดให้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานวันละ 100 รายตามลำดับ ที่ได้แจ้งไว้ แบ่งเป็น ช่วงเช้า 50 ราย และ ช่วงบ่าย 50 ราย ยกเว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากเมื่อวันสุดท้ายของการเปิดให้แจ้งครอบครองงาช้างบ้าน วันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา มีผู้มาแจ้งครอบครองตกค้างประมาณ 8,000 ราย ที่ไม่ได้มีการนำงาช้างและผลิตภัณฑ์งาช้างมาให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯตรวจสอบ ทั้งนี้ ในส่วนกลาง คือ พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีตกค้างการแจ้งขึ้นทะเบียนครอบครองงาช้างไว้ประมาณ 6,000 ราย
จากการสอบถามผู้ที่ได้แจ้งครอบครองงาช้างและนำงาช้างมาตรวจสอบพร้อมรับเอกสารใบครอบครองงาช้าง กล่าวว่า ได้นำกำไลข้อมือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้าง 2 ชิ้น รวมน้ำหนัก 0.5 กิโลกรัม มาให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ตรวจสอบ โดยตนเองได้ซื้อกำไลงาช้างดังกล่าวมากว่า 10 ปีแล้ว ในราคาวงละ 25,000 บาท ซึ่งการมาแจ้งการครอบครองช่วยให้สบายใจขึ้นว่าได้ครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย