นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 34 จังหวัด 211 อำเภอ 1,136 ตำบล 10,288 หมู่บ้าน ถือว่าครอบคุลมพื้นที่ค่อนข้างมาก แต่รุนแรงครอบคลุมทุกอำเภอทั้งจังหวัดมีเพียงไม่กี่จังหวัดเท่านั้น โดยกรมทรัพยากรน้ำ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง เช่น จังหวัดขอนแก่น ที่ประสบภัยแล้งแล้ว 9 อำเภอ ส่วนใหญ่กรมทรัพยากรน้ำได้เร่งสูบน้ำเข้าพื้นที่ให้กับประชาชนที่ต้องการน้ำ ควบคู่กับการจัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายและเติมน้ำให้ประชาชนตามท้องถิ่นต่าง ๆ ซึ่งจากสภาพอากาศที่แปรปรวนจะเกิดพายุฤดูร้อนระหว่างวันที่ 21-24 เมษายนนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารและการประกาศแจ้งเตือนจากหน่วยงานราชการต่อเนื่อง เพราะอาจสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับพื้นที่การเกษตร ชีวิต และทรัพย์สินได้ เชื่อว่า ปริมาณน้ำฝนที่เกิดจากพายุฤดูร้อน จะช่วยผ่อนคลายภัยแล้งในบางพื้นที่ลงได้
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า ขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเกิดภัยแล้งใหม่ 15 พื้นที่ เช่น ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี สุพรรณบุรี สุรินทร์ ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่หาสาเหตุการเกิดภัยแล้ง เช่น น้ำต้นทุนไม่มี น้ำใต้ดินไม่มี เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือให้ทันท่วงที
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า ขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเกิดภัยแล้งใหม่ 15 พื้นที่ เช่น ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี สุพรรณบุรี สุรินทร์ ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่หาสาเหตุการเกิดภัยแล้ง เช่น น้ำต้นทุนไม่มี น้ำใต้ดินไม่มี เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือให้ทันท่วงที