สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันหยุดของเทศกาลสงกรานต์ของคนไทย และเป็นวันที่สำคัญต่อสถาบันครอบครัวด้วย วันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายน และวันครอบครัวไทย 14 เมษายน ผมขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ กลับไปหาพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้มีพระคุณ สวดมนต์ไหว้พระ ขอพร เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตด้วย
รัฐบาลมีความห่วงใยในเรื่องของการสัญจรไปมา การเดินทาง ทั้งในส่วนของทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ก็ตาม ก็เป็นห่วง เราได้มีการรณรงค์ผ่านโครงการ แล้งนี้ไม่แล้งน้ำใจ ขับขี่ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ลดการใช้โลหิต คือหมายความว่าอย่าให้ต้องมีการท่องเที่ยวกันแล้วเสียเลือดเนื้อ ต้องมีการใช้การบริการเลือดเป็นจำนวนมาก เหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา ก็อยากให้เป็นเทศกาลแห่งความสุขทั่วหน้า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานส่วนท้องถิ่น อปพร. อาสาสมัคร ตำรวจ ทหารที่เสียสละเวลาทุ่มเทแรงกายในห้วงวันหยุดยาว เพื่อจะดูแลความปลอดภัย ดูแลบ้านให้กับประชาชน การบริการจัดจุดพักรถพักสายตา จุดบริการประชาชน ซ่อมยานพาหนะ มีการบริการทางการแพทย์ การตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ ตั้งป้ายจราจร ป้ายบอกทาง และเส้นทางลัดอื่นๆ จะช่วยให้ทุกคนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย บรรดาคนขับรถสิบล้อ พนักงานขับรถสาธารณะพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ ไม่ดื่มสุรา เพราะว่าชีวิตทุกคนนั้นฝากไว้กับท่าน ลองดูว่าเราจะขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย มีความสุข ลดอันตรายต่อชีวิตตนเองและผู้อื่น ท่านจะต้องทำให้เรารู้สึกว่า ประเทศชาติของเรานั้น น่าอยู่ขนาดไหน นอกจากนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมดีงามของไทย รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม ได้มีการรณรงค์โครงการให้ประชาชนเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ตามวิถีปฏิบัติอย่างเหมาะสม เช่นการแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ใส่เสื้อผ้าที่ล่อแหลม กิริยาไม่สุภาพ ไม่ใช่วัฒนธรรมของเรา และก็ให้ต่างชาติประทับใจ พร้อมทั้งรณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไหมผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง เสื้อลายดอก ต้องขอความร่วมมือในการงดจำหน่ายสุราด้วยนะครับ งดดื่มเครื่องดื่มมึนเมา ในบริเวณที่จัดกิจกรรมงานสงกรานต์ ก็ขอความร่วมมือกับประชาชนที่เล่นน้ำว่าต้องไม่ให้มีสิ่งเจือปน แป้ง น้ำแข็ง รวมทั้งงดการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง อย่าให้ผิดกฎหมาย หรืออุปกรณ์เล่นน้ำอื่นที่ทำให้เกิดอันตราย รวมถึงไม่ขับรถกระบะบรรทุกน้ำไปในที่ชุมชนหรือบริเวณจัดงานนะครับ โดยรณรงค์ให้ใช้ขันน้ำตามประเพณีดั้งเดิม การส่งเสริมภาพลักษณ์เรื่องการแสดงกิจกรรมที่เหมาะสม ในการเล่นน้ำงกรานต์ งดการแสดงหรือการต้นที่ไม่เหมาะต่อวัฒนธรรมไทย อย่างเช่นที่ผ่านมาทุกครั้ง ก็จะมีบุคคลเหล่านี้อยู่ เพราะฉะนั้นขอให้มีการกำหนดเวลาการเล่นน้ำที่ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการจราจร และป้องกันการเกิดอาชญากรรมในยามวิกาลด้วย
ช่วงนี้อากาศร้อน เรามีความเสี่ยงในเรื่องพายุฤดูร้อน 2-3 ครั้งที่ผ่านมา ก็มีอันตรายเกิดขึ้น เราก็ได้เตือนไปแล้วแต่ยังมีจุดบกพร่องอยู่ เพราะฉะนั้นหลายพื้นที่ของประเทศจะประสบปัญหาฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตก ผมขอให้พี่น้องทุกคนรักษาสุขภาพ ในส่วนของรัฐบาลผมได้สั่งการให้ทุกกระทรวงตรวจสอบความเสี่ยง ดำเนินมาตรการป้องกันเชิงรุก เช่น การตรวจสอบ แก้ไขโครงสร้างของป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า ต้นไม้ใหญ่ริมทาง ไม่ให้เกิดความเสียหาย โค่นล้มลงมา มีผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเตรียมคนและเครื่องมือให้พร้อมสำหรับความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน เยียวยา เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วอย่างทันที ช่วยกันดูแลนะครับ
รวมความไปถึงเรื่องขยะ ขณะนี้ก็มีปัญหาในเรื่องการระบายน้ำ ท่อระบายน้ำเต็มไปด้วยขยะ ซึ่งเราก็คงโทษเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกัน ผมได้รับรายงานว่า ในแต่ละวันคลองบางคลองที่มีเครื่องมือในการกำจัดขยะรวบรวมขยะในแต่ละวันมีขยะที่เป็นถุงพลาสติก หรือของที่มันทำให้ท่ออุดตันเป็นจำนวนมาก วันละประมาณ 30 ตัน อุดตันทำให้ระบายน้ำไม่ออก ส่วนใหญ่จะเป็นคลองที่มีประชาชนอยู่อาศัยตามแนวคลองทั้งสิ้น จะทิ้งลงไปในคลองบ้าง หรือแม้แต่ขยะตามบ้านเรือนก็ตาม ทิ้งลงไปไหลไปอุดท่อที่น้ำจะลงไปในท่อใหญ่ มันก็เกิดปัญหาหมด น้ำก็ท่วม ถ้าไม่ช่วยกันแบบนี้ก็ไปไม่ไหว รัฐบาลก็ทำไม่ไหว ก็อย่าโทษกันไปมาแล้วกัน มาร่วมมือกันทำ
สำหรับในเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศ เมื่อวันพุธที่ 8 เมษายนที่ผ่านมานั้น มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรี นายดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และคณะ ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล นับเป็นการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 25 ปี ของนายกรัฐมนตรีรัสเซีย
ทั้งนี้ รัสเซียกับไทยนั้น เป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมาอย่างยาวนานเกือบ 120 ปีแล้ว ปัจจุบันก็ประมาณ 118 ปี 2560 จะครบ 120 ปี ในการเดินทางมาไทยครั้งนี้ จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดให้มากขึ้น ยาวนานแต่ค่อนข้างที่จะมีความสัมพันธ์กันในแต่ละมิตินั้นค่อนข้างจะน้อย วันนี้เราจะต้องเพิ่มกันให้มากขึ้น ก็จะเป็นการยกระดับความร่วมมือในทุกมิติ บนพื้นฐานของการมีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยผมและท่านนายกรัฐมนตรีเมดเวเดฟ ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามในเอ็มโอยูภาครัฐ 5 ฉบับ จะครอบคลุมในเจตนารมณ์ของเรา ของผู้นำสองประเทศ และของสองประเทศนั้นด้วยเรื่องของการลงทุน เรื่องพลังงาน เรื่องวัฒนธรรม เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องการต่อต้านยาเสพติด ซึ่งผมก็เรียนให้พี่น้องทราบพอสังเขปไปบ้างแล้ว ก็จะเพิ่มเติมในเรื่องด้านเศรษฐกิจดังนี้ เราจะร่วมกันผลักดันให้การค้าทวิภาคีเติบโตขึ้นจาก 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ให้เป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปีหน้า โดยการเปิดตลาดสินค้าระหว่างกัน การลดอุปสรรค และอำนวยความสะดวกทางการค้า ผมได้ขอให้นายกรัฐมนตรีรัสเซียได้พิจารณานำเข้ายางพารา สินค้าเกษตรอื่น ๆ และอาหาร เช่น ข้าว เนื้อหมูแช่แข็ง ผักและผลไม้สด รวมทั้งได้เชิญชวนรัสเซียให้เข้ามาร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ของไทย ตามยุทธศาสตร์แผนการลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนผู้ประกอบการของไทยก็มีความสนใจจะไปลงทุนในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอาหารในรัสเซียเพิ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายจะอำนวยความสะดวกให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ แก่นักลงทุน ภาคเอกชนอย่างเต็มที่
ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รัสเซียปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าในด้านนี้สูงกว่าเรามากนะครับ ?ทั้งในด้านการศึกษาและการวิจัย และการนำผลวิจัยมาผลิตเป็นสินค้า เราจะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กับ ศูนย์นวัตกรรสโคลโกโว อินโนเวชั่น เซนเตอร์ (Skolkovo Innovation Center) นอกจากนั้นยังเห็นพ้องหลายๆ เรื่องนะครับ เช่น การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ การแพทย์ และอวกาศ การสานต่อความร่มมือในด้านการส่งเสริมธุรกิจปิโตเลียมและการพัฒนาบุคลากรในด้านนี้ และการร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมนำทางอีกด้วย แนวทางในการสานต่อความร่มมือต่อไปอย่างยั่งยืน และเป็นที่หน้ายินดี คือ มอสโก รีเจียน สเตด ยูนิเวอร์ซิตี (Moscow Region State University) กับวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการพัฒนาหลักสูตรมัคคุเทศก์และภาษารัสเซีย นอกจากนี้ ยังมีการลงนามความตกลงของภาคเอกชนอีก 5 ฉบับ เกี่ยวกับความร่วมมือภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย ในด้านหนึ่ง คือ การสำรวจตลาดและกระจายสินค้ารัสเซียในไทย สอง คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจ สาม ความร่วมมือด้านการลงทุนในประเทศที่สาม สี่ ความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมนำทาง ห้า ความร่วมมือด้านการศึกษาในสาขาการบริหารจัดการท่องเที่ยวและการโรงแรม คือต้องเพิ่มทั้งสองด้าน ทั้งเราไปเขา และเขามาเราด้วย ทั้งหมด ทุกประเด็น
ทั้งนี้ ผมได้สั่งการให้ขยายผลความร่วมมือดังกล่าวไปสู่แผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม ให้เร่งดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมทวิภาคีไทย-รัสเซีย ซึ่งเราจะมีการประชุมในกลางปีนี้ ก็ต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อน เราจะได้ก้าวหน้าโดยทันที ไม่ใช่ต้องรอประชุมกันอีกครั้ง และต้องมาสั่งกันอีกครั้ง ไม่เอา ผมได้ตกลงกันท่านแล้วว่า ในระหว่างที่ก่อนจะประชุม หาข้อมูล หาข้อยุติให้ได้เรียบร้อย แล้วจะได้ดำเนินการได้ทันที
สำหรับข้อตกลงอื่นๆ กับประเทศอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน เราก็จะเร่งรัดขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม และตรงความต้องการของเรา แล้วก็ให้ความเป็นธรรมกับมิตรประเทศเหล่านั้นด้วย เราพร้อมจะเป็นมิตรกับทุกประเทศในโลกนี้ เราใช้หลักการคือ พื้นฐานแห่งความไว้วางใจ ลดความหวาดระแวง และมีผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน ทุกประเทศมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่ หรือประเทศเล็ก
ในเรื่องของภาพรวมทางเศรษฐกิจ วันนี้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงทรงตัวอยู่ ตลาดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสหภาพยุโรป เศรษฐกิจยังหด อัตราการว่างงานสูง เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ค่อยๆ ฟื้นตัวนะครับ เศรษฐกิจจีนชะลอการขยายตัวลงบ้างเล็กน้อย และเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ชะลอตัวเช่นเดียวกัน อันนี้มันเป็นทุกประเทศนะครับ ทุกประเทศก็พยายามจะแก้ไขปัญหาอยู่ ประเทศไทยอาจจะเผชิญมากหน่อย เพราะเราต้องพึ่งพาต่างประเทศ อาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำไป วันนี้เราต้องผลิตเองใช้เอง และเพิ่มมูลค่าของสินค้าต่างๆ เหล่านั้น ให้มีราคาสูงขึ้นเพื่อเป็นรายได้ของประเทศ หากเราไม่แข็งแรงพอ เราก็ต้องนำเข้าสินค้าอื่นๆ เขาเข้ามา ก็ทำให้มูลค่าของสินค้านำเข้าสูงขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าส่งออกของเราก็ส่งได้น้อยลง ราคามันตกต่ำ โดยเฉพาะสินค้าด้านเกษตรกรรรม อันนี้ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย มันไม่สามารถจะถ่วงดุลกันได้
เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเราซับซ้อน เราต้องสร้างความเข้มแข็งก่อน วันนี้เศรษฐกิจของเราก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองของต่างประเทศ ในประเทศก็ต้องพยายามเข้าใจกัน ต่างประเทศเขามองเราอย่างไร ขณะนี้ก็มีบริษัทจัดลำดับของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ อาทิเช่น บริษัท เจแปน เครดิต เรทติ้ง เอเยนซี่ (JCR) ของญี่ปุ่น ได้ประกาศความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลไทย โดยปรับมุมมองจากลบเป็นมีเสถียรภาพ
สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค กระทรวงพาณิชย์ รายงานเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมว่า ราคาสินค้าในภาพรวมลดลงร้อยละ 0.57 บางอย่างมันก็ลดมากลดน้อยก็ถัวเฉลี่ยกันไป หรือต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่งถูกลง เราก็เข้าไปควบคุมดูแลด้วย ถ้าต้นทุนมันไม่ได้เพิ่มขึ้นมันไม่สมควรที่จะขึ้นราคา ถ้าขึ้นราคามันต้องดำเนินการต่อไปในทางกฎหมายบ้าง ต้องขอร้องกัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าราคาเชื้อเพลิงจะถูกลง ก็ต้องประหยัดกัน ประหยัดการใช้พลังงานบ้าง ก็จะช่วยลดการทำให้โลกร้อนด้วย
ในภาคอุตสาหกรรม ล่าสุดผมได้รับรายงานว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ ระดับที่สูงที่สุดในรอบ 23 เดือน เนื่องจากการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร การกลั่นน้ำมัน รถยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวดี อุตสาหกรรมรถยนต์ก็ส่งสัญญาณที่ดี ดูจากการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ ขยายตัวกว่าร้อยละ 11.3
นอกจากนี้ ยอดการจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ที่เพิ่งจะผ่านไปจำนวน 37,000 คัน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตัวเลขจะน้อยลง แต่ก็เป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท แสดงว่าคนไทยก็ยังมีสตางค์ และซื้อรถยนต์ที่มีราคาสูงขึ้น ถึงแม้ว่ารถยนต์ขนาดเล็กราคาถูกจะน้อยลง อันนี้ต้องดูว่าดีมานด์ มันเป็นดีมานด์แท้หรือเทียม ในช่วงที่ผ่านมา ฉะนั้นราคาที่ค้าขายรถยนต์ในปีนี้คนดูมากขึ้น ขายรถน้อยลง แต่เม็ดเงิน 46,000 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ได้ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา
ในภาคเกษตรกรรม รัฐบาลต้องการสร้างความเข้มเเข็ง ให้เกษตรกรไทยมีความมั่นคงในอาชีพอย่างยั่งยืน เราจะเน้นฤดูกาลใหม่นี้ โดยการเข้าไปดูแลทั้งระบบให้เป็นรูปธรรม ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง จากขั้นตอนการผลิต จนถึงการตลาด การบริโภคภายในประเทศ มาตรการในการลดต้นทุนการผลิตนั้น รัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการ ให้ลดราคาปุ๋ยเคมี และเรียกบริษัทประกอบการปุ๋ยมาพบ จริงๆ แล้วเราอยากให้ใช้น้อยที่สุด ไปใช้ปุ๋ยอินทรีย์แต่มันก็จำเป็น เพราะดินบ้านเรามันใช้ปุ๋ยเคมีมานาน และวันนี้ก็ใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเดียวมันก็ไม่ฟื้นนะ ต้องผสมไปก่อนให้มันลดลง และวันไหนไม่ต้องใช้ได้เลยยิ่งดี บางพื้นที่ไม่ต้องใช้ได้ เราต้องผลิตปุ๋ยอินทรีย์ขึ้นมาเอง ขายกันเอง ให้เกษตรกรผลิตหรือรัฐจะผลิตก็ได้ วันนี้ก็ได้สั่งให้กระทรวงเกษตรไปเพิ่มเติมเรื่องการผลิตปุ๋ยอินทรีย์แล้ว ก็เป็นรูปแบบสหกรณ์หรือชุมชน
ในเรื่องสารการกำจัดศัตรูพืชได้มีการผลิตหลายอย่างออกมา ทั้งในส่วนของน้ำยาเคมี ในส่วนของแมลงกำจัดโรค เมล็ดพันธุืที่มีคุณภาพ ราคาถูก และส่งเสริมให้ประชาชน เกษตรกรได้ไปเพาะปลูกที่มันมีราคาที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตามก็ต้องควบคุมนะครับ ไม่ใช่เปลี่ยนพฤติกรรมไปปลูกที่มีราคาแพง ราคาสูง คุณภาพสูงอย่างเดียว และก็ปลูกมากเกินไป ต้องระวังเรื่องข้าวไรซ์เบอรี่เหมือนกันนะ ปลูกกันใหญ่โต มันต้องการแค่ไหน อย่างไร จนล้นตลาดอีก เพราะฉะนั้นต้องแบ่งพื้นที่ชัดเจน แบ่งกลุ่ม สร้างความเข้าใจเกษตรกร ไปดูแล ต้องให้เข้าไปดูว่าพื้นที่ไหนควรจะปลูกอะไรต่างๆ และมาดูว่าเรามีความต้องการกันอย่างไรในประเทศ ต้องการขนาดไหน ที่จะขายต่างประเทศ ที่เหลือควรจะสำรองไว้ไหม กรณีที่ขาดน้ำขาดแคลนน้ำในห้วงฤดูการต่อไป มันต้องมีสำรองไม่ใช่ผลิตอย่างเดียว แล้วก็เก็บ แล้วก็ไปอุดหนุนกันเข้ามา แล้วก็เก็บไว้ในคลัง มันไม่ใช่ความยั่งยืนนะ
เราพูดไปถึงค่าบริการรถเกี่ยว รถตัด รถเกรด ทุกอย่างนะ วันนี้เราต้องใช้เทคโนโลยี แต่ปัญหาก็คือว่า เกษตรกรนั้นไม่มีความสามารถเพียงพอ เป็นแปลงนาขนาดเล็ก ก็ต้องรวมแปลงนาให้มันใหญ่ขึ้น ความหมายก็คือ เอาทุกแปลงมารวมกัน ก็เป็นของใครของมันเหมือนเดิม เพียงแต่มันใหญ่ขึ้น จะได้มีอำนาจในการต่อรองราคาในการใช้เครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ ค่าเช่าที่นาก็เหมือนกัน ต้องสำรวจให้ได้ว่ามันเป็นที่นาเช่าหรือที่นาของตัวเอง แล้วเราก็มี พ.ร.บ.การเช่า อยู่แล้ว พ.ร.บ.การทวงถามหนี้สิน อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องร่วมมือกัน ถ้ายังรักษาผลประโยชน์กันเอง นายทุนก็ไม่ยอมเปิดเผย หรือก็ไปให้เกษตรกรได้ไปแสดงตัวกับราชการ หรือกับหน่วยงานแทนตัวเอง แล้วก็รับผลประโยชน์ทั้งสิ้นไป ผมว่ามันไม่เป็นธรรม เพราะฉะนั้นถ้าเกษตรกรคิดว่าจะแก้ปัญหาให้ยั่งยืน ท่านต้องบอกความจริง ท่านอย่าไปช่วยเขา ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่ให้ท่านเช่าที่ต่อไป เพราะเรามี พ.ร.บ.เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ต้องคุ้มครองทั้งผู้เช่า และผู้ให้เช่า การไม่ให้เช่าที่นั้นมันต้องแจ้งล่วงหน้า ไม่ใช่ไม่ให้ตั้งแต่วันนี้ พอไม่พอใจกันก็ไม่ให้ เพราะฉะนั้นเกษตรกรเขาก็ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลย ถ้ามีปัญหาเหล่านี้ ขอให้ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรมได้โดยทันที หรือว่าศูนย์การเกษตรใน 800 กว่าแห่ง รับแจ้งไว้ทั้งหมดแล้วผมจะดำเนินการแก้ไขให้โดยทันที ท่านต้องช่วยเรา ท่านอย่าปกปิดซึ่งกันและกัน เอาประโยชน์แต่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่งไม่ได้ วันนี้ต้องเผื่อแผ่แบ่งปัน
เรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าว และพันธุ์อ้อย พันธุ์มันสำปะหลังอะไรต่างๆ มันต้องแก้ไขหมด เราได้มีการจัดตั้งศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวเพิ่มเติมอีก 15 ศูนย์ ใน 15 จังหวัด เพื่อจะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ รักษาคุณภาพข้าวไทยให้ได้ แล้วในเรื่องของมัน ของอ้อย สับปะรด ก็สั่งให้กระทรวงเกษตรฯ นั้นไปหาพันธุ์ที่เหมาะสม ไม่ใช่เฉพาะป้อนโรงงานอย่างเดียว อาจจะต้องนำไปสู่การผลิตไบโอดีเซลเพิ่ม เกี่ยวกับเรื่องการที่นำสับปะรดที่มีคุณภาพมารับประทานกัน และส่งออกเป็นผลไม้ส่งออกต่างประเทศ วันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นสับปะรดที่ปลูกส่งโรงงานทั้งสิ้น พอโรงงานเกินความต้องการ คราวนี้ก็ขายใครไม่ได้ เพราะมันกินอร่อยไม่ได้ มันคนละอย่างกัน ก็เร่งให้ปรับพื้นที่ และจัดหาพันธุ์ใหม่ให้ดี
มันสำปะหลังก็ต้องหาพันธุ์ที่มีคุณภาพ หัวใหญ่ ใช้น้ำน้อย ต้องลดพื้นที่ให้ได้ แล้วเพิ่มปริมาณการผลิตให้ได้ ต้องอยู่ในกรอบของดีมานด์ที่เรากำหนดไว้ ไม่อย่างนั้นการผลิตหรือซับพลายมันมากเกินไป ทุกอย่างเลยนะ ทั้งปาล์มน้ำมัน คงต้องสนับสนุนให้ปลูกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก่อนจะปลูกปาล์มน้ำมัน ไปดูว่าขบวนการพร้อมหรือยัง เช่น พลังงาน ต้องไปดูว่า ขบวนการในการผลิตน้ำมันพร้อมหรือยัง จะได้เปลี่ยนจากการปลูกยาง มาเป็นปลูกปาล์ม แล้วนำปาล์มมาผสมน้ำมันปาล์ม และผสมในน้ำมันดีเซล เป็นบี 5 ดี 7 ต่อไปอาจจะเป็น ดี10 ในอนาคต คือผสมถึง 10 % วันนี้ตรงนี้ยังไม่พร้อม ต้องมาเตรียมกระบวนการผลิตตรงนี้ให้ได้ ถ้าได้ราคา ปาล์มก็จะสูงขึ้น ยางก็ลดลง
ฉะนั้นเมื่อเราใช้ในประเทศ เรามีการใช้น้ำมันดีเซลมาก ถ้าเราผลิตน้ำมันดีเซลได้เอง หรือเอาน้ำมันมาผสมเป็นดีเซล น้อยลง ถ้า 5% 7% 10% มันต่างกันอยู่แล้ว แต่เรายังไม่พร้อม ความต่อเนื่องมันยังไม่มี พอผลิตแล้วก็ต้องดูว่าราคาต้นทุนเท่าไหร่ มันควรจะเท่าไหร่ มันควรจะถูกกว่าน้ำมันทั่วไปไหมที่ผลิตจากปิโตรเลียม ต้องคำนวณให้หมด ไม่เช่นนั้นคนก็ไม่นิยม พอผลิตออกมาแล้วมันแพงอีก ไม่ได้ ต้องผลิตแล้วถูกกว่าเดิม ถูกกว่าน้ำมันประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็นแก๊สโซฮอล์ ราคายังสูงอยู่ กำลังทบทวนอยู่ว่า จะทำอย่างไร ระบบเท่าที่ผ่านมา มันไม่ครบทั้งระบบ จะให้ใช้อะไรต่างๆ ก็ตามสนับสนุนไปมันจะไม่ขาดๆ ตอนๆ ไม่ต่อเนื่องกัน มันไม่เข้มแข็งซักที วันนี้ราคายังสูงอยู่แล้วใครจะไปใช้ พอไม่ใช้ขึ้นมาขายได้น้อยขึ้นมา ปั๊มน้ำมันอะไรก็ไม่สร้างกัน พอไม่สร้างไม่รู้จะไปเติมที่ไหน ต่อไปเป็นเรื่องอะไรอีก เรื่องของที่มาทำวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นกากอ้อย กากน้ำตาล ต้องมาทำใช้ทั้งสิ้น มันก็พันกันไปหมด อันนี้ไม่ได้ใช้ อันนี้ก็ราคาแพง อันนี้ราคาตก ทำอย่างไรระบบ เวลาแก้ปัญหาแก้ทั้งระบบมันยาก มันไม่ใช่ง่ายๆ วันนี้แก้มาตั้งแต่ 6-7 เดือนยังไปได้ไม่ถึงไหนเลย ของเก่ามันก็ติดลบอยู่ทั้งหมด
เพราะฉะนั้นต้องแก้ปัญหาให้อย่างยั่งยืน เรื่องสินค้าอ้อย วันนี้ก็จะมีนโยบายในการจัดตั้งโรงงานน้ำตาลเพิ่ม อย่ามาคัดค้านกันเลย ถ้าเราตั้งโรงงานน้ำตาลเพิ่ม ไม่จำเป็นต้องขนาดใหญ่มากหรอกครับ แต่ปรับระยะห่างให้พอสมควร บางคนขอ 80 กิโลฯ บางคน 40-50 บางคน 50-60 ในขั้นนี้จะให้เกิดอุตสาหกรรมน้ำตาล และเปลี่ยนพฤติกรรมในการปลูกพืชที่มันขาดทุนมาตลอด ชาวไร่ชาวนาทำนาแล้วราคาข้าวมันก็ตก อาจจะเปลี่ยนมาเป็นปลูกอ้อยบ้างก็ได้ แล้วก็ป้อนโรงงานน้ำตาลใหม่ขึ้นมา และเราไปดูในเรื่องของการตลาดให้มันดีขึ้น และทำน้ำตาลที่มีคุณภาพ
สิ่งสำคัญก็คือ ไม่ว่าจะห่างเท่าไรก็ตาม วันนี้ห่าง 50 กิโลเมตรต่อแห่ง อย่าต่อต้าน แต่ผมจะกำชับว่า โรงงานน้ำตาลเหล่านั้นจะต้องไม่ไปแย่งสมาชิกกันที่ปลูกอ้อยอยู่เดิม ลูกอ้อย ในการป้อนโรงงานเดิมไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านจะต้องไปตั้งโรงงานใหม่ และไปสร้างสมาชิกของท่านขึ้นมาใหม่ ไม่อย่างนั้นมันจะแย่งกัน ทะเลาะกัน ตัดราคากัน มันก็เหมือนเดิม ผมไม่ยอมอยู่แล้ว ให้เข้าใจด้วย
มันสำปะหลังเหมือนกัน ต้องไปดูว่า จะเพิ่มการเพาะปลูกด้วยน้ำหยดได้ไหม บางครั้งดินมันก็เสียหาย และน้ำมันไม่เพียงพอ น้ำหยดก็ต้องใช้เงินทุน เพราะฉะนั้นต้องสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ ว่าทำอย่างไรถึงจะมีเงินกองทุนให้เขากู้ไปทำน้ำหยด อย่างไรก็แล้วแต่วันนี้รัฐบาลต้องนำร่องเหมือนที่มาเลเซียเขาทำนะครับ เรื่องน้ำมันปาล์มเขาทำกัน 20 ปีแล้วนะ เรื่องการส่งเสริมให้ปลูกปาล์มน้ำมันแทนยางพาราที่ล้นตลาด ในปัจจุบันมีหลายมาตรการ ในเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องยางพารามันต้องลดปริมาณการผลิตลงให้มากที่สุด ให้อยู่ในกรอบในเกณฑ์ที่ใช้ในประเทศ ซึ่งเราก็ยังสร้างโรงงานไม่เท่าไหร่ โรงงานปัจจุบันต้องใช้ยางไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นต้องขายวัตถุดิบไป 90 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราเอายางมาใช้สัก 50 เปอร์เซ็นต์ ผมว่าราคามันโอเค รับได้ อยู่ได้เฉลี่ยกันไปมา เราก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้น ที่ลดลงไป เช่น จากการปลูกยางพารา มาปลูกปาล์มน้ำมันแทน ปาล์มน้ำมันก็ต้องมาเตรียมการทำไบโอดีเซล มันต้องสอดคล้องกับเรื่องที่ผมกล่าวมาสักครู่นะครับ ราคามันจะได้ถูกลง เรื่องการใช้น้ำมันดีเซลต้องสั่งซื่อต่างประเทศมา และพลังงานเราก็ลดน้อยลง
ด้านการตลาดวันนี้ก็ส่งเสริมให้มีตลาดชุมชน กระทรวงมหาดไทย และศูนย์ราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ 2,000 กว่าแห่งฝาก ท้องถิ่นช่วยดูด้วยนะครับ พยายามที่จะตัดกลไกพ่อค้าคนกลางนะ เขาควรจะได้รู้ว่ากำไรเท่าไหร่ รายได้เท่าไหร่ เกษตรกรเราก็จนอยู่อย่างนี้กี่ปีกี่ชาติ ก็โทษรัฐบาล เกษตรกรต้องมีความรู้นะครับ มีความเข้าใจเรื่องการตลาด มีความรู้เรื่องเกษตรสมัยใหม่ รู้ราคา รู้ว่าการขายสินค้าควรทำไง ราคาควรเป็นอย่างไร มันจะได้รู้กันซะที ไม่ทะเลาะกันต่อไป
ในเรื่องของที่ดินทำกันนั้น รัฐบาลก็ได้ทยอยมอบเอกสารในการขอใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเกษตรกรที่ยังไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เราจะทำอย่างเป็นระบบ บูรณาการ 6 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร สำรวจการใช้สอยที่ดินทั่วประเทศ ทั้งจากดาวเทียม ภาพถ่ายดาวเทียม และในเรื่องของการเข้าไปสำรวจในพื้นที่โดยหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล เราก็จะรู้ว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่ที่บุกรุกอยู่แล้วบ้าง ถ้าบุกรุกมาเป็นเวลานานแล้ว 10 ปี 20 ปีขึ้นไป มันก็เป็นป่าที่เสื่อมโทรมอยู่แล้ว แต่มันผิดกฎหมาย ทำยังไงให้เขาอยู่ที่นั่น แล้วก็จำกัดให้เขาทำให้ได้ตรงนั้น แล้วไม่ไปขายต่อ อันนี้เราก็ใช้มาตรา 44 ดูแล ที่เราทำไป ไม่งั้นมันไปไม่ได้ เราจะยกเขาไปที่ไหนอีกล่ะ แล้วตรงนั้นมันก็บุกรุกมานานแล้วด้วย มันก็ไม่ได้เป็นป่าอยู่แล้ว ทำชัดเจน ไม่ได้ไปเลือกปฏิบัติกับใคร ขึ้นอยู่กับผู้ที่เขาสรุปขึ้นมา การโซนนิ่ง การทำข้อมูล ปัญหาของเราคือการทำข้อมูลยังไม่พร้อมเลย เราก็ต้องค่อยๆ ทำไป มีหลายระยะ แต่ข้อสำคัญคือเราจะไม่ซื้อขาย ไม่ให้มีการซื้อขายอีกต่อไป ที่ดินเหล่านั้นยังคงเป็นของรัฐอยู่ อันนี้ก็จะทำให้ทั่วประเทศ ก็มีระยะ 1 ระยะ 2 มีอยู่หลายจังหวัด ที่ต้องเอาคนส่วนที่ 1 ที่ต้องเอาออกมาทันที โดยเร็ว ด้วยความสมัครใจด้วย จากป่าต้นน้ำ ออกมาหาที่ให้เขาอยู่ ถ้าอยู่ต่อไปมันก็เป็นอย่างนี้ ชำรุดทรุดโทรมไปเรื่อง เดี๋ยวก็ต้องทำถนนหนทาง ทำไฟฟ้า ทำประปาเข้าไป แล้วก็เรียกร้องว่าทำไมไม่ได้ซะที ก็มันอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ ทำให้มันก็ขยายต่อไป มีลูกมีหลาน ป่าก็หมดอีก เหมือนเดิม ต้องเอาออกมา มาอยู่ข้างนอก มาอยู่ในพื้นที่ที่ผมกำหนดไว้แล้ว คณะกรรมการเขาเลือกมาแล้ว มีพื้นที่ที่บุกรุกอยู่แล้วเดิม มีพื้นที่ที่ว่างเปล่า เป็นที่ราชพัสดุ ที่ของราชการ เราก็จะใช้มาตรา 44 ให้สามารถอยู่ได้ อยู่ได้แล้วทำกินนะ ห้ามขาย หรือขยายพื้นที่รุกล้ำไปเหมือนเดิมอีกไม่ได้ ต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อจะลดปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคม ความเป็นธรรม ยุติธรรม
ระยะที่ 1 พื้นที่เป้าหมาย 6 แห่ง 4 จังหวัด 53,694 ไร่ ระยะที่ 2 พื้นที่เป้าหมายอีก 8 แห่ง ในอีก 8 จังหวัด อีก 51,929 ไร่ จะเห็นว่าพื้นที่มีไม่มากนัก ทั้งหมด 12 จังหวัด เราก็ต้องหาเอาคนที่ผิดกฎหมาย และไม่มีที่ทำกินจริงๆ เข้ามาอยู่อาศัย คนที่เดือดร้อนเยอะแยะไป ถูกเขาหลอกบ้าง อะไรบ้าง บางทีก็มีคนไปหลอกว่าให้มาทำกินที่นี่ แล้วก็จ่ายเงินให้เขา เขาก็จะไปทำให้ เสร็จแล้วก็ทำไม่ได้ วันนี้ที่รัฐเข้าไปสำรวจ ส่วนใหญ่ที่ประชาชนเข้าไป ไม่รู้เรื่องนะ มีคนชี้นำเขามา มันก็ผิดกฎหมายอยู่อย่างนี้ พอเราเข้าไปจัดการ ก็กลายเป็นว่าเราไปรังแกประชาชน คนจน นี่ไง ประเทศไทย ก็มีคนไปใช้ประโยชน์ถึงเยอะแยะ
เพราะฉะนั้นวันนี้ ในเรื่องที่เราจะเร่งรัดให้มากขึ้น เพราะว่าเป็นแหล่งรายได้ของประเทศที่สำคัญในปัจจุบัน คือในภาคการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น มีความสดใส และจะใช้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเราด้วยในขณะนี้ เพราะว่าเราลงทุนไม่มากนัก ถ้าไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุนเศรษฐกิจ เหล่านั้นมันต้องใช้เวลา ใช้เงินจำนวนมาก อันนี้เราก็สร้างให้มันปลอดภัย ให้มันสะอาด มีส้วม มีสุขา วันนี้ก็เห็นหลายที่มีการประกวดห้องน้ำ ห้องสุขา ในสถานที่ท่องเที่ยว ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ ริเริ่มอย่างนี้ดีกว่า คนที่เขามาเที่ยวจะได้พอใจ มีความสุข ถ้ามาแล้วก็ แน่นก็แน่น มองอะไรก็ไม่เห็น ส้วม ห้องน้ำ ก็สกปรกอีก แถมมีโจรผู้ร้ายอีก มีหลอกลวงเข้ามาอีก มีของปลอมเข้ามาอีก แล้วมันจะไปได้รายได้เข้าประเทศได้ยังไง ผมไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วน ทุกฝ่าย ก็จะเข้มงวดในเรื่องเหล่านี้ อย่าทำอีกเลย ทำลายประเทศกันไป จะทำลายกันไปถึงไหน
เพราะฉะนั้นกลุ่มนักท่องเที่ยวปัจจุบันนั้นมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งจีน มาเลเซีย เกาหลี รัสเซีย ญี่ปุ่น ไตรมาสแรก มกราคม-มีนาคม 58 นี้ นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศเรา ประมาณ 8 ล้านคนนะครับ ขยายตัวร้อยละ 23 จากปีที่แล้ว ใครบอกว่าลดลงมาหาผม อย่าไปพูดในสื่อตัวเลขที่กระทรวงเขาคุมท้องถิ่นเขารายงานกันขึ้นมา ถ้าท่านไม่ฟังทางวิทยาศาสตร์ ท่านจะไปเชื่อใคร ข้างนอกพูดมาไม่มีหลักเกณฑ์ ไม่ได้ เดือนเมษายนนี้ห้วงเทศกาล สงกรานต์ เราคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในบ้านเราประมาณ 5 แสนคนนะครับ คนไทยเองก็จะมีการเฉลิมฉลอง พักผ่อน ท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย เดินทางกลับภูมิลำเนาก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศมีเงินมาใช้มาก มีเงินน้อยใช้น้อย ถ้ามีน้อยใช้มากก็ไม่ใช่อีก ถ้าไม่ให้ใช้เลยก็ไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นต้องเผื่อแผ่ต้องมีเงินมาใช้จ่ายกัน คนไม่กล้าใช้เงินให้เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างไร เศรษฐกิจมันต่อกันมันเป็นห่วงโซ่กัน รัฐบาลเขาทำขนาดใหญ่ลงมาถึงเล็ก เล็กก็ต้องช่วยเล็กดันขึ้นไปใหม่ สร้างเถ้าแก่ใหม่ ต้องมองในภาพรวมด้วยนะครับ อย่ามุ่งแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เศรษฐกิจท้องถิ่นตลาดชุมชนก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยน ค้าขาย และดูแลซึ่งกันและกัน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้ามีมากก็ขาย ถ้าอะไรขายไม่ได้ราคาก็ไม่มีภูมิคุ้มกันว่าอย่าปลูกให้มากนัก
ในเรื่องของการแข่งขันของประเทศนั้นทำให้เข้มแข็งในเวทีโลกนั้น เราต้องทำหลายอย่างนะครับ การวางระบบโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ราง ทางน้ำ ทางอากาศ เราต้องพยายามให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน เชื่อมโยงขนถ่ายสินค้าในภูมิภาค และมีโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการจะได้ส่งเสริมภาคการผลิต ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรมให้เกิดเสถียรภาพ น้ำ เพื่อการอุปโภค-บริโภค น้ำประปา ปัญหาของเราคือการบริหารจัดการน้ำมัน ไม่ได้ทำทั้งระบบมาโดนตลาดอย่างต่อเนื่องทำมาเป็นปี ๆ ไม่ได้ มันต้องมาผูกโยงกันวันนี้เริ่มต้นมาได้สมัยนี้ ระยะที่ 1 มันต้องมีกี่ระยะ มีแหล่งน้ำให้กับประปาหมู่บ้านครบ อีก 6,000 กว่าแห่ง ปี 60 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดย่อย แหล่งน้ำในที่นา ไม่ใช่มีเงิน และไปลงในพื้นที่ที่มันขุดไปแล้วไม่มีน้ำ เก็บน้ำไม่อยู่ มันก็ต้องไป ขุดที่มันมีน้ำ และจัดระบบส่งน้ำไปที่มันไปได้
วันนี้มีการจดทะเบียนนวัตกรรมจากการวิจัยในประเทศ และนำไปสู่สายการผลิต ได้สั่งการแก้ไขหลายอย่าง ราชการต้องเอาไปทดลองใช้งาน ในจากงบประมาณของหน่วยงานเอง 10-30% ต้องทดลองไปใช้ก่อน เพราะต้องมีการทดลอง มีมาตรฐานในประเทศ เราต้องผ่อนผันกฎกติกาอื่นๆ ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างเยอะแยะ เราต้องทำ ไม่เช่นนั้นมันซื้อไม่ได้ เพราะกฎหมายมันเขียนไว้อย่างนั้น อีกอันคือว่า ถ้าจะไปขายต่างประเทศเราก็ต้องส่งไปทดสอบต่างประเทศให้เขายอมรับมาตรฐาน ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ขายได้หมด มันต้องผ่านมาตรการกีดกันทางการค้าเข้าไปอีก ข้อตกลง WTO, FTO อีกเยอะแยะไปหมดที่เขากำหนดไว้ ปีนี้ต้องเจรจา FTA อีกหลายประเทศเหมือนกันนะ เพราะเราไปถูกปรับเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ฉะนั้นภาษีมันเปลี่ยนไปหมดเลย เราต้องไปเปิดเจรจากับประเทศนั้นประเทศนี้เพิ่มเติมทำให้เราขายสินค้าได้มากขึ้น ในประเทศที่ไม่ได้จำกัดเราในด้านเหล่านี้
การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย การลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว ค่อนข้างจะก้าวหน้ามากขึ้น แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่แค่ลงทะเบียน มันจะต้องไปดูเรื่องของการพิสูจน์สัญชาติอีก ต้องมีการรับรองโดยประเทศคู่สัญญา เช่น ประเทศรอบบ้านเรา ซีอาร์วี เขาต้องจัดชุดพิสูจน์สัญชาติเข้ามาตรวจสอบที่จดทะเบียน บางประเทศตรวจได้นิดเดียว เพระาคนเขาน้อย บางประเทศจดได้ 70-80% เขาต้องต่ออายุของการถือใบอนุญาตชั่วคราว ผ่อนผันไว้ก่อนให้ทำงานได้ก่อน แต่ขอร้องว่า พวกนี้อย่าเพิ่งย้ายไปที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อไปจะมีการสำรวจด้วยว่า ผู้ประกอบการที่ขอจดทะเบียนไปแล้ว คนที่จดทะเบียนไปแล้วยังอยู่หรือเปล่า ไม่ใช่พวกนี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันดูแล ส่วนใหญ่ก็ถูกซื้อตัวไปอีก ทำที่นี่เสร็จพอที่นี่ให้รายได้สูงขึ้นก็ไปทางด้านโน้น มันไม่มีกติกากันเลย
การปฏิรูปการศึกษาก็สำคัญ ผมให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มาก เพราะคนในแต่ละประเทศมันขึ้นอยู่กับคุณภาพของคน คุณภาพของคนมันมาจากการศึกษา ผมเองก็ต้องพัฒนาตัวเอง หลายๆ คนต้องพัฒนาตัวเอง ประชาชนก็ต้องเรียนรู้ ต้องมีความรู้ ต้องเรียนหนังสือ ต้องส่งลูกเรียน เรียนอะไรที่เป็นประโยชน์มีงานทำ ถ้าทุกคนมองแต่เพียงว่า จะหาเงินอย่างไรก็ได้ จะถูกจะผิดก็ได้ ไม่ถูก เป็นการสร้างค่านิยมที่ผิดกับประเทศ ประเทศก็ไปไม่ได้ วันหน้าก็ทุจริตกันแบบเดิมอีกเยอะแยะไป ไม่ได้ มันต้องพัฒนาคนให้มากที่สุด พัฒนาฝีมือแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาด วันนี้ก็เร่งทุกวัน และจะต้องรองรับภาคการผลิตในกรอบอาเซียนที่มันจะมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เราผูกโยงห่วงโซ่เยอะแยะไปหมด ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ทั้งต่างประเทศ ในประเทศ สร้างความเข้มแข็งระหว่างกัน ความเชื่อมโยงระหว่างกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน ไปดูแลเรื่องการศึกษาด้วย สถานประกอบการต่างๆ ต้องรับผิดชอบในพื้นที่ด้วย ต้องไปดูแลการวิจัย พัฒนา เอาคนไปเรียนรู้ในสถานประกอบการ ทำทั้งหมด รัฐบาลก็จะทำ ในระหว่างนี้เราต้องสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต เพื่อยกระดับความร่วมมือเศรษฐกิจกับตลาดใหม่ เช่น ผมเรียนไปแล้วว่า ตลาดที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอาจจะอยู่ในขั้นประเทศที่มีรายได้น้อย รายได้ต่ำ เช่น ไปดูๆ เขา วันหน้าเดี๋ยวถ้าเขาทำดี เขาอาจจะแซงเราก็ได้ ถ้าเราทะเลาะกันอยู่ เช่น แอฟริกา เอเชียใต้ ต้องดูแลเขา ผมอยากให้มองว่า ต้องดีทั้งคู่ เราดีขึ้น เขาก็ต้องดีขึ้น ไม่ใช่เราไปสูบเลือดสูบเนื้อเขามา ไม่มีความสุขหรอกครับ เผื่อแผ่แบ่งปันประชาคมโลก
ตลาดที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจปานกลาง จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา รัสเซีย ประเทศหมู่เกาะ และการเพิ่มมูลค่าสินค้าชายแดนเศรษฐกิจพิเศษ ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางฮับ ทางด้านการบิน การท่องเที่ยว ฮับในเรื่องการรักษาพยาบาล การแพทย์ โรงพยาบาล ทั้งหมดนี้มันจะทำให้ประเทศเรามีรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงในอนาคต ต้องใช้เวลา รัฐบาลใครก็ต้องทำแบบนี้ถ้าเป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล นึกถึงประชาชนเป็นหลัก
ในการร่างรัฐธรรมนูญนั้นมีความสำคัญ ปัจจุบันก็อยู่ในกระบวนการ ก็ยังไม่เสร็จสิ้น แต่อยากจะบอกทุกคนว่า อย่าไปตำหนิติเตียนกันนักเลย น่าดีใจที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ ติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามในประเด็นที่ยังไม่เรียบร้อย ยังไม่ได้ข้อยุติ ก็อย่าเพิ่งไปขัดแย้งกันเลย ประเทศเราต้องไปดูก่อนว่า เราจำเป็นต้องปฏิรูปหรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นก็จบ ไม่จำเป็นต้องไปร่างใหม่ เอาอันเก่าไปใช้เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าทุกคนคิดว่าต้องปฏิรูปแล้ว มันก็ต้องมาดูว่า จะเขียนอย่างไรให้คนในประเทศยอมรับ ให้นักการเมืองยอมรับด้วย ประเทศเราจำเป็นต้องปฏิรูปไหม และที่ผ่านมากฎกติกาบ้านเมืองมีช่องว่างตรงไหน เราก็แก้ตรงนั้น ไม่ใช่ต้องแก้กันทั้งหมด เขาทำอยู่ ก็เป็นห่วงเรื่อง ประเด็นคือกลุ่มการเมือง การเข้าสู่อำนาจ การเป็นรัฐบาล การแก้ปัญหาเมื่อมีเหตุการณ์แบบครั้งที่แล้ว เขาห่วงตรงนั้น ก็เลยเขียนอะไรออกมาแบบนั้น ปัญหาคือเรายอมรับได้ไหม ยอมรับไม่ได้เพราะอะไร ถ้าได้ได้เพราะอะไร ถ้าได้เป็นผมนะ ในฐานะคนไทย ถ้าได้คือเราอยากให้ปฏิรูปได้ เราอยากให้การเมืองเราโปร่งใส อยากให้บ้านเมืองมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นก็ต้องแก้ไข มันอาจจะไม่ตรงกับประเทศอื่นๆ เพราะประเทศอื่นเขาพัฒนาเลยไปแล้ว แต่เรายังติดตรงนี้ไง เราไปเอาตรงโน้นมาทำตรงนี้ได้ไหม แล้วต่างประเทศเขาว่าไง แล้วเราแก้ตรงนี้ช้ากว่าเขาไง ท่านไปคิดใหม่นะ ไปดูว่าจะทำอย่างไร ถ้าท่านคิดว่าไม่ต้องปฏิรูป อยากให้เป็นแบบเดิม มีการใช้กำลัง ไม่ใช้อาวุธ มีเสรีภาพและข้อจำกัด กฎหมายใช้ไม่ได้ ก็ตามใจท่านแล้วกัน ผมไม่รู้จะว่าอย่างไร
ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ ประชาคมโลก ให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ผมว่าไม่ต้องอาย ถ้าทำแล้วอย่าอาย รัฐบาลไหนก็ตาม ถ้าทำแล้วยอมรับกันบ้าง ยอมรับกติกา ยอมรับกฎหมายบ้าง ผมว่าผมมอบนโยบายไปแล้วเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ให้ไปเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญของต่างประเทศที่เขาเกิดเหตุการณ์แบบเรา ว่ามีการปฏิวัติรัฐประหาร มีการใช้อาวุธสงคราม มีการต่อสู้กันในเมือง แล้วขันตอนเหล่านั้นจากนั้นมาจนถึงวันนี้เขาทำอะไรมาบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่ เราต้องถามเขาแบบนี้ ไม่ใช่ให้เขามาวิเคราะห์มาตรารัฐธรรมนูญไทยอย่างไร ไม่ใช่ ให้คนไทยได้รับรู้ ว่าถ้าจะเป็นแบบที่เขาเป็นในวันนี้ มันต้องผ่านกระบวนการอะไรมาบ้าง
วันนี้ทุกคนไม่ได้มองอะไรเลย มองว่าทำอย่างไรจะมีสตางค์ ทำอย่างไรจะแก้ปัญหาโน้นนี้ได้ ทำอย่างไรจะร่ำรวย ไม่ได้คิดว่า แล้วประเทศชาติอยู่ตรงไหน แล้วขั้นตอนมันเป็นอย่างไร ใจร้อนทุกคน ก็เลยต้องเปลี่ยนแปลง ต้องใช้กำลัง ใช้อาวุธสงคราม ผมว่าไม่ใช่ เราเคยเลิกทาสมา ไม่ได้เสียชีวิตเสียอะไรกันเลย ต่างประเทศเขาก็มีเหมือนกัน ที่ผมอยากให้เอามา ก็คือฝรั่งเศส และเยอรมัน สถานการณ์คล้ายๆเรา อย่ามาบอกว่าเขาเกิดนานมาแล้ว ไม่ใช้กับวันนี้ วันนี้มันต้องย้อนกลับไปที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เอาเขามาดู แล้วเราก็ย่อมมา ว่าจะทำอย่างไร ต่อจากนั้นเราก็มาถามกันเองว่า เราต้องการอะไร เขาเป็นอย่างนี้เพราะอะไรจะถามเขาดู การมีมาตรา 16 มาตรา 17 อะไรของเขา ทำไมถึงต้องมี ไม่ใช่มานั่งเถียงของเรา แล้วไม่ดูของเขา ขณะเดียวกันคนเก่าก็ต้องการแบบเดิม มันไม่เกิดประโยชน์ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไปได้หรือไม่ได้อยู่กับคนไทยทุกคน อยากจะให้มันดีกว่าเดิมไหม อยากอยู่ในความขัดแย้งอีกหรือเปล่า อยากมีการเมืองที่บริสุทธิ์ ยุติธรรมไหม เป็นธรรมไหม สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศไหม เกษตรกรจะต้องมีเงิน มีรายได้มากขึ้นไหมในอนาคต ทุกอย่างมันต้องพัฒนาหมด แล้วประเทศไทยก็อ่อนด้อยแบบนี้ตลอดไป ฉะนั้นก็เร่งดำเนินการ อย่าหาว่าผมไม่เอาใครเขามาเลย มีหลายคนต่อว่าผม ว่าผมไม่เอาคนอื่นมายุ่ง ท่านไปเอายุ่งมากกว่าผม ท่านมาวิจารณ์ มาว่าประเทศ มาใช้กฎหมาย ใช้อะไร ต่างประเทศมาใช้กับเราประเทศไทย นั่นน่ะหนักยิ่งกว่าผมนะ จะบอกให้ ผมเอามาเพื่อศึกษาข้อมูล ไม่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญของเรา ไม่เกี่ยว บ้านเราส่วนบ้านเรา แต่เราจะถามเหตุผลของเขา ว่าทำไมถึงมีอย่างนั้น แล้วเราดูว่าทำไมถึงไม่มี แล้วเราจะมีบ้างได้มั้ย
วันนี้ก็มีหลายเรื่องนะ เนื่องจากเป็นสงกรานต์ ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรที่มันแรงๆ นะ แต่มันก็อดไม่ได้ ขออนุญาตพูด เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของปีนะ วันนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญนะ ของการเดินหน้าประเทศ ที่ผมพูดมาทั้งหมด ตลอดระยะเวลาการเป็นรัฐบาล คสช. ก็ 6 เดือนใช่มั้ย 6 เดือน กับ 5 เดือน 11 เดือนแล้ว จะปีแล้ว ก็พูดตลอดนะ ความก้าวหน้า มันก็มีตามลำดับนะ แต่ผมบอกแล้วว่า มีระยะต้น ระยะกลาง ระยะปลาย จะทำระยะต้น ระยะกลาง 1 ปีแรก กับ 1 ปีที่สองที่เป็นรัฐบาล รวมแล้วก็ 2 ปีเท่านั้นล่ะ ต่อไปก็เป็นเรื่องของรัฐบาลที่โรดแมป ถ้าทำได้ก็ทำไป
แต่วันนี้ต้องเดินหน้าประเทศไปสู่การปฏิรูปให้ได้ วางแผนปฏิรูปพื้นฐานให้ได้ มีกลไกในการที่จะทำให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริง เป็นรูปธรรม มันก็ต้องไปดูว่าจะทำยังไงให้มันเกิดตรงนั้น กฎหมายลูก หรือบทเฉพาะกาล จะทำยังไง ถ้ายอมรับ โอเค ประเทศไปได้แน่ ถ้าไม่ยอมกัน ประเทศถอยหลังกลับที่เดิม ผมสรุปง่ายๆ แค่นี้
การเลือกตั้ง เราต้องการให้เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส มีนักการเมืองที่ดี มีธรรมาภิบาล มีคุณธรรม จริยธรรม ก็ต้องเข้าใจสิว่าความตั้งใจของเขา ของ สนช. สปช. กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ ทุกคน ทุกหน่วยงาน เขามีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ได้อย่างที่ผมพูด แต่แน่นอน มันต้องมีความขัดแย้ง มีคนไม่เห็นด้วยอะไรต่างๆ ผมก็ต้องใช้เวลาในการสร้างความรับรู้ให้ได้ ให้เร็วที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน เพื่อจะได้ปลอดภัยในช่วงการเปลี่ยนผ่าน วันนี้ผมถือว่าเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่าน หรือส่งผ่าน ไปสู่การเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อย่างที่โลกต้องการ อย่างที่โลกเขาไม่มีปัญหา หลายประเทศผ่านการจัดการมาก่อน ผมว่าอาจจะพูดได้ว่าทุกประเทศ วันนี้ขอเวลาหน่อยเถอะ อาจจะนานสักหน่อย ไม่ได้พูดมาหลายครั้งแล้ว
เพราะฉะนั้นในเรื่องของการเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั้น ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ ทุกคนต้องอดทน ต้องช่วยเหลือกัน มีมาตรการที่จะทำให้เกิดเอื้ออำนวยต่อการปฏิรูปให้ได้อย่างแท้จริง ไม่งั้นก็พูดแต่ปาก แล้วทำอะไรไม่ได้ วันหน้าก็กลับที่เก่า เพราะฉะนั้นความเข้มแข็งของข้าราชการ ข้าราชการท้องถิ่น ประชาชน เราต้องทำให้เขาแข็งแรงในอนาคต ทุกภาคส่วน ไม่มีความเหลื่อมล้ำ เข้าถึงกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมทุกคน มีเงินมีทองใช้อย่างถูกต้อง เจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
ก็พูดถึงแต่สิ่งที่ทำมาแล้ว และมีปัญหาอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ก็บอกว่าไม่เป็นธรรม อะไรเหล่านี้ ผมว่าท่านหยุดพูดได้แล้วนะ หยุดพูดได้แล้ว พอผมไปใช้อำนาจทางกฎหมาย ท่านก็บอกว่าผมไปปิดกั้นเสรีภาพสิทธิ สิทธิเสรีภาพที่ผ่านมาเป็นยังไงล่ะ บริหารประเทศได้มั้ย มีการประท้วงหรือเปล่า มีการประท้วงแล้วใครใช้อาวุธสงครามยิงตอบต่อคนที่เขามาประท้วง มันก็เกิดอย่างนี้ 53 ก็ชุดเดิม 56-57 ก็ไอ้ชุดเก่าอีกล่ะ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายค้าน ก็ทำแบบเดิม สังคมเข้าใจซะบ้าง ฟังอยู่ได้ อย่าไปฟังเขา ตามสื่อวิทยุ โทรทัศน์ วันนี้ผมต้องปิดสถานีวิทยุเท่าไหร่ล่ะ 6 พันกว่าแห่ง ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่เคยปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะอะไร เพราะสนับสนุนฝ่ายนักการเมือง เป็นของนักการเมืองเสียส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยดี ที่ดีๆ อย่าไปพูด ผมไม่ได้ว่าทุกคน คนดีๆ เยอะแยะไป ผมไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น ใครที่รู้ตัวว่าดี ผมไม่ได้ว่าท่าน ใครที่รู้ตัวว่าไม่ดี ผมว่าท่านก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องนำพาประเทศไปสู่อนาคต ท่านพยายามจะพูดอะไรก็ตามให้มันกลับไปที่เก่าให้ได้ สร้างการรับรู้ที่มันผิดๆ ไปอีกเหมือนเดิม ต้องการจะมีสิทธิเสรีภาพอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ได้พูดถึงหน้าที่ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ไม่มีเลย กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย แล้วก็บางสถานการณ์ที่อ้างด้วยความเป็นธรรม แล้วก็ทำไม่ได้ ต่างๆ ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการประท้วง อ้าวแล้วที่ผ่านมาครั้งก่อน ประท้วงหรือเปล่า ก็ประท้วงอีกเหมือนกัน มีการใช้อาวุธสงครามเหมือนกัน ไม่รู้สิ กลับไปดูของเก่าแล้วกัน สื่อต่างๆ ช่วยนะครับ หลักฐานอย่าไปทิ้งทั้งหมด ผมถ่ายรูป ถ่ายอะไรไว้เยอะแยะไปหมด วิดีโอ หนังสือพิมพ์ ทั้งหมดเดินตามเป็นร้อย ตามทหารเข้าไป แล้วก็หลบกระสุน ทำไมไม่พูดให้ผมบ้างเล่า ใครจะอยากไปใช้ทำร้ายประชาชน เขาก็มีชีวิตจิตใจนะ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ รัฐบาลต้องดูแล เมื่อสถานการณ์ไม่ดี รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ได้ จะด้วยวิธีไหนก็ต้องว่ากันไป จะผิดหรือถูกก็ไปว่ากันตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่อย่ามาบิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อายเขานะ เดี๋ยวพอมันออกมาปรากฏจริงๆ แล้วท่านจะว่ายังไง ผมไม่รู้ ประเด็นสำคัญคือการใช้งบประมาณในการทำประชานิยม วันนี้มาบอกว่ารัฐบาลนี้ประชานิยมมากกว่า มากกว่าตรงไหน บอกว่าเราเอาเงินไปให้สวนยาง ชาวไร่ ก็ช่วยปัจจัยการผลิตเขา ผมไม่ได้ไปซื้อของเขามา การจะรับซื้อของก็เป็นเรื่องของระบบสหกรณ์ แล้วใช้เงินน้อยกว่าท่านมหาศาล ท่านบอกว่า เอ๊ะ แล้วทำไมไปขึ้นเงินข้าราชการ ก็เนี่ย จ่ายเงินไปให้เกษตรกรเป็นแสนล้าน ข้าราชการเขาไม่ได้ขึ้นเงินเดือนมากี่ปีแล้วล่ะ ไม่เคยได้ขึ้น แล้วขึ้นคนละ 300-500 บาท เนี่ยเหรอ ให้เกษตรกร เดี๋ยวก็เดือดร้อน ก็ขออีก เนี่ย ผมต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ความเข้าใจซึ่งกันและกัน เกษตรกรก็ไม่ไปรังแก ไม่ไปร้องให้กับข้าราชการที่เขาดีๆ ปัญหาที่ผ่านมาคือการบิดเบือนทุกอย่างไปหมด ผมก็ต้องโทษล่ะ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นการเมือง ผมไม่เคยไปโต้แย้งกับรัฐบาลไหนสักรัฐบาลหนึ่ง สั่งมาผมก็ทำให้หมด
ประเด็นสำคัญก็คือว่า ที่เขาทำวันนี้ ทำให้เกิดความเป็นธรรม ดูแลทุกคนให้ทั่วถึง ให้เกิดความรัก ความสามัคคี วันนี้บอกว่าใช้เงินไปเยอะ แต่รัฐบาลก็ยังมีทำรถไฟ รถไฟฟ้า ตั้งเยอะตั้งแยะ ผมถามว่าถ้ามันไม่เสียเงิน เรื่องที่มันอยู่ในคดีตั้งหลายแสนล้าน เราก็คงไม่ต้องไปกู้เงินเขามาอีก เอาเงินตรงนี้มาลงทุนตรงนี้ได้ต่อ หนี้สิน หนี้สาธารณะทั้งหมดมันเกิดขึ้นมาโดยมันไม่มีรูปธรรม ไม่มีอะไรที่สำเร็จเป็นเรื่องเป็นราวชัดเจน เราก็ต้องทำต่อ หนี้เก่าก็ต้องผ่อนชำระ เดินหน้าประเทศก็ต้องทำ ลงทุนใหม่ก็ต้องลงทุน แต่มันติดด้วยวงเงินเหล่านี้ ไปคิดเอาเองนะ
เรื่องของการดูแลพี่น้องเกษตรกร บอกว่าการประชานิยมในสมัยที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องของการให้ความเป็นธรรมกับราษฎร ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผมถามว่าดีขึ้นมั้ย ตอนนี้ชาวนาเป็นหนี้อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน ยังมากขึ้นเหมือนเดิมหรือเปล่า วันนี้ชาวนาเป็นหนี้มากขึ้น ไหนบอกว่าดีขึ้นไง ดีขึ้นก็ต้องหนี้ลดลง ใช่มั้ย หรือเป็นหนี้ที่มันมีคุณค่า เป็นหนี้ที่เป็นทุน เป็นหนี้ที่มีบ้าน หรือต่อเติมบ้าน หรือว่าทำซื้อยานพาหนะ ซื้ออะไรที่เป็นเรื่องเป็นราว นี่หายไปหมด เพราะไปใช้หนี้เก่า วนอยู่อย่างนี้ ถ้าอันนั้นโอเค เราบรรเทาความเดือดร้อนได้ก้อนหนึ่ง อีกก้อนหนึ่งต้องให้เขามีรายได้ที่เพียงพอ นั่นต้องไปสร้างความเข้มแข็งในภาคการเกษตร การขาย การตลาดอีกเยอะแยะ ทำแบบนี้ ทำเป็นปีๆ ไป ใช้กันเข้าไป ทุกปีหนี้มันก็ขึ้นทุกปี แล้วถึงวันนี้เราพอจะเดินหน้า ติดไปหมด เงินก็ต้องไปกู้เขาอะไรเขา ผมก็ไม่ได้กู้ก้อนใหญ่ กู้เป็นปีๆ ไป กู้เป็นโครงการๆ ไป ถ้าเห็นชอบว่าอยากจะมีต้องมี เพื่อเป็นอนาคตต้องกู้ก็ต้องกู้ เพราะอดีตไม่ได้ทิ้งเงินให้ผม
แล้ววันนี้ข้าราชการทำไมต้องไปขึ้นเงินให้เขา เพราะเขาเป็นคนเสียภาษีส่วนใหญ่ด้วยนะ วันนี้ข้าราชการเป็นคนเสียภาษี เพราะมันล็อกด้วยอะไร การจ่ายภาษี ณ ที่จ่าย หนีไม่ได้ซักคน วันนี้หลายๆ คนจ่ายภาษีกันทั้งนั้น ประชาชนที่ยังไม่เข้าเกณฑ์ก็ไม่จ่าย บรรดาเศรษฐีต้องไม่โกงภาษี และการเก็บภาษีเจ้าหน้าที่ต้องมีคุณภาพ กฎหมายภาษีก็ต้องปรับปรุง ที่แล้วดูซิว่า กฎหมายท้องถิ่นการเก็บเงินภาษีท้องถิ่น บำรุงท้องถิ่น มันเป็นอย่างไร วันก่อนทองบาทเท่าไร วันนี้ทองบาทเท่าไร ภาษีตัวเดิม แล้วเงินตรงไหนมันจะเอามาพัฒนา แล้วท่านก็อยากจะได้เงินท้องถิ่น มากขึ้น มันจะไปเอาที่ไหน เก็บภาษีไม่ได้ สื่อกำลังเลือกข้างทั้งหมด วันนี้ผมก็ว่ามันต้องไปเตือนกัน 2-3 สถานีพูดอยู่นั่นแหละ พูดในสิ่งที่มันโกหก ผมอยากจะพูดว่าโกหก ผมก็เตือนแล้วอะไรแล้ว ผมไม่อยากไปยุ่งอะไรกับท่าน ที่ผ่านมาท่านก็ทำแบบนี้ แล้วพอท่านทำแบบนี้อีกคนเข้ามาสู้ท่าน ท่านก็ไปรังแกอีกพวก เพื่อจะพูดข้างเดียว ไม่ใช่ ถ้าจะปิดก็ปิดทั้งหมด เพราะฉะนั้นก็ระมัดระวังแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าผมไปละเมิดสิทธิสื่อที่มีจรรยาบรรณพวกนี้
เพราะฉะนั้นขอตักเตือนให้หยุด การกระทำไม่ใช่ข้อเท็จจริง และอ้างว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อ ไม่ใช่ ผมไม่ต้องการ เพราะฉะนั้นทำถูกทำผิดอะไรก็แล้วแต่ ทุกวันนี้รู้แก่ใจว่าใครถูกใครผิด อย่ามาโกหกบิดเบือนอะไรอีกต่อไป ให้มีเขาเรียกว่าอะไร ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์หน่อยแล้วกัน คงเข้าใจกันนะ คงไม่แรงไปหรอก ขอโทษแล้วกันถ้าใครคิดว่าแรง อย่าไปหลบซ่อนที่อยู่นั่นที่นี่มาสู้ตามกฎหมายให้ชัดเจนขึ้น ผมจะดำเนินความเป็นธรรมให้ อย่าไปกล่าวอ้าง ประเทศชาติเสียหาย แล้วเอาคนนั่นคนนี้มาแก้ปัญหาให้เรา มันไม่ใช่เรื่อง โอเคนะครับ ขอบคุณนะครับ ขอให้ความสุขในช่วงวันหยุดสงกรานต์หลายวัน ย้ำอีกครั้ง หยุดแค่เสาร์-อาทิตย์ใช่ไหม เสาร์-อาทิตย์แล้วก็ต่อ จันทร์ อังคาร พุธ มีคนบางคนบอกว่า รัฐบาลนี้ใจดี ไปต่อพฤหัสฯ ศุกร์อีก 9 วัน ไม่ใช่ หยุดกันนานๆ เดี๋ยวก็มีเรื่องอีก มีปัญหาอีก การติดต่อราชการมีปัญหา เศรษฐกิจก็แย่อยู่ แต่ในระหว่างนี้ในส่วนของรัฐบาลก็พร้อมนะครับ ผมไม่ได้ไปไหน พร้อมจะแก้ปัญหา พร้อมจะดูแลประชาชนที่มีเรื่องเดือดร้อน เวลาที่ประชาชนพักผ่อน ผมก็ต้องทำงาน เวลาทำงานผมก็ต้องทำงาน เพราะเวลาผมมีน้อย จำกัดไง ขอบคุณในความร่วมมือ ขอบคุณทุกคนขอให้มีความสุข เดินทางไปกลับโดยปลอดภัย และพ่อแม่ลูกหลาน ครอบครัวอยู่กันให้ครบพร้อมหน้า กราบคุณพ่อคุณแม่ไปถึงแล้ว ผู้มีพระคุณทั้งหมด นั่นแหละคือค่านิยมของคนไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ของเราที่มีมายาวนาน เป็นเจ้าบ้านที่ดีกับนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ จะเข้ามาเยอะแยะอย่าให้เห็นภาพเดิมๆ อีก เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้มแข็ง หามาตรการที่เหมาะสม อย่าให้มันรุนแรง ขอบพระคุณนะครับ สวัสดีครับ
รัฐบาลมีความห่วงใยในเรื่องของการสัญจรไปมา การเดินทาง ทั้งในส่วนของทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ก็ตาม ก็เป็นห่วง เราได้มีการรณรงค์ผ่านโครงการ แล้งนี้ไม่แล้งน้ำใจ ขับขี่ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ลดการใช้โลหิต คือหมายความว่าอย่าให้ต้องมีการท่องเที่ยวกันแล้วเสียเลือดเนื้อ ต้องมีการใช้การบริการเลือดเป็นจำนวนมาก เหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา ก็อยากให้เป็นเทศกาลแห่งความสุขทั่วหน้า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานส่วนท้องถิ่น อปพร. อาสาสมัคร ตำรวจ ทหารที่เสียสละเวลาทุ่มเทแรงกายในห้วงวันหยุดยาว เพื่อจะดูแลความปลอดภัย ดูแลบ้านให้กับประชาชน การบริการจัดจุดพักรถพักสายตา จุดบริการประชาชน ซ่อมยานพาหนะ มีการบริการทางการแพทย์ การตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ ตั้งป้ายจราจร ป้ายบอกทาง และเส้นทางลัดอื่นๆ จะช่วยให้ทุกคนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย บรรดาคนขับรถสิบล้อ พนักงานขับรถสาธารณะพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ ไม่ดื่มสุรา เพราะว่าชีวิตทุกคนนั้นฝากไว้กับท่าน ลองดูว่าเราจะขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย มีความสุข ลดอันตรายต่อชีวิตตนเองและผู้อื่น ท่านจะต้องทำให้เรารู้สึกว่า ประเทศชาติของเรานั้น น่าอยู่ขนาดไหน นอกจากนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมดีงามของไทย รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม ได้มีการรณรงค์โครงการให้ประชาชนเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ตามวิถีปฏิบัติอย่างเหมาะสม เช่นการแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ใส่เสื้อผ้าที่ล่อแหลม กิริยาไม่สุภาพ ไม่ใช่วัฒนธรรมของเรา และก็ให้ต่างชาติประทับใจ พร้อมทั้งรณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไหมผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง เสื้อลายดอก ต้องขอความร่วมมือในการงดจำหน่ายสุราด้วยนะครับ งดดื่มเครื่องดื่มมึนเมา ในบริเวณที่จัดกิจกรรมงานสงกรานต์ ก็ขอความร่วมมือกับประชาชนที่เล่นน้ำว่าต้องไม่ให้มีสิ่งเจือปน แป้ง น้ำแข็ง รวมทั้งงดการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง อย่าให้ผิดกฎหมาย หรืออุปกรณ์เล่นน้ำอื่นที่ทำให้เกิดอันตราย รวมถึงไม่ขับรถกระบะบรรทุกน้ำไปในที่ชุมชนหรือบริเวณจัดงานนะครับ โดยรณรงค์ให้ใช้ขันน้ำตามประเพณีดั้งเดิม การส่งเสริมภาพลักษณ์เรื่องการแสดงกิจกรรมที่เหมาะสม ในการเล่นน้ำงกรานต์ งดการแสดงหรือการต้นที่ไม่เหมาะต่อวัฒนธรรมไทย อย่างเช่นที่ผ่านมาทุกครั้ง ก็จะมีบุคคลเหล่านี้อยู่ เพราะฉะนั้นขอให้มีการกำหนดเวลาการเล่นน้ำที่ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการจราจร และป้องกันการเกิดอาชญากรรมในยามวิกาลด้วย
ช่วงนี้อากาศร้อน เรามีความเสี่ยงในเรื่องพายุฤดูร้อน 2-3 ครั้งที่ผ่านมา ก็มีอันตรายเกิดขึ้น เราก็ได้เตือนไปแล้วแต่ยังมีจุดบกพร่องอยู่ เพราะฉะนั้นหลายพื้นที่ของประเทศจะประสบปัญหาฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตก ผมขอให้พี่น้องทุกคนรักษาสุขภาพ ในส่วนของรัฐบาลผมได้สั่งการให้ทุกกระทรวงตรวจสอบความเสี่ยง ดำเนินมาตรการป้องกันเชิงรุก เช่น การตรวจสอบ แก้ไขโครงสร้างของป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า ต้นไม้ใหญ่ริมทาง ไม่ให้เกิดความเสียหาย โค่นล้มลงมา มีผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเตรียมคนและเครื่องมือให้พร้อมสำหรับความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน เยียวยา เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วอย่างทันที ช่วยกันดูแลนะครับ
รวมความไปถึงเรื่องขยะ ขณะนี้ก็มีปัญหาในเรื่องการระบายน้ำ ท่อระบายน้ำเต็มไปด้วยขยะ ซึ่งเราก็คงโทษเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกัน ผมได้รับรายงานว่า ในแต่ละวันคลองบางคลองที่มีเครื่องมือในการกำจัดขยะรวบรวมขยะในแต่ละวันมีขยะที่เป็นถุงพลาสติก หรือของที่มันทำให้ท่ออุดตันเป็นจำนวนมาก วันละประมาณ 30 ตัน อุดตันทำให้ระบายน้ำไม่ออก ส่วนใหญ่จะเป็นคลองที่มีประชาชนอยู่อาศัยตามแนวคลองทั้งสิ้น จะทิ้งลงไปในคลองบ้าง หรือแม้แต่ขยะตามบ้านเรือนก็ตาม ทิ้งลงไปไหลไปอุดท่อที่น้ำจะลงไปในท่อใหญ่ มันก็เกิดปัญหาหมด น้ำก็ท่วม ถ้าไม่ช่วยกันแบบนี้ก็ไปไม่ไหว รัฐบาลก็ทำไม่ไหว ก็อย่าโทษกันไปมาแล้วกัน มาร่วมมือกันทำ
สำหรับในเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศ เมื่อวันพุธที่ 8 เมษายนที่ผ่านมานั้น มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรี นายดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และคณะ ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล นับเป็นการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 25 ปี ของนายกรัฐมนตรีรัสเซีย
ทั้งนี้ รัสเซียกับไทยนั้น เป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมาอย่างยาวนานเกือบ 120 ปีแล้ว ปัจจุบันก็ประมาณ 118 ปี 2560 จะครบ 120 ปี ในการเดินทางมาไทยครั้งนี้ จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดให้มากขึ้น ยาวนานแต่ค่อนข้างที่จะมีความสัมพันธ์กันในแต่ละมิตินั้นค่อนข้างจะน้อย วันนี้เราจะต้องเพิ่มกันให้มากขึ้น ก็จะเป็นการยกระดับความร่วมมือในทุกมิติ บนพื้นฐานของการมีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยผมและท่านนายกรัฐมนตรีเมดเวเดฟ ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามในเอ็มโอยูภาครัฐ 5 ฉบับ จะครอบคลุมในเจตนารมณ์ของเรา ของผู้นำสองประเทศ และของสองประเทศนั้นด้วยเรื่องของการลงทุน เรื่องพลังงาน เรื่องวัฒนธรรม เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องการต่อต้านยาเสพติด ซึ่งผมก็เรียนให้พี่น้องทราบพอสังเขปไปบ้างแล้ว ก็จะเพิ่มเติมในเรื่องด้านเศรษฐกิจดังนี้ เราจะร่วมกันผลักดันให้การค้าทวิภาคีเติบโตขึ้นจาก 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ให้เป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปีหน้า โดยการเปิดตลาดสินค้าระหว่างกัน การลดอุปสรรค และอำนวยความสะดวกทางการค้า ผมได้ขอให้นายกรัฐมนตรีรัสเซียได้พิจารณานำเข้ายางพารา สินค้าเกษตรอื่น ๆ และอาหาร เช่น ข้าว เนื้อหมูแช่แข็ง ผักและผลไม้สด รวมทั้งได้เชิญชวนรัสเซียให้เข้ามาร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ของไทย ตามยุทธศาสตร์แผนการลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนผู้ประกอบการของไทยก็มีความสนใจจะไปลงทุนในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอาหารในรัสเซียเพิ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายจะอำนวยความสะดวกให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ แก่นักลงทุน ภาคเอกชนอย่างเต็มที่
ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รัสเซียปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าในด้านนี้สูงกว่าเรามากนะครับ ?ทั้งในด้านการศึกษาและการวิจัย และการนำผลวิจัยมาผลิตเป็นสินค้า เราจะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กับ ศูนย์นวัตกรรสโคลโกโว อินโนเวชั่น เซนเตอร์ (Skolkovo Innovation Center) นอกจากนั้นยังเห็นพ้องหลายๆ เรื่องนะครับ เช่น การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ การแพทย์ และอวกาศ การสานต่อความร่มมือในด้านการส่งเสริมธุรกิจปิโตเลียมและการพัฒนาบุคลากรในด้านนี้ และการร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมนำทางอีกด้วย แนวทางในการสานต่อความร่มมือต่อไปอย่างยั่งยืน และเป็นที่หน้ายินดี คือ มอสโก รีเจียน สเตด ยูนิเวอร์ซิตี (Moscow Region State University) กับวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการพัฒนาหลักสูตรมัคคุเทศก์และภาษารัสเซีย นอกจากนี้ ยังมีการลงนามความตกลงของภาคเอกชนอีก 5 ฉบับ เกี่ยวกับความร่วมมือภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย ในด้านหนึ่ง คือ การสำรวจตลาดและกระจายสินค้ารัสเซียในไทย สอง คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจ สาม ความร่วมมือด้านการลงทุนในประเทศที่สาม สี่ ความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมนำทาง ห้า ความร่วมมือด้านการศึกษาในสาขาการบริหารจัดการท่องเที่ยวและการโรงแรม คือต้องเพิ่มทั้งสองด้าน ทั้งเราไปเขา และเขามาเราด้วย ทั้งหมด ทุกประเด็น
ทั้งนี้ ผมได้สั่งการให้ขยายผลความร่วมมือดังกล่าวไปสู่แผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม ให้เร่งดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมทวิภาคีไทย-รัสเซีย ซึ่งเราจะมีการประชุมในกลางปีนี้ ก็ต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อน เราจะได้ก้าวหน้าโดยทันที ไม่ใช่ต้องรอประชุมกันอีกครั้ง และต้องมาสั่งกันอีกครั้ง ไม่เอา ผมได้ตกลงกันท่านแล้วว่า ในระหว่างที่ก่อนจะประชุม หาข้อมูล หาข้อยุติให้ได้เรียบร้อย แล้วจะได้ดำเนินการได้ทันที
สำหรับข้อตกลงอื่นๆ กับประเทศอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน เราก็จะเร่งรัดขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม และตรงความต้องการของเรา แล้วก็ให้ความเป็นธรรมกับมิตรประเทศเหล่านั้นด้วย เราพร้อมจะเป็นมิตรกับทุกประเทศในโลกนี้ เราใช้หลักการคือ พื้นฐานแห่งความไว้วางใจ ลดความหวาดระแวง และมีผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน ทุกประเทศมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่ หรือประเทศเล็ก
ในเรื่องของภาพรวมทางเศรษฐกิจ วันนี้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงทรงตัวอยู่ ตลาดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสหภาพยุโรป เศรษฐกิจยังหด อัตราการว่างงานสูง เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ค่อยๆ ฟื้นตัวนะครับ เศรษฐกิจจีนชะลอการขยายตัวลงบ้างเล็กน้อย และเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ชะลอตัวเช่นเดียวกัน อันนี้มันเป็นทุกประเทศนะครับ ทุกประเทศก็พยายามจะแก้ไขปัญหาอยู่ ประเทศไทยอาจจะเผชิญมากหน่อย เพราะเราต้องพึ่งพาต่างประเทศ อาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำไป วันนี้เราต้องผลิตเองใช้เอง และเพิ่มมูลค่าของสินค้าต่างๆ เหล่านั้น ให้มีราคาสูงขึ้นเพื่อเป็นรายได้ของประเทศ หากเราไม่แข็งแรงพอ เราก็ต้องนำเข้าสินค้าอื่นๆ เขาเข้ามา ก็ทำให้มูลค่าของสินค้านำเข้าสูงขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าส่งออกของเราก็ส่งได้น้อยลง ราคามันตกต่ำ โดยเฉพาะสินค้าด้านเกษตรกรรรม อันนี้ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย มันไม่สามารถจะถ่วงดุลกันได้
เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเราซับซ้อน เราต้องสร้างความเข้มแข็งก่อน วันนี้เศรษฐกิจของเราก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองของต่างประเทศ ในประเทศก็ต้องพยายามเข้าใจกัน ต่างประเทศเขามองเราอย่างไร ขณะนี้ก็มีบริษัทจัดลำดับของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ อาทิเช่น บริษัท เจแปน เครดิต เรทติ้ง เอเยนซี่ (JCR) ของญี่ปุ่น ได้ประกาศความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลไทย โดยปรับมุมมองจากลบเป็นมีเสถียรภาพ
สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค กระทรวงพาณิชย์ รายงานเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมว่า ราคาสินค้าในภาพรวมลดลงร้อยละ 0.57 บางอย่างมันก็ลดมากลดน้อยก็ถัวเฉลี่ยกันไป หรือต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่งถูกลง เราก็เข้าไปควบคุมดูแลด้วย ถ้าต้นทุนมันไม่ได้เพิ่มขึ้นมันไม่สมควรที่จะขึ้นราคา ถ้าขึ้นราคามันต้องดำเนินการต่อไปในทางกฎหมายบ้าง ต้องขอร้องกัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าราคาเชื้อเพลิงจะถูกลง ก็ต้องประหยัดกัน ประหยัดการใช้พลังงานบ้าง ก็จะช่วยลดการทำให้โลกร้อนด้วย
ในภาคอุตสาหกรรม ล่าสุดผมได้รับรายงานว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ ระดับที่สูงที่สุดในรอบ 23 เดือน เนื่องจากการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร การกลั่นน้ำมัน รถยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวดี อุตสาหกรรมรถยนต์ก็ส่งสัญญาณที่ดี ดูจากการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ ขยายตัวกว่าร้อยละ 11.3
นอกจากนี้ ยอดการจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ที่เพิ่งจะผ่านไปจำนวน 37,000 คัน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตัวเลขจะน้อยลง แต่ก็เป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท แสดงว่าคนไทยก็ยังมีสตางค์ และซื้อรถยนต์ที่มีราคาสูงขึ้น ถึงแม้ว่ารถยนต์ขนาดเล็กราคาถูกจะน้อยลง อันนี้ต้องดูว่าดีมานด์ มันเป็นดีมานด์แท้หรือเทียม ในช่วงที่ผ่านมา ฉะนั้นราคาที่ค้าขายรถยนต์ในปีนี้คนดูมากขึ้น ขายรถน้อยลง แต่เม็ดเงิน 46,000 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ได้ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา
ในภาคเกษตรกรรม รัฐบาลต้องการสร้างความเข้มเเข็ง ให้เกษตรกรไทยมีความมั่นคงในอาชีพอย่างยั่งยืน เราจะเน้นฤดูกาลใหม่นี้ โดยการเข้าไปดูแลทั้งระบบให้เป็นรูปธรรม ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง จากขั้นตอนการผลิต จนถึงการตลาด การบริโภคภายในประเทศ มาตรการในการลดต้นทุนการผลิตนั้น รัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการ ให้ลดราคาปุ๋ยเคมี และเรียกบริษัทประกอบการปุ๋ยมาพบ จริงๆ แล้วเราอยากให้ใช้น้อยที่สุด ไปใช้ปุ๋ยอินทรีย์แต่มันก็จำเป็น เพราะดินบ้านเรามันใช้ปุ๋ยเคมีมานาน และวันนี้ก็ใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเดียวมันก็ไม่ฟื้นนะ ต้องผสมไปก่อนให้มันลดลง และวันไหนไม่ต้องใช้ได้เลยยิ่งดี บางพื้นที่ไม่ต้องใช้ได้ เราต้องผลิตปุ๋ยอินทรีย์ขึ้นมาเอง ขายกันเอง ให้เกษตรกรผลิตหรือรัฐจะผลิตก็ได้ วันนี้ก็ได้สั่งให้กระทรวงเกษตรไปเพิ่มเติมเรื่องการผลิตปุ๋ยอินทรีย์แล้ว ก็เป็นรูปแบบสหกรณ์หรือชุมชน
ในเรื่องสารการกำจัดศัตรูพืชได้มีการผลิตหลายอย่างออกมา ทั้งในส่วนของน้ำยาเคมี ในส่วนของแมลงกำจัดโรค เมล็ดพันธุืที่มีคุณภาพ ราคาถูก และส่งเสริมให้ประชาชน เกษตรกรได้ไปเพาะปลูกที่มันมีราคาที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตามก็ต้องควบคุมนะครับ ไม่ใช่เปลี่ยนพฤติกรรมไปปลูกที่มีราคาแพง ราคาสูง คุณภาพสูงอย่างเดียว และก็ปลูกมากเกินไป ต้องระวังเรื่องข้าวไรซ์เบอรี่เหมือนกันนะ ปลูกกันใหญ่โต มันต้องการแค่ไหน อย่างไร จนล้นตลาดอีก เพราะฉะนั้นต้องแบ่งพื้นที่ชัดเจน แบ่งกลุ่ม สร้างความเข้าใจเกษตรกร ไปดูแล ต้องให้เข้าไปดูว่าพื้นที่ไหนควรจะปลูกอะไรต่างๆ และมาดูว่าเรามีความต้องการกันอย่างไรในประเทศ ต้องการขนาดไหน ที่จะขายต่างประเทศ ที่เหลือควรจะสำรองไว้ไหม กรณีที่ขาดน้ำขาดแคลนน้ำในห้วงฤดูการต่อไป มันต้องมีสำรองไม่ใช่ผลิตอย่างเดียว แล้วก็เก็บ แล้วก็ไปอุดหนุนกันเข้ามา แล้วก็เก็บไว้ในคลัง มันไม่ใช่ความยั่งยืนนะ
เราพูดไปถึงค่าบริการรถเกี่ยว รถตัด รถเกรด ทุกอย่างนะ วันนี้เราต้องใช้เทคโนโลยี แต่ปัญหาก็คือว่า เกษตรกรนั้นไม่มีความสามารถเพียงพอ เป็นแปลงนาขนาดเล็ก ก็ต้องรวมแปลงนาให้มันใหญ่ขึ้น ความหมายก็คือ เอาทุกแปลงมารวมกัน ก็เป็นของใครของมันเหมือนเดิม เพียงแต่มันใหญ่ขึ้น จะได้มีอำนาจในการต่อรองราคาในการใช้เครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ ค่าเช่าที่นาก็เหมือนกัน ต้องสำรวจให้ได้ว่ามันเป็นที่นาเช่าหรือที่นาของตัวเอง แล้วเราก็มี พ.ร.บ.การเช่า อยู่แล้ว พ.ร.บ.การทวงถามหนี้สิน อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องร่วมมือกัน ถ้ายังรักษาผลประโยชน์กันเอง นายทุนก็ไม่ยอมเปิดเผย หรือก็ไปให้เกษตรกรได้ไปแสดงตัวกับราชการ หรือกับหน่วยงานแทนตัวเอง แล้วก็รับผลประโยชน์ทั้งสิ้นไป ผมว่ามันไม่เป็นธรรม เพราะฉะนั้นถ้าเกษตรกรคิดว่าจะแก้ปัญหาให้ยั่งยืน ท่านต้องบอกความจริง ท่านอย่าไปช่วยเขา ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่ให้ท่านเช่าที่ต่อไป เพราะเรามี พ.ร.บ.เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ต้องคุ้มครองทั้งผู้เช่า และผู้ให้เช่า การไม่ให้เช่าที่นั้นมันต้องแจ้งล่วงหน้า ไม่ใช่ไม่ให้ตั้งแต่วันนี้ พอไม่พอใจกันก็ไม่ให้ เพราะฉะนั้นเกษตรกรเขาก็ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลย ถ้ามีปัญหาเหล่านี้ ขอให้ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรมได้โดยทันที หรือว่าศูนย์การเกษตรใน 800 กว่าแห่ง รับแจ้งไว้ทั้งหมดแล้วผมจะดำเนินการแก้ไขให้โดยทันที ท่านต้องช่วยเรา ท่านอย่าปกปิดซึ่งกันและกัน เอาประโยชน์แต่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่งไม่ได้ วันนี้ต้องเผื่อแผ่แบ่งปัน
เรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าว และพันธุ์อ้อย พันธุ์มันสำปะหลังอะไรต่างๆ มันต้องแก้ไขหมด เราได้มีการจัดตั้งศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวเพิ่มเติมอีก 15 ศูนย์ ใน 15 จังหวัด เพื่อจะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ รักษาคุณภาพข้าวไทยให้ได้ แล้วในเรื่องของมัน ของอ้อย สับปะรด ก็สั่งให้กระทรวงเกษตรฯ นั้นไปหาพันธุ์ที่เหมาะสม ไม่ใช่เฉพาะป้อนโรงงานอย่างเดียว อาจจะต้องนำไปสู่การผลิตไบโอดีเซลเพิ่ม เกี่ยวกับเรื่องการที่นำสับปะรดที่มีคุณภาพมารับประทานกัน และส่งออกเป็นผลไม้ส่งออกต่างประเทศ วันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นสับปะรดที่ปลูกส่งโรงงานทั้งสิ้น พอโรงงานเกินความต้องการ คราวนี้ก็ขายใครไม่ได้ เพราะมันกินอร่อยไม่ได้ มันคนละอย่างกัน ก็เร่งให้ปรับพื้นที่ และจัดหาพันธุ์ใหม่ให้ดี
มันสำปะหลังก็ต้องหาพันธุ์ที่มีคุณภาพ หัวใหญ่ ใช้น้ำน้อย ต้องลดพื้นที่ให้ได้ แล้วเพิ่มปริมาณการผลิตให้ได้ ต้องอยู่ในกรอบของดีมานด์ที่เรากำหนดไว้ ไม่อย่างนั้นการผลิตหรือซับพลายมันมากเกินไป ทุกอย่างเลยนะ ทั้งปาล์มน้ำมัน คงต้องสนับสนุนให้ปลูกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก่อนจะปลูกปาล์มน้ำมัน ไปดูว่าขบวนการพร้อมหรือยัง เช่น พลังงาน ต้องไปดูว่า ขบวนการในการผลิตน้ำมันพร้อมหรือยัง จะได้เปลี่ยนจากการปลูกยาง มาเป็นปลูกปาล์ม แล้วนำปาล์มมาผสมน้ำมันปาล์ม และผสมในน้ำมันดีเซล เป็นบี 5 ดี 7 ต่อไปอาจจะเป็น ดี10 ในอนาคต คือผสมถึง 10 % วันนี้ตรงนี้ยังไม่พร้อม ต้องมาเตรียมกระบวนการผลิตตรงนี้ให้ได้ ถ้าได้ราคา ปาล์มก็จะสูงขึ้น ยางก็ลดลง
ฉะนั้นเมื่อเราใช้ในประเทศ เรามีการใช้น้ำมันดีเซลมาก ถ้าเราผลิตน้ำมันดีเซลได้เอง หรือเอาน้ำมันมาผสมเป็นดีเซล น้อยลง ถ้า 5% 7% 10% มันต่างกันอยู่แล้ว แต่เรายังไม่พร้อม ความต่อเนื่องมันยังไม่มี พอผลิตแล้วก็ต้องดูว่าราคาต้นทุนเท่าไหร่ มันควรจะเท่าไหร่ มันควรจะถูกกว่าน้ำมันทั่วไปไหมที่ผลิตจากปิโตรเลียม ต้องคำนวณให้หมด ไม่เช่นนั้นคนก็ไม่นิยม พอผลิตออกมาแล้วมันแพงอีก ไม่ได้ ต้องผลิตแล้วถูกกว่าเดิม ถูกกว่าน้ำมันประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็นแก๊สโซฮอล์ ราคายังสูงอยู่ กำลังทบทวนอยู่ว่า จะทำอย่างไร ระบบเท่าที่ผ่านมา มันไม่ครบทั้งระบบ จะให้ใช้อะไรต่างๆ ก็ตามสนับสนุนไปมันจะไม่ขาดๆ ตอนๆ ไม่ต่อเนื่องกัน มันไม่เข้มแข็งซักที วันนี้ราคายังสูงอยู่แล้วใครจะไปใช้ พอไม่ใช้ขึ้นมาขายได้น้อยขึ้นมา ปั๊มน้ำมันอะไรก็ไม่สร้างกัน พอไม่สร้างไม่รู้จะไปเติมที่ไหน ต่อไปเป็นเรื่องอะไรอีก เรื่องของที่มาทำวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นกากอ้อย กากน้ำตาล ต้องมาทำใช้ทั้งสิ้น มันก็พันกันไปหมด อันนี้ไม่ได้ใช้ อันนี้ก็ราคาแพง อันนี้ราคาตก ทำอย่างไรระบบ เวลาแก้ปัญหาแก้ทั้งระบบมันยาก มันไม่ใช่ง่ายๆ วันนี้แก้มาตั้งแต่ 6-7 เดือนยังไปได้ไม่ถึงไหนเลย ของเก่ามันก็ติดลบอยู่ทั้งหมด
เพราะฉะนั้นต้องแก้ปัญหาให้อย่างยั่งยืน เรื่องสินค้าอ้อย วันนี้ก็จะมีนโยบายในการจัดตั้งโรงงานน้ำตาลเพิ่ม อย่ามาคัดค้านกันเลย ถ้าเราตั้งโรงงานน้ำตาลเพิ่ม ไม่จำเป็นต้องขนาดใหญ่มากหรอกครับ แต่ปรับระยะห่างให้พอสมควร บางคนขอ 80 กิโลฯ บางคน 40-50 บางคน 50-60 ในขั้นนี้จะให้เกิดอุตสาหกรรมน้ำตาล และเปลี่ยนพฤติกรรมในการปลูกพืชที่มันขาดทุนมาตลอด ชาวไร่ชาวนาทำนาแล้วราคาข้าวมันก็ตก อาจจะเปลี่ยนมาเป็นปลูกอ้อยบ้างก็ได้ แล้วก็ป้อนโรงงานน้ำตาลใหม่ขึ้นมา และเราไปดูในเรื่องของการตลาดให้มันดีขึ้น และทำน้ำตาลที่มีคุณภาพ
สิ่งสำคัญก็คือ ไม่ว่าจะห่างเท่าไรก็ตาม วันนี้ห่าง 50 กิโลเมตรต่อแห่ง อย่าต่อต้าน แต่ผมจะกำชับว่า โรงงานน้ำตาลเหล่านั้นจะต้องไม่ไปแย่งสมาชิกกันที่ปลูกอ้อยอยู่เดิม ลูกอ้อย ในการป้อนโรงงานเดิมไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านจะต้องไปตั้งโรงงานใหม่ และไปสร้างสมาชิกของท่านขึ้นมาใหม่ ไม่อย่างนั้นมันจะแย่งกัน ทะเลาะกัน ตัดราคากัน มันก็เหมือนเดิม ผมไม่ยอมอยู่แล้ว ให้เข้าใจด้วย
มันสำปะหลังเหมือนกัน ต้องไปดูว่า จะเพิ่มการเพาะปลูกด้วยน้ำหยดได้ไหม บางครั้งดินมันก็เสียหาย และน้ำมันไม่เพียงพอ น้ำหยดก็ต้องใช้เงินทุน เพราะฉะนั้นต้องสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ ว่าทำอย่างไรถึงจะมีเงินกองทุนให้เขากู้ไปทำน้ำหยด อย่างไรก็แล้วแต่วันนี้รัฐบาลต้องนำร่องเหมือนที่มาเลเซียเขาทำนะครับ เรื่องน้ำมันปาล์มเขาทำกัน 20 ปีแล้วนะ เรื่องการส่งเสริมให้ปลูกปาล์มน้ำมันแทนยางพาราที่ล้นตลาด ในปัจจุบันมีหลายมาตรการ ในเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องยางพารามันต้องลดปริมาณการผลิตลงให้มากที่สุด ให้อยู่ในกรอบในเกณฑ์ที่ใช้ในประเทศ ซึ่งเราก็ยังสร้างโรงงานไม่เท่าไหร่ โรงงานปัจจุบันต้องใช้ยางไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นต้องขายวัตถุดิบไป 90 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราเอายางมาใช้สัก 50 เปอร์เซ็นต์ ผมว่าราคามันโอเค รับได้ อยู่ได้เฉลี่ยกันไปมา เราก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้น ที่ลดลงไป เช่น จากการปลูกยางพารา มาปลูกปาล์มน้ำมันแทน ปาล์มน้ำมันก็ต้องมาเตรียมการทำไบโอดีเซล มันต้องสอดคล้องกับเรื่องที่ผมกล่าวมาสักครู่นะครับ ราคามันจะได้ถูกลง เรื่องการใช้น้ำมันดีเซลต้องสั่งซื่อต่างประเทศมา และพลังงานเราก็ลดน้อยลง
ด้านการตลาดวันนี้ก็ส่งเสริมให้มีตลาดชุมชน กระทรวงมหาดไทย และศูนย์ราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ 2,000 กว่าแห่งฝาก ท้องถิ่นช่วยดูด้วยนะครับ พยายามที่จะตัดกลไกพ่อค้าคนกลางนะ เขาควรจะได้รู้ว่ากำไรเท่าไหร่ รายได้เท่าไหร่ เกษตรกรเราก็จนอยู่อย่างนี้กี่ปีกี่ชาติ ก็โทษรัฐบาล เกษตรกรต้องมีความรู้นะครับ มีความเข้าใจเรื่องการตลาด มีความรู้เรื่องเกษตรสมัยใหม่ รู้ราคา รู้ว่าการขายสินค้าควรทำไง ราคาควรเป็นอย่างไร มันจะได้รู้กันซะที ไม่ทะเลาะกันต่อไป
ในเรื่องของที่ดินทำกันนั้น รัฐบาลก็ได้ทยอยมอบเอกสารในการขอใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเกษตรกรที่ยังไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เราจะทำอย่างเป็นระบบ บูรณาการ 6 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร สำรวจการใช้สอยที่ดินทั่วประเทศ ทั้งจากดาวเทียม ภาพถ่ายดาวเทียม และในเรื่องของการเข้าไปสำรวจในพื้นที่โดยหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล เราก็จะรู้ว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่ที่บุกรุกอยู่แล้วบ้าง ถ้าบุกรุกมาเป็นเวลานานแล้ว 10 ปี 20 ปีขึ้นไป มันก็เป็นป่าที่เสื่อมโทรมอยู่แล้ว แต่มันผิดกฎหมาย ทำยังไงให้เขาอยู่ที่นั่น แล้วก็จำกัดให้เขาทำให้ได้ตรงนั้น แล้วไม่ไปขายต่อ อันนี้เราก็ใช้มาตรา 44 ดูแล ที่เราทำไป ไม่งั้นมันไปไม่ได้ เราจะยกเขาไปที่ไหนอีกล่ะ แล้วตรงนั้นมันก็บุกรุกมานานแล้วด้วย มันก็ไม่ได้เป็นป่าอยู่แล้ว ทำชัดเจน ไม่ได้ไปเลือกปฏิบัติกับใคร ขึ้นอยู่กับผู้ที่เขาสรุปขึ้นมา การโซนนิ่ง การทำข้อมูล ปัญหาของเราคือการทำข้อมูลยังไม่พร้อมเลย เราก็ต้องค่อยๆ ทำไป มีหลายระยะ แต่ข้อสำคัญคือเราจะไม่ซื้อขาย ไม่ให้มีการซื้อขายอีกต่อไป ที่ดินเหล่านั้นยังคงเป็นของรัฐอยู่ อันนี้ก็จะทำให้ทั่วประเทศ ก็มีระยะ 1 ระยะ 2 มีอยู่หลายจังหวัด ที่ต้องเอาคนส่วนที่ 1 ที่ต้องเอาออกมาทันที โดยเร็ว ด้วยความสมัครใจด้วย จากป่าต้นน้ำ ออกมาหาที่ให้เขาอยู่ ถ้าอยู่ต่อไปมันก็เป็นอย่างนี้ ชำรุดทรุดโทรมไปเรื่อง เดี๋ยวก็ต้องทำถนนหนทาง ทำไฟฟ้า ทำประปาเข้าไป แล้วก็เรียกร้องว่าทำไมไม่ได้ซะที ก็มันอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ ทำให้มันก็ขยายต่อไป มีลูกมีหลาน ป่าก็หมดอีก เหมือนเดิม ต้องเอาออกมา มาอยู่ข้างนอก มาอยู่ในพื้นที่ที่ผมกำหนดไว้แล้ว คณะกรรมการเขาเลือกมาแล้ว มีพื้นที่ที่บุกรุกอยู่แล้วเดิม มีพื้นที่ที่ว่างเปล่า เป็นที่ราชพัสดุ ที่ของราชการ เราก็จะใช้มาตรา 44 ให้สามารถอยู่ได้ อยู่ได้แล้วทำกินนะ ห้ามขาย หรือขยายพื้นที่รุกล้ำไปเหมือนเดิมอีกไม่ได้ ต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อจะลดปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคม ความเป็นธรรม ยุติธรรม
ระยะที่ 1 พื้นที่เป้าหมาย 6 แห่ง 4 จังหวัด 53,694 ไร่ ระยะที่ 2 พื้นที่เป้าหมายอีก 8 แห่ง ในอีก 8 จังหวัด อีก 51,929 ไร่ จะเห็นว่าพื้นที่มีไม่มากนัก ทั้งหมด 12 จังหวัด เราก็ต้องหาเอาคนที่ผิดกฎหมาย และไม่มีที่ทำกินจริงๆ เข้ามาอยู่อาศัย คนที่เดือดร้อนเยอะแยะไป ถูกเขาหลอกบ้าง อะไรบ้าง บางทีก็มีคนไปหลอกว่าให้มาทำกินที่นี่ แล้วก็จ่ายเงินให้เขา เขาก็จะไปทำให้ เสร็จแล้วก็ทำไม่ได้ วันนี้ที่รัฐเข้าไปสำรวจ ส่วนใหญ่ที่ประชาชนเข้าไป ไม่รู้เรื่องนะ มีคนชี้นำเขามา มันก็ผิดกฎหมายอยู่อย่างนี้ พอเราเข้าไปจัดการ ก็กลายเป็นว่าเราไปรังแกประชาชน คนจน นี่ไง ประเทศไทย ก็มีคนไปใช้ประโยชน์ถึงเยอะแยะ
เพราะฉะนั้นวันนี้ ในเรื่องที่เราจะเร่งรัดให้มากขึ้น เพราะว่าเป็นแหล่งรายได้ของประเทศที่สำคัญในปัจจุบัน คือในภาคการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น มีความสดใส และจะใช้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเราด้วยในขณะนี้ เพราะว่าเราลงทุนไม่มากนัก ถ้าไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุนเศรษฐกิจ เหล่านั้นมันต้องใช้เวลา ใช้เงินจำนวนมาก อันนี้เราก็สร้างให้มันปลอดภัย ให้มันสะอาด มีส้วม มีสุขา วันนี้ก็เห็นหลายที่มีการประกวดห้องน้ำ ห้องสุขา ในสถานที่ท่องเที่ยว ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ ริเริ่มอย่างนี้ดีกว่า คนที่เขามาเที่ยวจะได้พอใจ มีความสุข ถ้ามาแล้วก็ แน่นก็แน่น มองอะไรก็ไม่เห็น ส้วม ห้องน้ำ ก็สกปรกอีก แถมมีโจรผู้ร้ายอีก มีหลอกลวงเข้ามาอีก มีของปลอมเข้ามาอีก แล้วมันจะไปได้รายได้เข้าประเทศได้ยังไง ผมไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วน ทุกฝ่าย ก็จะเข้มงวดในเรื่องเหล่านี้ อย่าทำอีกเลย ทำลายประเทศกันไป จะทำลายกันไปถึงไหน
เพราะฉะนั้นกลุ่มนักท่องเที่ยวปัจจุบันนั้นมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งจีน มาเลเซีย เกาหลี รัสเซีย ญี่ปุ่น ไตรมาสแรก มกราคม-มีนาคม 58 นี้ นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศเรา ประมาณ 8 ล้านคนนะครับ ขยายตัวร้อยละ 23 จากปีที่แล้ว ใครบอกว่าลดลงมาหาผม อย่าไปพูดในสื่อตัวเลขที่กระทรวงเขาคุมท้องถิ่นเขารายงานกันขึ้นมา ถ้าท่านไม่ฟังทางวิทยาศาสตร์ ท่านจะไปเชื่อใคร ข้างนอกพูดมาไม่มีหลักเกณฑ์ ไม่ได้ เดือนเมษายนนี้ห้วงเทศกาล สงกรานต์ เราคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในบ้านเราประมาณ 5 แสนคนนะครับ คนไทยเองก็จะมีการเฉลิมฉลอง พักผ่อน ท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย เดินทางกลับภูมิลำเนาก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศมีเงินมาใช้มาก มีเงินน้อยใช้น้อย ถ้ามีน้อยใช้มากก็ไม่ใช่อีก ถ้าไม่ให้ใช้เลยก็ไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นต้องเผื่อแผ่ต้องมีเงินมาใช้จ่ายกัน คนไม่กล้าใช้เงินให้เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างไร เศรษฐกิจมันต่อกันมันเป็นห่วงโซ่กัน รัฐบาลเขาทำขนาดใหญ่ลงมาถึงเล็ก เล็กก็ต้องช่วยเล็กดันขึ้นไปใหม่ สร้างเถ้าแก่ใหม่ ต้องมองในภาพรวมด้วยนะครับ อย่ามุ่งแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เศรษฐกิจท้องถิ่นตลาดชุมชนก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยน ค้าขาย และดูแลซึ่งกันและกัน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้ามีมากก็ขาย ถ้าอะไรขายไม่ได้ราคาก็ไม่มีภูมิคุ้มกันว่าอย่าปลูกให้มากนัก
ในเรื่องของการแข่งขันของประเทศนั้นทำให้เข้มแข็งในเวทีโลกนั้น เราต้องทำหลายอย่างนะครับ การวางระบบโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ราง ทางน้ำ ทางอากาศ เราต้องพยายามให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน เชื่อมโยงขนถ่ายสินค้าในภูมิภาค และมีโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการจะได้ส่งเสริมภาคการผลิต ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรมให้เกิดเสถียรภาพ น้ำ เพื่อการอุปโภค-บริโภค น้ำประปา ปัญหาของเราคือการบริหารจัดการน้ำมัน ไม่ได้ทำทั้งระบบมาโดนตลาดอย่างต่อเนื่องทำมาเป็นปี ๆ ไม่ได้ มันต้องมาผูกโยงกันวันนี้เริ่มต้นมาได้สมัยนี้ ระยะที่ 1 มันต้องมีกี่ระยะ มีแหล่งน้ำให้กับประปาหมู่บ้านครบ อีก 6,000 กว่าแห่ง ปี 60 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดย่อย แหล่งน้ำในที่นา ไม่ใช่มีเงิน และไปลงในพื้นที่ที่มันขุดไปแล้วไม่มีน้ำ เก็บน้ำไม่อยู่ มันก็ต้องไป ขุดที่มันมีน้ำ และจัดระบบส่งน้ำไปที่มันไปได้
วันนี้มีการจดทะเบียนนวัตกรรมจากการวิจัยในประเทศ และนำไปสู่สายการผลิต ได้สั่งการแก้ไขหลายอย่าง ราชการต้องเอาไปทดลองใช้งาน ในจากงบประมาณของหน่วยงานเอง 10-30% ต้องทดลองไปใช้ก่อน เพราะต้องมีการทดลอง มีมาตรฐานในประเทศ เราต้องผ่อนผันกฎกติกาอื่นๆ ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างเยอะแยะ เราต้องทำ ไม่เช่นนั้นมันซื้อไม่ได้ เพราะกฎหมายมันเขียนไว้อย่างนั้น อีกอันคือว่า ถ้าจะไปขายต่างประเทศเราก็ต้องส่งไปทดสอบต่างประเทศให้เขายอมรับมาตรฐาน ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ขายได้หมด มันต้องผ่านมาตรการกีดกันทางการค้าเข้าไปอีก ข้อตกลง WTO, FTO อีกเยอะแยะไปหมดที่เขากำหนดไว้ ปีนี้ต้องเจรจา FTA อีกหลายประเทศเหมือนกันนะ เพราะเราไปถูกปรับเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ฉะนั้นภาษีมันเปลี่ยนไปหมดเลย เราต้องไปเปิดเจรจากับประเทศนั้นประเทศนี้เพิ่มเติมทำให้เราขายสินค้าได้มากขึ้น ในประเทศที่ไม่ได้จำกัดเราในด้านเหล่านี้
การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย การลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว ค่อนข้างจะก้าวหน้ามากขึ้น แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่แค่ลงทะเบียน มันจะต้องไปดูเรื่องของการพิสูจน์สัญชาติอีก ต้องมีการรับรองโดยประเทศคู่สัญญา เช่น ประเทศรอบบ้านเรา ซีอาร์วี เขาต้องจัดชุดพิสูจน์สัญชาติเข้ามาตรวจสอบที่จดทะเบียน บางประเทศตรวจได้นิดเดียว เพระาคนเขาน้อย บางประเทศจดได้ 70-80% เขาต้องต่ออายุของการถือใบอนุญาตชั่วคราว ผ่อนผันไว้ก่อนให้ทำงานได้ก่อน แต่ขอร้องว่า พวกนี้อย่าเพิ่งย้ายไปที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อไปจะมีการสำรวจด้วยว่า ผู้ประกอบการที่ขอจดทะเบียนไปแล้ว คนที่จดทะเบียนไปแล้วยังอยู่หรือเปล่า ไม่ใช่พวกนี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันดูแล ส่วนใหญ่ก็ถูกซื้อตัวไปอีก ทำที่นี่เสร็จพอที่นี่ให้รายได้สูงขึ้นก็ไปทางด้านโน้น มันไม่มีกติกากันเลย
การปฏิรูปการศึกษาก็สำคัญ ผมให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มาก เพราะคนในแต่ละประเทศมันขึ้นอยู่กับคุณภาพของคน คุณภาพของคนมันมาจากการศึกษา ผมเองก็ต้องพัฒนาตัวเอง หลายๆ คนต้องพัฒนาตัวเอง ประชาชนก็ต้องเรียนรู้ ต้องมีความรู้ ต้องเรียนหนังสือ ต้องส่งลูกเรียน เรียนอะไรที่เป็นประโยชน์มีงานทำ ถ้าทุกคนมองแต่เพียงว่า จะหาเงินอย่างไรก็ได้ จะถูกจะผิดก็ได้ ไม่ถูก เป็นการสร้างค่านิยมที่ผิดกับประเทศ ประเทศก็ไปไม่ได้ วันหน้าก็ทุจริตกันแบบเดิมอีกเยอะแยะไป ไม่ได้ มันต้องพัฒนาคนให้มากที่สุด พัฒนาฝีมือแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาด วันนี้ก็เร่งทุกวัน และจะต้องรองรับภาคการผลิตในกรอบอาเซียนที่มันจะมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เราผูกโยงห่วงโซ่เยอะแยะไปหมด ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ทั้งต่างประเทศ ในประเทศ สร้างความเข้มแข็งระหว่างกัน ความเชื่อมโยงระหว่างกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน ไปดูแลเรื่องการศึกษาด้วย สถานประกอบการต่างๆ ต้องรับผิดชอบในพื้นที่ด้วย ต้องไปดูแลการวิจัย พัฒนา เอาคนไปเรียนรู้ในสถานประกอบการ ทำทั้งหมด รัฐบาลก็จะทำ ในระหว่างนี้เราต้องสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต เพื่อยกระดับความร่วมมือเศรษฐกิจกับตลาดใหม่ เช่น ผมเรียนไปแล้วว่า ตลาดที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอาจจะอยู่ในขั้นประเทศที่มีรายได้น้อย รายได้ต่ำ เช่น ไปดูๆ เขา วันหน้าเดี๋ยวถ้าเขาทำดี เขาอาจจะแซงเราก็ได้ ถ้าเราทะเลาะกันอยู่ เช่น แอฟริกา เอเชียใต้ ต้องดูแลเขา ผมอยากให้มองว่า ต้องดีทั้งคู่ เราดีขึ้น เขาก็ต้องดีขึ้น ไม่ใช่เราไปสูบเลือดสูบเนื้อเขามา ไม่มีความสุขหรอกครับ เผื่อแผ่แบ่งปันประชาคมโลก
ตลาดที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจปานกลาง จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา รัสเซีย ประเทศหมู่เกาะ และการเพิ่มมูลค่าสินค้าชายแดนเศรษฐกิจพิเศษ ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางฮับ ทางด้านการบิน การท่องเที่ยว ฮับในเรื่องการรักษาพยาบาล การแพทย์ โรงพยาบาล ทั้งหมดนี้มันจะทำให้ประเทศเรามีรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงในอนาคต ต้องใช้เวลา รัฐบาลใครก็ต้องทำแบบนี้ถ้าเป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล นึกถึงประชาชนเป็นหลัก
ในการร่างรัฐธรรมนูญนั้นมีความสำคัญ ปัจจุบันก็อยู่ในกระบวนการ ก็ยังไม่เสร็จสิ้น แต่อยากจะบอกทุกคนว่า อย่าไปตำหนิติเตียนกันนักเลย น่าดีใจที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ ติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามในประเด็นที่ยังไม่เรียบร้อย ยังไม่ได้ข้อยุติ ก็อย่าเพิ่งไปขัดแย้งกันเลย ประเทศเราต้องไปดูก่อนว่า เราจำเป็นต้องปฏิรูปหรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นก็จบ ไม่จำเป็นต้องไปร่างใหม่ เอาอันเก่าไปใช้เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าทุกคนคิดว่าต้องปฏิรูปแล้ว มันก็ต้องมาดูว่า จะเขียนอย่างไรให้คนในประเทศยอมรับ ให้นักการเมืองยอมรับด้วย ประเทศเราจำเป็นต้องปฏิรูปไหม และที่ผ่านมากฎกติกาบ้านเมืองมีช่องว่างตรงไหน เราก็แก้ตรงนั้น ไม่ใช่ต้องแก้กันทั้งหมด เขาทำอยู่ ก็เป็นห่วงเรื่อง ประเด็นคือกลุ่มการเมือง การเข้าสู่อำนาจ การเป็นรัฐบาล การแก้ปัญหาเมื่อมีเหตุการณ์แบบครั้งที่แล้ว เขาห่วงตรงนั้น ก็เลยเขียนอะไรออกมาแบบนั้น ปัญหาคือเรายอมรับได้ไหม ยอมรับไม่ได้เพราะอะไร ถ้าได้ได้เพราะอะไร ถ้าได้เป็นผมนะ ในฐานะคนไทย ถ้าได้คือเราอยากให้ปฏิรูปได้ เราอยากให้การเมืองเราโปร่งใส อยากให้บ้านเมืองมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นก็ต้องแก้ไข มันอาจจะไม่ตรงกับประเทศอื่นๆ เพราะประเทศอื่นเขาพัฒนาเลยไปแล้ว แต่เรายังติดตรงนี้ไง เราไปเอาตรงโน้นมาทำตรงนี้ได้ไหม แล้วต่างประเทศเขาว่าไง แล้วเราแก้ตรงนี้ช้ากว่าเขาไง ท่านไปคิดใหม่นะ ไปดูว่าจะทำอย่างไร ถ้าท่านคิดว่าไม่ต้องปฏิรูป อยากให้เป็นแบบเดิม มีการใช้กำลัง ไม่ใช้อาวุธ มีเสรีภาพและข้อจำกัด กฎหมายใช้ไม่ได้ ก็ตามใจท่านแล้วกัน ผมไม่รู้จะว่าอย่างไร
ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ ประชาคมโลก ให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ผมว่าไม่ต้องอาย ถ้าทำแล้วอย่าอาย รัฐบาลไหนก็ตาม ถ้าทำแล้วยอมรับกันบ้าง ยอมรับกติกา ยอมรับกฎหมายบ้าง ผมว่าผมมอบนโยบายไปแล้วเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ให้ไปเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญของต่างประเทศที่เขาเกิดเหตุการณ์แบบเรา ว่ามีการปฏิวัติรัฐประหาร มีการใช้อาวุธสงคราม มีการต่อสู้กันในเมือง แล้วขันตอนเหล่านั้นจากนั้นมาจนถึงวันนี้เขาทำอะไรมาบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่ เราต้องถามเขาแบบนี้ ไม่ใช่ให้เขามาวิเคราะห์มาตรารัฐธรรมนูญไทยอย่างไร ไม่ใช่ ให้คนไทยได้รับรู้ ว่าถ้าจะเป็นแบบที่เขาเป็นในวันนี้ มันต้องผ่านกระบวนการอะไรมาบ้าง
วันนี้ทุกคนไม่ได้มองอะไรเลย มองว่าทำอย่างไรจะมีสตางค์ ทำอย่างไรจะแก้ปัญหาโน้นนี้ได้ ทำอย่างไรจะร่ำรวย ไม่ได้คิดว่า แล้วประเทศชาติอยู่ตรงไหน แล้วขั้นตอนมันเป็นอย่างไร ใจร้อนทุกคน ก็เลยต้องเปลี่ยนแปลง ต้องใช้กำลัง ใช้อาวุธสงคราม ผมว่าไม่ใช่ เราเคยเลิกทาสมา ไม่ได้เสียชีวิตเสียอะไรกันเลย ต่างประเทศเขาก็มีเหมือนกัน ที่ผมอยากให้เอามา ก็คือฝรั่งเศส และเยอรมัน สถานการณ์คล้ายๆเรา อย่ามาบอกว่าเขาเกิดนานมาแล้ว ไม่ใช้กับวันนี้ วันนี้มันต้องย้อนกลับไปที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เอาเขามาดู แล้วเราก็ย่อมมา ว่าจะทำอย่างไร ต่อจากนั้นเราก็มาถามกันเองว่า เราต้องการอะไร เขาเป็นอย่างนี้เพราะอะไรจะถามเขาดู การมีมาตรา 16 มาตรา 17 อะไรของเขา ทำไมถึงต้องมี ไม่ใช่มานั่งเถียงของเรา แล้วไม่ดูของเขา ขณะเดียวกันคนเก่าก็ต้องการแบบเดิม มันไม่เกิดประโยชน์ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไปได้หรือไม่ได้อยู่กับคนไทยทุกคน อยากจะให้มันดีกว่าเดิมไหม อยากอยู่ในความขัดแย้งอีกหรือเปล่า อยากมีการเมืองที่บริสุทธิ์ ยุติธรรมไหม เป็นธรรมไหม สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศไหม เกษตรกรจะต้องมีเงิน มีรายได้มากขึ้นไหมในอนาคต ทุกอย่างมันต้องพัฒนาหมด แล้วประเทศไทยก็อ่อนด้อยแบบนี้ตลอดไป ฉะนั้นก็เร่งดำเนินการ อย่าหาว่าผมไม่เอาใครเขามาเลย มีหลายคนต่อว่าผม ว่าผมไม่เอาคนอื่นมายุ่ง ท่านไปเอายุ่งมากกว่าผม ท่านมาวิจารณ์ มาว่าประเทศ มาใช้กฎหมาย ใช้อะไร ต่างประเทศมาใช้กับเราประเทศไทย นั่นน่ะหนักยิ่งกว่าผมนะ จะบอกให้ ผมเอามาเพื่อศึกษาข้อมูล ไม่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญของเรา ไม่เกี่ยว บ้านเราส่วนบ้านเรา แต่เราจะถามเหตุผลของเขา ว่าทำไมถึงมีอย่างนั้น แล้วเราดูว่าทำไมถึงไม่มี แล้วเราจะมีบ้างได้มั้ย
วันนี้ก็มีหลายเรื่องนะ เนื่องจากเป็นสงกรานต์ ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรที่มันแรงๆ นะ แต่มันก็อดไม่ได้ ขออนุญาตพูด เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของปีนะ วันนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญนะ ของการเดินหน้าประเทศ ที่ผมพูดมาทั้งหมด ตลอดระยะเวลาการเป็นรัฐบาล คสช. ก็ 6 เดือนใช่มั้ย 6 เดือน กับ 5 เดือน 11 เดือนแล้ว จะปีแล้ว ก็พูดตลอดนะ ความก้าวหน้า มันก็มีตามลำดับนะ แต่ผมบอกแล้วว่า มีระยะต้น ระยะกลาง ระยะปลาย จะทำระยะต้น ระยะกลาง 1 ปีแรก กับ 1 ปีที่สองที่เป็นรัฐบาล รวมแล้วก็ 2 ปีเท่านั้นล่ะ ต่อไปก็เป็นเรื่องของรัฐบาลที่โรดแมป ถ้าทำได้ก็ทำไป
แต่วันนี้ต้องเดินหน้าประเทศไปสู่การปฏิรูปให้ได้ วางแผนปฏิรูปพื้นฐานให้ได้ มีกลไกในการที่จะทำให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริง เป็นรูปธรรม มันก็ต้องไปดูว่าจะทำยังไงให้มันเกิดตรงนั้น กฎหมายลูก หรือบทเฉพาะกาล จะทำยังไง ถ้ายอมรับ โอเค ประเทศไปได้แน่ ถ้าไม่ยอมกัน ประเทศถอยหลังกลับที่เดิม ผมสรุปง่ายๆ แค่นี้
การเลือกตั้ง เราต้องการให้เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส มีนักการเมืองที่ดี มีธรรมาภิบาล มีคุณธรรม จริยธรรม ก็ต้องเข้าใจสิว่าความตั้งใจของเขา ของ สนช. สปช. กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ ทุกคน ทุกหน่วยงาน เขามีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ได้อย่างที่ผมพูด แต่แน่นอน มันต้องมีความขัดแย้ง มีคนไม่เห็นด้วยอะไรต่างๆ ผมก็ต้องใช้เวลาในการสร้างความรับรู้ให้ได้ ให้เร็วที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน เพื่อจะได้ปลอดภัยในช่วงการเปลี่ยนผ่าน วันนี้ผมถือว่าเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่าน หรือส่งผ่าน ไปสู่การเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อย่างที่โลกต้องการ อย่างที่โลกเขาไม่มีปัญหา หลายประเทศผ่านการจัดการมาก่อน ผมว่าอาจจะพูดได้ว่าทุกประเทศ วันนี้ขอเวลาหน่อยเถอะ อาจจะนานสักหน่อย ไม่ได้พูดมาหลายครั้งแล้ว
เพราะฉะนั้นในเรื่องของการเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั้น ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ ทุกคนต้องอดทน ต้องช่วยเหลือกัน มีมาตรการที่จะทำให้เกิดเอื้ออำนวยต่อการปฏิรูปให้ได้อย่างแท้จริง ไม่งั้นก็พูดแต่ปาก แล้วทำอะไรไม่ได้ วันหน้าก็กลับที่เก่า เพราะฉะนั้นความเข้มแข็งของข้าราชการ ข้าราชการท้องถิ่น ประชาชน เราต้องทำให้เขาแข็งแรงในอนาคต ทุกภาคส่วน ไม่มีความเหลื่อมล้ำ เข้าถึงกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมทุกคน มีเงินมีทองใช้อย่างถูกต้อง เจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
ก็พูดถึงแต่สิ่งที่ทำมาแล้ว และมีปัญหาอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ก็บอกว่าไม่เป็นธรรม อะไรเหล่านี้ ผมว่าท่านหยุดพูดได้แล้วนะ หยุดพูดได้แล้ว พอผมไปใช้อำนาจทางกฎหมาย ท่านก็บอกว่าผมไปปิดกั้นเสรีภาพสิทธิ สิทธิเสรีภาพที่ผ่านมาเป็นยังไงล่ะ บริหารประเทศได้มั้ย มีการประท้วงหรือเปล่า มีการประท้วงแล้วใครใช้อาวุธสงครามยิงตอบต่อคนที่เขามาประท้วง มันก็เกิดอย่างนี้ 53 ก็ชุดเดิม 56-57 ก็ไอ้ชุดเก่าอีกล่ะ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายค้าน ก็ทำแบบเดิม สังคมเข้าใจซะบ้าง ฟังอยู่ได้ อย่าไปฟังเขา ตามสื่อวิทยุ โทรทัศน์ วันนี้ผมต้องปิดสถานีวิทยุเท่าไหร่ล่ะ 6 พันกว่าแห่ง ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่เคยปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะอะไร เพราะสนับสนุนฝ่ายนักการเมือง เป็นของนักการเมืองเสียส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยดี ที่ดีๆ อย่าไปพูด ผมไม่ได้ว่าทุกคน คนดีๆ เยอะแยะไป ผมไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น ใครที่รู้ตัวว่าดี ผมไม่ได้ว่าท่าน ใครที่รู้ตัวว่าไม่ดี ผมว่าท่านก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องนำพาประเทศไปสู่อนาคต ท่านพยายามจะพูดอะไรก็ตามให้มันกลับไปที่เก่าให้ได้ สร้างการรับรู้ที่มันผิดๆ ไปอีกเหมือนเดิม ต้องการจะมีสิทธิเสรีภาพอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ได้พูดถึงหน้าที่ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ไม่มีเลย กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย แล้วก็บางสถานการณ์ที่อ้างด้วยความเป็นธรรม แล้วก็ทำไม่ได้ ต่างๆ ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการประท้วง อ้าวแล้วที่ผ่านมาครั้งก่อน ประท้วงหรือเปล่า ก็ประท้วงอีกเหมือนกัน มีการใช้อาวุธสงครามเหมือนกัน ไม่รู้สิ กลับไปดูของเก่าแล้วกัน สื่อต่างๆ ช่วยนะครับ หลักฐานอย่าไปทิ้งทั้งหมด ผมถ่ายรูป ถ่ายอะไรไว้เยอะแยะไปหมด วิดีโอ หนังสือพิมพ์ ทั้งหมดเดินตามเป็นร้อย ตามทหารเข้าไป แล้วก็หลบกระสุน ทำไมไม่พูดให้ผมบ้างเล่า ใครจะอยากไปใช้ทำร้ายประชาชน เขาก็มีชีวิตจิตใจนะ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ รัฐบาลต้องดูแล เมื่อสถานการณ์ไม่ดี รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ได้ จะด้วยวิธีไหนก็ต้องว่ากันไป จะผิดหรือถูกก็ไปว่ากันตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่อย่ามาบิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อายเขานะ เดี๋ยวพอมันออกมาปรากฏจริงๆ แล้วท่านจะว่ายังไง ผมไม่รู้ ประเด็นสำคัญคือการใช้งบประมาณในการทำประชานิยม วันนี้มาบอกว่ารัฐบาลนี้ประชานิยมมากกว่า มากกว่าตรงไหน บอกว่าเราเอาเงินไปให้สวนยาง ชาวไร่ ก็ช่วยปัจจัยการผลิตเขา ผมไม่ได้ไปซื้อของเขามา การจะรับซื้อของก็เป็นเรื่องของระบบสหกรณ์ แล้วใช้เงินน้อยกว่าท่านมหาศาล ท่านบอกว่า เอ๊ะ แล้วทำไมไปขึ้นเงินข้าราชการ ก็เนี่ย จ่ายเงินไปให้เกษตรกรเป็นแสนล้าน ข้าราชการเขาไม่ได้ขึ้นเงินเดือนมากี่ปีแล้วล่ะ ไม่เคยได้ขึ้น แล้วขึ้นคนละ 300-500 บาท เนี่ยเหรอ ให้เกษตรกร เดี๋ยวก็เดือดร้อน ก็ขออีก เนี่ย ผมต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ความเข้าใจซึ่งกันและกัน เกษตรกรก็ไม่ไปรังแก ไม่ไปร้องให้กับข้าราชการที่เขาดีๆ ปัญหาที่ผ่านมาคือการบิดเบือนทุกอย่างไปหมด ผมก็ต้องโทษล่ะ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นการเมือง ผมไม่เคยไปโต้แย้งกับรัฐบาลไหนสักรัฐบาลหนึ่ง สั่งมาผมก็ทำให้หมด
ประเด็นสำคัญก็คือว่า ที่เขาทำวันนี้ ทำให้เกิดความเป็นธรรม ดูแลทุกคนให้ทั่วถึง ให้เกิดความรัก ความสามัคคี วันนี้บอกว่าใช้เงินไปเยอะ แต่รัฐบาลก็ยังมีทำรถไฟ รถไฟฟ้า ตั้งเยอะตั้งแยะ ผมถามว่าถ้ามันไม่เสียเงิน เรื่องที่มันอยู่ในคดีตั้งหลายแสนล้าน เราก็คงไม่ต้องไปกู้เงินเขามาอีก เอาเงินตรงนี้มาลงทุนตรงนี้ได้ต่อ หนี้สิน หนี้สาธารณะทั้งหมดมันเกิดขึ้นมาโดยมันไม่มีรูปธรรม ไม่มีอะไรที่สำเร็จเป็นเรื่องเป็นราวชัดเจน เราก็ต้องทำต่อ หนี้เก่าก็ต้องผ่อนชำระ เดินหน้าประเทศก็ต้องทำ ลงทุนใหม่ก็ต้องลงทุน แต่มันติดด้วยวงเงินเหล่านี้ ไปคิดเอาเองนะ
เรื่องของการดูแลพี่น้องเกษตรกร บอกว่าการประชานิยมในสมัยที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องของการให้ความเป็นธรรมกับราษฎร ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผมถามว่าดีขึ้นมั้ย ตอนนี้ชาวนาเป็นหนี้อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน ยังมากขึ้นเหมือนเดิมหรือเปล่า วันนี้ชาวนาเป็นหนี้มากขึ้น ไหนบอกว่าดีขึ้นไง ดีขึ้นก็ต้องหนี้ลดลง ใช่มั้ย หรือเป็นหนี้ที่มันมีคุณค่า เป็นหนี้ที่เป็นทุน เป็นหนี้ที่มีบ้าน หรือต่อเติมบ้าน หรือว่าทำซื้อยานพาหนะ ซื้ออะไรที่เป็นเรื่องเป็นราว นี่หายไปหมด เพราะไปใช้หนี้เก่า วนอยู่อย่างนี้ ถ้าอันนั้นโอเค เราบรรเทาความเดือดร้อนได้ก้อนหนึ่ง อีกก้อนหนึ่งต้องให้เขามีรายได้ที่เพียงพอ นั่นต้องไปสร้างความเข้มแข็งในภาคการเกษตร การขาย การตลาดอีกเยอะแยะ ทำแบบนี้ ทำเป็นปีๆ ไป ใช้กันเข้าไป ทุกปีหนี้มันก็ขึ้นทุกปี แล้วถึงวันนี้เราพอจะเดินหน้า ติดไปหมด เงินก็ต้องไปกู้เขาอะไรเขา ผมก็ไม่ได้กู้ก้อนใหญ่ กู้เป็นปีๆ ไป กู้เป็นโครงการๆ ไป ถ้าเห็นชอบว่าอยากจะมีต้องมี เพื่อเป็นอนาคตต้องกู้ก็ต้องกู้ เพราะอดีตไม่ได้ทิ้งเงินให้ผม
แล้ววันนี้ข้าราชการทำไมต้องไปขึ้นเงินให้เขา เพราะเขาเป็นคนเสียภาษีส่วนใหญ่ด้วยนะ วันนี้ข้าราชการเป็นคนเสียภาษี เพราะมันล็อกด้วยอะไร การจ่ายภาษี ณ ที่จ่าย หนีไม่ได้ซักคน วันนี้หลายๆ คนจ่ายภาษีกันทั้งนั้น ประชาชนที่ยังไม่เข้าเกณฑ์ก็ไม่จ่าย บรรดาเศรษฐีต้องไม่โกงภาษี และการเก็บภาษีเจ้าหน้าที่ต้องมีคุณภาพ กฎหมายภาษีก็ต้องปรับปรุง ที่แล้วดูซิว่า กฎหมายท้องถิ่นการเก็บเงินภาษีท้องถิ่น บำรุงท้องถิ่น มันเป็นอย่างไร วันก่อนทองบาทเท่าไร วันนี้ทองบาทเท่าไร ภาษีตัวเดิม แล้วเงินตรงไหนมันจะเอามาพัฒนา แล้วท่านก็อยากจะได้เงินท้องถิ่น มากขึ้น มันจะไปเอาที่ไหน เก็บภาษีไม่ได้ สื่อกำลังเลือกข้างทั้งหมด วันนี้ผมก็ว่ามันต้องไปเตือนกัน 2-3 สถานีพูดอยู่นั่นแหละ พูดในสิ่งที่มันโกหก ผมอยากจะพูดว่าโกหก ผมก็เตือนแล้วอะไรแล้ว ผมไม่อยากไปยุ่งอะไรกับท่าน ที่ผ่านมาท่านก็ทำแบบนี้ แล้วพอท่านทำแบบนี้อีกคนเข้ามาสู้ท่าน ท่านก็ไปรังแกอีกพวก เพื่อจะพูดข้างเดียว ไม่ใช่ ถ้าจะปิดก็ปิดทั้งหมด เพราะฉะนั้นก็ระมัดระวังแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าผมไปละเมิดสิทธิสื่อที่มีจรรยาบรรณพวกนี้
เพราะฉะนั้นขอตักเตือนให้หยุด การกระทำไม่ใช่ข้อเท็จจริง และอ้างว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อ ไม่ใช่ ผมไม่ต้องการ เพราะฉะนั้นทำถูกทำผิดอะไรก็แล้วแต่ ทุกวันนี้รู้แก่ใจว่าใครถูกใครผิด อย่ามาโกหกบิดเบือนอะไรอีกต่อไป ให้มีเขาเรียกว่าอะไร ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์หน่อยแล้วกัน คงเข้าใจกันนะ คงไม่แรงไปหรอก ขอโทษแล้วกันถ้าใครคิดว่าแรง อย่าไปหลบซ่อนที่อยู่นั่นที่นี่มาสู้ตามกฎหมายให้ชัดเจนขึ้น ผมจะดำเนินความเป็นธรรมให้ อย่าไปกล่าวอ้าง ประเทศชาติเสียหาย แล้วเอาคนนั่นคนนี้มาแก้ปัญหาให้เรา มันไม่ใช่เรื่อง โอเคนะครับ ขอบคุณนะครับ ขอให้ความสุขในช่วงวันหยุดสงกรานต์หลายวัน ย้ำอีกครั้ง หยุดแค่เสาร์-อาทิตย์ใช่ไหม เสาร์-อาทิตย์แล้วก็ต่อ จันทร์ อังคาร พุธ มีคนบางคนบอกว่า รัฐบาลนี้ใจดี ไปต่อพฤหัสฯ ศุกร์อีก 9 วัน ไม่ใช่ หยุดกันนานๆ เดี๋ยวก็มีเรื่องอีก มีปัญหาอีก การติดต่อราชการมีปัญหา เศรษฐกิจก็แย่อยู่ แต่ในระหว่างนี้ในส่วนของรัฐบาลก็พร้อมนะครับ ผมไม่ได้ไปไหน พร้อมจะแก้ปัญหา พร้อมจะดูแลประชาชนที่มีเรื่องเดือดร้อน เวลาที่ประชาชนพักผ่อน ผมก็ต้องทำงาน เวลาทำงานผมก็ต้องทำงาน เพราะเวลาผมมีน้อย จำกัดไง ขอบคุณในความร่วมมือ ขอบคุณทุกคนขอให้มีความสุข เดินทางไปกลับโดยปลอดภัย และพ่อแม่ลูกหลาน ครอบครัวอยู่กันให้ครบพร้อมหน้า กราบคุณพ่อคุณแม่ไปถึงแล้ว ผู้มีพระคุณทั้งหมด นั่นแหละคือค่านิยมของคนไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ของเราที่มีมายาวนาน เป็นเจ้าบ้านที่ดีกับนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ จะเข้ามาเยอะแยะอย่าให้เห็นภาพเดิมๆ อีก เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้มแข็ง หามาตรการที่เหมาะสม อย่าให้มันรุนแรง ขอบพระคุณนะครับ สวัสดีครับ