xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.เปิดวอร์รูมจัดการภาวะวิกฤต รับมือพม่าปิดซ่อมแหล่งก๊าซ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมกรณีสหภาพพม่าหยุดผลิตก๊าซธรรมชาติ ว่า กฟผ.ได้ตั้งศูนย์บริหารจัดการภาวะวิกฤต กฟผ.หรือ วอร์รูม ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์0 2436 3186

สำหรับการหยุดผลิตก๊าซธรรมชาติจากพม่า 2 แหล่ง คือ แหล่งยาดานา ในวันที่ 10-19 เมษายน เพื่อทำงานซ่อมฐานรากของแท่นผลิตที่ทรุดตัว และแหล่งซอติก้า ในวันที่ 20-27 เมษายน เพื่อหยุดทำงานตรวจสอบอุปกรณ์ และซ่อมบำรุงอุปกรณ์เพิ่มความดัน ซึ่งก๊าซธรรมชาติที่หายไปจะส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าในฝั่งภาคตะวันตกทั้งหมด ได้แก่ โรงไฟฟ้าบริษัท ราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) โรงไฟฟ้าบริษัทราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด โรงไฟฟ้าบริษัทไตรเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ และโรงไฟฟ้าราชบุรีเวิลด์

ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงที่มีการหยุดผลิตก๊าซธรรมชาติดังกล่าว ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือช่วงพีคจะอยู่ที่ประมาณ 27,500 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม ประชาชนมิต้องวิตกกังวล เนื่องจาก กฟผ.ได้มีมาตรการรองรับไว้ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบผลิตไฟฟ้า โดย กฟผ.จะเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือชุดที่ 1 ซึ่งสามารถเดินเครื่องด้วยก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันออกได้ ประสานงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวให้เดินเครื่องเต็มความสามารถ รับซื้อไฟฟ้าในส่วนเพิ่มจากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงอื่นๆ ทดสอบเปลี่ยนเชื้อเพลิงดีเซลโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ได้รับผลกระทบให้มีความพร้อมสูงสุด และใช้น้ำมันเตา น้ำมันดีเซลเดินเครื่องทดแทนปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ลดลง โดยคาดว่าจะต้องใช้น้ำมันเตาจำนวนประมาณ 142 ล้านลิตร และน้ำมันดีเซลประมาณ 46 ล้านลิตร

สำหรับด้านระบบส่ง ได้มีการตรวจสอบสายส่งและอุปกรณ์สำคัญให้พร้อมใช้งานก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ และหยุดการบำรุงรักษาระบบส่งช่วงหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ ขณะที่ด้านเชื้อเพลิง ได้สำรองน้ำมันให้เพียงพอก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ โดยโรงไฟฟ้าบางปะกง และโรงไฟฟ้าราชบุรี ได้จัดเก็บน้ำมันเตาเต็มความสามารถ ส่วนโรงไฟฟ้าอื่นที่ได้รับผลกระทบให้สำรองน้ำมันดีเซลอย่างน้อยเพื่อให้เดินเครื่องต่อเนื่องได้ 3 วัน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดไฟฟ้า ตามมาตรการเดินหน้าประเทศไทย ลดใช้พลังงาน คือ ล้างแอร์หน้าร้อน ปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ถ้าปรับอุณหภูมิเพิ่ม 1 องศาเซลเซียส จะช่วยประหยัดไฟฟ้าลงได้ร้อยละ 10 ปลดปลั๊กไฟที่ไม่ใช้ เปลี่ยนหลอดไฟประหยัดพลังงาน ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศ และลดค่าใช้จ่ายของท่านได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กฟผ. การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้รณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันประหยัดพลังงาน พร้อมดำเนินมาตรการ Demand Response (DR) ในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ทั้งนี้ เพื่อความมั่นคงเชื่อถือได้ของระบบผลิตไฟฟ้าโดยรวมของประเทศเป็นสำคัญ
กำลังโหลดความคิดเห็น