นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ข้าราชการบำนาญจะได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 4 ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ พร้อมกับตกเบิกย้อนหลังตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 รวมทั้งหมด 5 เดือน หลังจากประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางไม่ได้ทำงานล่าช้า แต่เนื่องจากการปรับเพิ่มเงิน ช.ค.บ. มีรายละเอียดของกฎหมายมาก จึงต้องใช้เวลา แต่เมื่อกฎหมายดังกล่าวได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาจะมีผลย้อนหลังไปจนถึงเดือนธันวาคม 2557 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนการขึ้นเงินข้าราชการนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. ทั้งนี้ ปกติการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการจะเกิดขึ้นทุกๆ 6 เดือนของปีงบประมาณ หรือ ในระหว่างเดือนเมษายนและกันยายนของทุกปี แต่เนื่องจาก ในปีงบประมาณนี้ ครม.มีมติให้ปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการตั้งแต่ชั้นผู้น้อยไปจนถึงผู้บริหาร ดังนั้น ก.พ.จึงได้แจ้งมายังกรมบัญชีกลางว่า การพิจารณาปรับขึ้นเงินข้าราชการตามปกติในเดือนเมษายนนี้ อาจล่าช้าเพราะต้องรอให้เรื่องการปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนให้แล้วเสร็จก่อน หลังจากนั้น ถึงจะมีการปรับขึ้นขั้นเงินเดือนข้าราชการตามปกติ
สำหรับการปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการที่อาจจะมีความล่าช้านั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการ เพราะในรอบนี้เท่ากับว่า ข้าราชการได้ปรับขึ้นเงินเดือนถึง 2 ต่อ คือ 1.โครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ และ 2.ปรับขึ้นขั้นเงินเดือนตามปกติ ซึ่งหากปรับขึ้นขั้นเงินเดือนก่อนข้าราชการจะเสียเปรียบ เพราะการคำนวณจะพิจารณาจากฐานเงินเดือนเดิม แต่หากปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ก่อน การคำนวณจากพิจารณาจากฐานเงินเดือนใหม่ ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มสูงขึ้นและที่สำคัญ รายได้ที่เพิ่มแต่ยังไม่ได้รับในสิ้นเดือนเมษายน ข้าราชการจะได้รับเงินตกเบิกในเดือนถัดไป
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางไม่ได้ทำงานล่าช้า แต่เนื่องจากการปรับเพิ่มเงิน ช.ค.บ. มีรายละเอียดของกฎหมายมาก จึงต้องใช้เวลา แต่เมื่อกฎหมายดังกล่าวได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาจะมีผลย้อนหลังไปจนถึงเดือนธันวาคม 2557 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนการขึ้นเงินข้าราชการนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. ทั้งนี้ ปกติการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการจะเกิดขึ้นทุกๆ 6 เดือนของปีงบประมาณ หรือ ในระหว่างเดือนเมษายนและกันยายนของทุกปี แต่เนื่องจาก ในปีงบประมาณนี้ ครม.มีมติให้ปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการตั้งแต่ชั้นผู้น้อยไปจนถึงผู้บริหาร ดังนั้น ก.พ.จึงได้แจ้งมายังกรมบัญชีกลางว่า การพิจารณาปรับขึ้นเงินข้าราชการตามปกติในเดือนเมษายนนี้ อาจล่าช้าเพราะต้องรอให้เรื่องการปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนให้แล้วเสร็จก่อน หลังจากนั้น ถึงจะมีการปรับขึ้นขั้นเงินเดือนข้าราชการตามปกติ
สำหรับการปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการที่อาจจะมีความล่าช้านั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของข้าราชการ เพราะในรอบนี้เท่ากับว่า ข้าราชการได้ปรับขึ้นเงินเดือนถึง 2 ต่อ คือ 1.โครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ และ 2.ปรับขึ้นขั้นเงินเดือนตามปกติ ซึ่งหากปรับขึ้นขั้นเงินเดือนก่อนข้าราชการจะเสียเปรียบ เพราะการคำนวณจะพิจารณาจากฐานเงินเดือนเดิม แต่หากปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนใหม่ก่อน การคำนวณจากพิจารณาจากฐานเงินเดือนใหม่ ซึ่งจะทำให้รายได้เพิ่มสูงขึ้นและที่สำคัญ รายได้ที่เพิ่มแต่ยังไม่ได้รับในสิ้นเดือนเมษายน ข้าราชการจะได้รับเงินตกเบิกในเดือนถัดไป