พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามการปฏิบัติงานตาม "โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ" ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า การปฏิบัติงานของทุกสถานีตำรวจที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการนำแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) และ QR Code มาใช้อย่างได้ผล สามารถติดต่อสื่อสารสองทางระหว่างสายตรวจและเจ้าของบ้านได้ตลอดเวลา จนถึงขณะนี้ไม่พบเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับบ้านที่เข้าร่วมโครงการ
ในขณะที่การตรวจตราและเฝ้าระวังบ้านเรือนของประชาชนโดยทั่วไป เป็นไปตามมาตรการต่างๆ ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยหลังเทศกาลเสร็จสิ้นจะมีการประเมินผลโครงการ และสรุปสถิติการเกิดคดีการโจรกรรมทรัพย์สินในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
จนถึงขณะนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ 4,212 หลัง ในจำนวนนี้เป็นยอดฝากบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1,470 หลัง โดย สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย รับฝากบ้านไว้มากที่สุด 60 หลัง รองลงไป 10 ลำดับ ได้แก่ สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง 57 หลัง ท่าข้าม 47 หลัง ลาดพร้าว 43 หลัง คลองตัน 37 หลัง บางนา 37 หลัง พหลโยธิน 36 หลัง โคกคราม 36 หลัง บางเขน 36 หลัง ดอนเมือง 35 หลัง และ หัวหมาก 34 หลัง
สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัด มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น 2,742 หลัง โดยตำรวจภูธรภาค 1 รับฝากบ้านไว้จำนวน 694 หลัง ภาค 2 จำนวน 359 หลัง ภาค 3 จำนวน 271 หลัง ภาค 4 จำนวน 396 หลัง ภาค 5 จำนวน 214 หลัง ภาค 6 จำนวน 379 หลัง ภาค 7 จำนวน 234 หลัง ภาค 8 จำนวน 129 หลัง ภาค 9 จำนวน 62 หลัง และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) 4 หลัง
โดยในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล จังหวัดสมุทรปราการ รับฝากบ้านไว้มากที่สุด 168 หลัง รองลงไป ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี 154 หลัง และปทุมธานี 134 หลัง
จากข้อมูลการฝากบ้าน พบว่าผู้ที่เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่จะเดินทางกลับถึงบ้านในช่วงเย็นของวันพุธที่ 15 เมษายนนี้ วันหยุดวันสุดท้ายก่อนเริ่มงานในวันรุ่งขึ้น และอีกจำนวนหนึ่งที่จะเดินทางกลับในวันที่ 16 เมษายน วันสุดท้ายของการดำเนินการตามโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้สายตรวจเฝ้าระวังและตรวจตราระมัดระวังอย่างเข้มข้น ทั้งบ้านที่เข้าร่วมโครงการและบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป
ในขณะที่การตรวจตราและเฝ้าระวังบ้านเรือนของประชาชนโดยทั่วไป เป็นไปตามมาตรการต่างๆ ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยหลังเทศกาลเสร็จสิ้นจะมีการประเมินผลโครงการ และสรุปสถิติการเกิดคดีการโจรกรรมทรัพย์สินในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
จนถึงขณะนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ 4,212 หลัง ในจำนวนนี้เป็นยอดฝากบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1,470 หลัง โดย สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย รับฝากบ้านไว้มากที่สุด 60 หลัง รองลงไป 10 ลำดับ ได้แก่ สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง 57 หลัง ท่าข้าม 47 หลัง ลาดพร้าว 43 หลัง คลองตัน 37 หลัง บางนา 37 หลัง พหลโยธิน 36 หลัง โคกคราม 36 หลัง บางเขน 36 หลัง ดอนเมือง 35 หลัง และ หัวหมาก 34 หลัง
สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัด มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้น 2,742 หลัง โดยตำรวจภูธรภาค 1 รับฝากบ้านไว้จำนวน 694 หลัง ภาค 2 จำนวน 359 หลัง ภาค 3 จำนวน 271 หลัง ภาค 4 จำนวน 396 หลัง ภาค 5 จำนวน 214 หลัง ภาค 6 จำนวน 379 หลัง ภาค 7 จำนวน 234 หลัง ภาค 8 จำนวน 129 หลัง ภาค 9 จำนวน 62 หลัง และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) 4 หลัง
โดยในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล จังหวัดสมุทรปราการ รับฝากบ้านไว้มากที่สุด 168 หลัง รองลงไป ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี 154 หลัง และปทุมธานี 134 หลัง
จากข้อมูลการฝากบ้าน พบว่าผู้ที่เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่จะเดินทางกลับถึงบ้านในช่วงเย็นของวันพุธที่ 15 เมษายนนี้ วันหยุดวันสุดท้ายก่อนเริ่มงานในวันรุ่งขึ้น และอีกจำนวนหนึ่งที่จะเดินทางกลับในวันที่ 16 เมษายน วันสุดท้ายของการดำเนินการตามโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้สายตรวจเฝ้าระวังและตรวจตราระมัดระวังอย่างเข้มข้น ทั้งบ้านที่เข้าร่วมโครงการและบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป
