พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีข้อกังวลเปิดช่องให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีในร่างรัฐธรรมนูญ ว่า หลายประเทศก็เป็นแบบนี้ และนายกฯ ก็ต้องเป็นคนในประเทศ ไม่ใช่คนนอกประเทศ ทั้งนี้นายกฯ จะมาอย่างไร ตนไม่ทราบ แต่ที่ทราบ ส.ส. เป็นคนเลือกนายกฯ จะเป็นหรือไม่เป็น ส.ส. ก็ได้ แต่คนเลือกจะต้องเป็น ส.ส.ไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนข้อถามที่ว่ากรณีนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากตัวแทนของประชาชนนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะเอาอย่างไรก็ได้ ตนไม่ได้มีไฟเขียว หรือ ไฟดำ ไฟแดง อะไรเลย ก็ให้ไปตกลงกันไป
ทั้งนี้เป็นเรื่องของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่างฯ) ต้องคุยกันว่าจะเอาแบบไหน ที่เห็นว่าประเทศสามารถที่จะอยู่ได้ ทั้งนี้ตนคิดว่าเจตนารมณ์ของผู้ร่างฯ ก็เพื่อต้องการเปิดช่อง เพราะเมื่อถึงเวลามันไม่สามารถเดินไปก็จะต้องมาแก้ไขปัญหาแบบนี้อีก ซึ่งการดำเนินการไม่ต้องการให้เกิดในลักษณะนี้ จึงได้เปิดโอกาส ส.ส.สามารถเลือกคนที่เหมาะสม หรือ เป็นกลางที่ไม่มีพวกมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาในชั้นต้น “ผมว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แต่ปกติแล้ว ส.ส.ก็จะต้องเลือกคนที่เป็น ส.ส. ที่มาจากพรรคการเมืองอยู่แล้ว ส่วนการทำประชามตินั้น โอกาสจะทำ หรือ ไม่ทำเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ต้องดูในอนาคตว่าควร หรือ ไม่ควรทำ ซึ่ง สปช.ก็ต้องดำเนินการ ว่าควรจะมีประชามติหรือไม่ ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนว่าห้าม ไม่ได้เขียนว่าต้องทำ
ทั้งนี้เป็นเรื่องของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.ยกร่างฯ) ต้องคุยกันว่าจะเอาแบบไหน ที่เห็นว่าประเทศสามารถที่จะอยู่ได้ ทั้งนี้ตนคิดว่าเจตนารมณ์ของผู้ร่างฯ ก็เพื่อต้องการเปิดช่อง เพราะเมื่อถึงเวลามันไม่สามารถเดินไปก็จะต้องมาแก้ไขปัญหาแบบนี้อีก ซึ่งการดำเนินการไม่ต้องการให้เกิดในลักษณะนี้ จึงได้เปิดโอกาส ส.ส.สามารถเลือกคนที่เหมาะสม หรือ เป็นกลางที่ไม่มีพวกมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาในชั้นต้น “ผมว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แต่ปกติแล้ว ส.ส.ก็จะต้องเลือกคนที่เป็น ส.ส. ที่มาจากพรรคการเมืองอยู่แล้ว ส่วนการทำประชามตินั้น โอกาสจะทำ หรือ ไม่ทำเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ต้องดูในอนาคตว่าควร หรือ ไม่ควรทำ ซึ่ง สปช.ก็ต้องดำเนินการ ว่าควรจะมีประชามติหรือไม่ ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนว่าห้าม ไม่ได้เขียนว่าต้องทำ