ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เนื่องจากรายงานการประชุมล่าสุดของเฟดนั้น ไม่มีความชัดเจนในเรื่องการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ตลาดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,902.51 จุด เพิ่มขึ้น 27.09 จุด หรือ +0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,950.82 จุด เพิ่มขึ้น 40.59 จุด หรือ +0.83% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ 2,081.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.57 จุด หรือ +0.27%
นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของเฟดนั้น เจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก เกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมองว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดอีกจำนวนหนึ่งมองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยควรจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่เฟดบางคนมองว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐในเวลานี้ ยังไม่พร้อมที่เฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจนกว่าจะถึงปีหน้า
ส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 7.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,203.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบรายงานการประชุมเฟด ซึ่งจะมีการเผยแพร่หลังจากตลาดทองคำปิดทำการแล้ว
รายงานระบุว่า สัญญาทองคำร่วงลงอย่างต่อเนื่องในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก เกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมองว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดอีกจำนวนหนึ่งมองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยควรจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่เฟดบางคนมองว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐในเวลานี้ ยังไม่พร้อมที่เฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจนกว่าจะถึงปีหน้า
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) หรือไลต์สวีตครูด ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 3.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 3.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง หลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่น้ำมันกลั่นลดลง
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 10.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 482.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.4 ล้านบาร์เรล
สรุปภาวะตลาดหุ้น
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,902.51 จุด เพิ่มขึ้น 27.09 จุด +0.15%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,950.82 จุด เพิ่มขึ้น 40.59 จุด +0.83%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,081.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.57 จุด +0.27%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,937.41 จุด ลดลง 24.36 จุด -0.35%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,035.86 จุด ลดลง 87.66 จุด -0.72%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,136.86 จุด ลดลง 14.33 จุด -0.28%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,571.97 จุด ลดลง 69.93 จุด -0.73%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,789.81 จุด เพิ่มขึ้น 149.27 จุด +0.76%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,059.26 จุด เพิ่มขึ้น 12.23 จุด +0.60%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,928.30 จุด เพิ่มขึ้น 35.10 จุด +0.60%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,960.70 จุด เพิ่มขึ้น 34.70 จุด +0.59%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,994.81 จุด เพิ่มขึ้น 33.43 จุด +0.84%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,052.69 จุด ลดลง 45.99 จุด -0.57%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,236.86 จุด เพิ่มขึ้น 961.22 จุด +3.80%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,486.58 จุด ลดลง 36.71 จุด -0.66%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,850.31 จุด ลดลง 6.20 จุด -0.33%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,460.68 จุด ลดลง 4.94 จุด -0.14%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,707.75 จุด เพิ่มขึ้น 191.16 จุด +0.67%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,902.51 จุด เพิ่มขึ้น 27.09 จุด หรือ +0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,950.82 จุด เพิ่มขึ้น 40.59 จุด หรือ +0.83% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ 2,081.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.57 จุด หรือ +0.27%
นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของเฟดนั้น เจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก เกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมองว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดอีกจำนวนหนึ่งมองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยควรจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่เฟดบางคนมองว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐในเวลานี้ ยังไม่พร้อมที่เฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจนกว่าจะถึงปีหน้า
ส่วนราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 7.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,203.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบรายงานการประชุมเฟด ซึ่งจะมีการเผยแพร่หลังจากตลาดทองคำปิดทำการแล้ว
รายงานระบุว่า สัญญาทองคำร่วงลงอย่างต่อเนื่องในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก เกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมองว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดอีกจำนวนหนึ่งมองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยควรจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี แต่ก็ยังมีเจ้าหน้าที่เฟดบางคนมองว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐในเวลานี้ ยังไม่พร้อมที่เฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจนกว่าจะถึงปีหน้า
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) หรือไลต์สวีตครูด ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 3.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.42 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 3.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง หลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่น้ำมันกลั่นลดลง
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 10.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 482.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.4 ล้านบาร์เรล
สรุปภาวะตลาดหุ้น
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,902.51 จุด เพิ่มขึ้น 27.09 จุด +0.15%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,950.82 จุด เพิ่มขึ้น 40.59 จุด +0.83%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,081.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.57 จุด +0.27%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,937.41 จุด ลดลง 24.36 จุด -0.35%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,035.86 จุด ลดลง 87.66 จุด -0.72%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,136.86 จุด ลดลง 14.33 จุด -0.28%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,571.97 จุด ลดลง 69.93 จุด -0.73%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,789.81 จุด เพิ่มขึ้น 149.27 จุด +0.76%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,059.26 จุด เพิ่มขึ้น 12.23 จุด +0.60%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,928.30 จุด เพิ่มขึ้น 35.10 จุด +0.60%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,960.70 จุด เพิ่มขึ้น 34.70 จุด +0.59%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,994.81 จุด เพิ่มขึ้น 33.43 จุด +0.84%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,052.69 จุด ลดลง 45.99 จุด -0.57%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,236.86 จุด เพิ่มขึ้น 961.22 จุด +3.80%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,486.58 จุด ลดลง 36.71 จุด -0.66%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,850.31 จุด ลดลง 6.20 จุด -0.33%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,460.68 จุด ลดลง 4.94 จุด -0.14%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,707.75 จุด เพิ่มขึ้น 191.16 จุด +0.67%