นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2558 ที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานหลักในด้านการอำนวยความปลอดภัยทางถนน ได้กำหนดให้มีการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2558 ระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน ภายใต้ชื่อ "สติ วินัย น้ำใจ ปลอดภัยสงกรานต์ สืบสานประเพณี" เพื่อมุ่งเน้นการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน และการเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้เป็นรากฐานของสังคมไทย โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ถนนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงปกติ
ดังนั้น ทางศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน จึงได้กำหนดมาตรการแนวทางในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ มาตรการบังคับใช้กฎหมายที่เน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยง ความเร็ว เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย และยานพาหนะประเภทจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัยตามมาตรการ 1ร. 2ส. 3ข. 4ม. (10 รสขม) คือ 1ร. คือ ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 2ส. คือ ขับรถย้อนศรและฝ่าฝืนสัญจรจราจร 3ข. คือ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบขับขี่และแซงในที่คับขัน และ 4ม. คือ เมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย และใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
นอกจากนี้ ยังมีการใช้มาตรการสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชน โดยนำมาตรการองค์กรและชุมชนมาเสริมในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงในพื้นที่ รวมทั้งมาตรการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนโดยยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน และมาตรการสุดท้ายคือขับเคลี่อนงานอย่างเป็นเอกภาพและทิศทางเดียวกัน
ดังนั้น ทางศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน จึงได้กำหนดมาตรการแนวทางในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ มาตรการบังคับใช้กฎหมายที่เน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยง ความเร็ว เมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย และยานพาหนะประเภทจักรยานยนต์ไม่ปลอดภัยตามมาตรการ 1ร. 2ส. 3ข. 4ม. (10 รสขม) คือ 1ร. คือ ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 2ส. คือ ขับรถย้อนศรและฝ่าฝืนสัญจรจราจร 3ข. คือ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบขับขี่และแซงในที่คับขัน และ 4ม. คือ เมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย และใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
นอกจากนี้ ยังมีการใช้มาตรการสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชน โดยนำมาตรการองค์กรและชุมชนมาเสริมในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงในพื้นที่ รวมทั้งมาตรการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนโดยยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการบูรณาการการทำงานร่วมกัน และมาตรการสุดท้ายคือขับเคลี่อนงานอย่างเป็นเอกภาพและทิศทางเดียวกัน