สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ว่า ยูเค ออยล์ แอนด์ ก๊าซ อินเวสต์เมนต์ส (มหาชน) บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ เผยการค้นพบแหล่งน้ำมันดิบจำนวนมหาศาลใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติแกตวิก ทางภาคใต้ของประเทศ และห่างจากใจกลางกรุงลอนดอนไปทางใต้ประมาณ 47.5 กิโลเมตร มีปริมาณมากกว่าที่เคยคิด โดยการวิเคราะห์ตัวอย่างจากการขุดสำรวจหลุมใหม่ในแอ่งวีลด์ บ่งชี้ว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำมันดิบราว 158 ล้านบาร์เรลต่อตารางไมล์ ซึ่งหมายถึงในพื้นที่ทั้งหมด อาจมีปริมาณน้ำมันดิบถึง 100,000 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่เคยประเมินก่อนหน้านี้กว่า 10 เท่า และมากมหาศาลเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันดิบประมาณ 42,000 ล้านบาร์เรล ที่อังกฤษสูบขึ้นจากทะเลเหนือ ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
นายสตีเฟน แซนเอร์สัน ซีอีโอ บริษัทยูเค ออยล์ แอนด์ ก๊าซ อินเวสต์เมนต์ กล่าวว่า บริษัททำการขุดเจาะแอ่งวีลด์มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1930 แต่ด้วย "แนวคิด วิธีการและเทคโนโลยี" สมัยใหม่ ทำให้บริษัทมีความเข้าใจต่อศักยภาพของพื้นที่มากกว่าเดิม และเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว วารสารบริติช จีโอโลจิคอล เซอร์เวย์ รายงานว่าชั้นหินน้ำมันของแอ่งวีลด์ มีน้ำมันดิบอยู่ประมาณ 8,800 ล้านบาร์เรล แซนเดอร์สัน กล่าวอีกว่า การประเมินจากสำรวจครั้งใหม่ ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นแหล่งน้ำมันดิบระดับโลกแห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม นายอลาสแตร์ เฟรเซอร์ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีศาสตร์ปิโตรเลียม แห่งอิมพีเรียล คอลเลจ กรุงลอนดอน อดีตเคยทำงานบริษัทน้ำมัน บีพี ของอังกฤษนาน 30 ปี กล่าวเตือนว่า ลักษณะทางธรณีวิทยาของพื้นที่ "ไม่เป็นใจอย่างมาก" แม้น้ำมันดิบอาจจะมีมากมหาศาล แต่ยากลำบากมากที่จะนำมันขึ้นมาจากใต้ผืนดิน เนื่องจากหินแข็งแกร่งอย่างยิ่ง และไม่สามารถซึมผ่านได้ ซึ่งประเด็นนี้นายแซนเดอร์สันเองก็ยอมรับว่า เป็นความจริง โดยจากการคิดคำนวณทางด้านเทคนิกคาดว่า จะสามารถสูบน้ำมันขึ้นมาใช้สอยได้เพียงแค่ร้อยละ 3-15 เท่านั้น
นายสตีเฟน แซนเอร์สัน ซีอีโอ บริษัทยูเค ออยล์ แอนด์ ก๊าซ อินเวสต์เมนต์ กล่าวว่า บริษัททำการขุดเจาะแอ่งวีลด์มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1930 แต่ด้วย "แนวคิด วิธีการและเทคโนโลยี" สมัยใหม่ ทำให้บริษัทมีความเข้าใจต่อศักยภาพของพื้นที่มากกว่าเดิม และเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว วารสารบริติช จีโอโลจิคอล เซอร์เวย์ รายงานว่าชั้นหินน้ำมันของแอ่งวีลด์ มีน้ำมันดิบอยู่ประมาณ 8,800 ล้านบาร์เรล แซนเดอร์สัน กล่าวอีกว่า การประเมินจากสำรวจครั้งใหม่ ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นแหล่งน้ำมันดิบระดับโลกแห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม นายอลาสแตร์ เฟรเซอร์ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีศาสตร์ปิโตรเลียม แห่งอิมพีเรียล คอลเลจ กรุงลอนดอน อดีตเคยทำงานบริษัทน้ำมัน บีพี ของอังกฤษนาน 30 ปี กล่าวเตือนว่า ลักษณะทางธรณีวิทยาของพื้นที่ "ไม่เป็นใจอย่างมาก" แม้น้ำมันดิบอาจจะมีมากมหาศาล แต่ยากลำบากมากที่จะนำมันขึ้นมาจากใต้ผืนดิน เนื่องจากหินแข็งแกร่งอย่างยิ่ง และไม่สามารถซึมผ่านได้ ซึ่งประเด็นนี้นายแซนเดอร์สันเองก็ยอมรับว่า เป็นความจริง โดยจากการคิดคำนวณทางด้านเทคนิกคาดว่า จะสามารถสูบน้ำมันขึ้นมาใช้สอยได้เพียงแค่ร้อยละ 3-15 เท่านั้น