นายพินิติ รตะนานุกูล กล่าวถึงการถูกโยกย้ายจากตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และให้ไปดํารงตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ไม่เคยทราบจากใครมาก่อน เป็นเรื่องที่กะทันหันมาก เพิ่งทราบตอนประมาณ 16.00น.วานนี้(17เม.ย.) รู้สึกตกใจ แต่เป็นหน่วยงานที่เคยอยู่มาถึง 35 ปี ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง โดยก่อนมาเป็นเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา 4 ปี ไปเป็นผู้ตรวจฯ1ปี และกลับมาเป็นรองฯ อีก ก่อนมาเป็นเลขาธิการสภาการศึกษา และมีคำสั่งให้ย้ายกลับไปครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเดาไม่ถูกกับคำสั่งครั้งนี้ว่าเพราะเหตุผลใด อาจจะให้ตนกลับมาเกษียณที่เดิม เพราะอีก 5 เดือนก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว ส่วนนางสุทธศรี วงษ์สมาน อดีตปลัดกระทรวงศึกษาที่ย้ายกลับมาเป็นเลขาธิการสภาการศึกษาแทน ก็เป็นหน่วยงานเก่าที่นางสุทธศรีเคยอยู่ รู้งานของสภาการศึกษาอย่างดี โดยวันนี้ก็จะเข้าไปเคลียร์งานและเก็บของ วันจันทร์ก็เข้าไปทำงานที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เลย
ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาลงประกาศคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ง ชาติ(คสช.) ที่ 6/2558 เรื่อง การกําหนดตําแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดํารงตําแหน่งเพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวง ศึกษาธิการมีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเดาไม่ถูกกับคำสั่งครั้งนี้ว่าเพราะเหตุผลใด อาจจะให้ตนกลับมาเกษียณที่เดิม เพราะอีก 5 เดือนก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว ส่วนนางสุทธศรี วงษ์สมาน อดีตปลัดกระทรวงศึกษาที่ย้ายกลับมาเป็นเลขาธิการสภาการศึกษาแทน ก็เป็นหน่วยงานเก่าที่นางสุทธศรีเคยอยู่ รู้งานของสภาการศึกษาอย่างดี โดยวันนี้ก็จะเข้าไปเคลียร์งานและเก็บของ วันจันทร์ก็เข้าไปทำงานที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เลย
ทั้งนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาลงประกาศคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ง ชาติ(คสช.) ที่ 6/2558 เรื่อง การกําหนดตําแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดํารงตําแหน่งเพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวง ศึกษาธิการมีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557