พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พอใจกับการประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกา ณ กรุงจากาตาร์ ประเทศ อินโดนีเซีย ที่ไทยได้ใช้โอกาสแสดงให้เห็นว่า ไทยมีความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงของเอเชีย-แอฟริกา ทั้งด้านการเกษตรการค้า การลงทุน
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ทุกประเทศเชื่อมั่นในความมีเสถียรภาพของไทย ทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง และย้ำว่า การใช้มาตรา 44 เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ทำงานได้เท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์และการประมง ส่วนการหารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ ต่างมุ่งหวังที่จะเพิ่มความสัมพันธ์กับไทยให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะ ความร่วมมือทางการเกษตร การค้าการลงทุน
นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่า ขอให้เร่งดำเนินการโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อจะได้เป็นฐานการค้า การลงทุน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดหารือกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย เวลา 13.30 น.
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ทุกประเทศเชื่อมั่นในความมีเสถียรภาพของไทย ทั้งด้านการเมืองและความมั่นคง และย้ำว่า การใช้มาตรา 44 เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ทำงานได้เท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์และการประมง ส่วนการหารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ ต่างมุ่งหวังที่จะเพิ่มความสัมพันธ์กับไทยให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะ ความร่วมมือทางการเกษตร การค้าการลงทุน
นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่า ขอให้เร่งดำเนินการโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวายให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อจะได้เป็นฐานการค้า การลงทุน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ นายกรัฐมนตรี มีกำหนดหารือกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย เวลา 13.30 น.