ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มภาคการผลิตของสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ.ร่วงลงอย่างผิดคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 292.6 จุด หรือ -1.62 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 17,718.54 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 30.45 จุด หรือ -1.46 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,061.05จุด แนสแด็ก ลดลง118.21 จุด หรือ -2.37 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4,876.52จุด
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์สหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบในเยเมน ที่อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้น แม้มีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ+3.58 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 49.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.48 ดอลลาร์
ด้านราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ หรือ +0.47 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,197 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.36% แตะที่ 99.88 ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปร่วงลง 1.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 292.6 จุด หรือ -1.62 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 17,718.54 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 30.45 จุด หรือ -1.46 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,061.05จุด แนสแด็ก ลดลง118.21 จุด หรือ -2.37 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 4,876.52จุด
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์สหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบในเยเมน ที่อาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้น แม้มีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ+3.58 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 49.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.48 ดอลลาร์
ด้านราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ หรือ +0.47 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,197 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.36% แตะที่ 99.88 ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปร่วงลง 1.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
