รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พุทธมณฑล จ.นครปฐม มีการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ในวาระปกติ โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานการประชุม โดยในระหว่างการประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้แจ้งด้วยวาจาต่อที่ประชุมว่า ขอลาออกจากตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ประกอบด้วย เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ประธานคณะพระธรรมจาริก และตำแหน่งแม่กองงานพระธรรมทูต ซึ่งที่ประชุมมส.มีมติเห็นชอบ ตามที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เสนอ
พร้อมทั้งมีมติแต่งตั้ง พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ) วัดปากน้ำฯ กรรมการมส. เจ้าคณะภาค 7 ขึ้นดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ พระเทพกิตติเวที (ฉ่ำ ปุญฺญชโย) เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เจ้าคณะภาค 17 ดำรงตำแหน่ง ประธานคณะพระธรรมจาริก และตั้งสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ กรรมการมส. ดำรงตำแหน่งแม่กองงานพระธรรมทูต โดยให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ภายหลังการประชุมมส. นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การลาออกจากทั้ง 3 ตำแหน่งดังกล่าวเป็นความต้องการของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ โดยท่านได้แจ้งด้วยวาจาต่อที่ประชุมด้วยตัวของท่านเอง ซึ่งทางมส.ก็มีมติเห็นชอบ เหตุที่ท่านตัดสินใจลาออกนั้นน่าจะมาจากการที่ท่านอายุมากขึ้น อย่างไรก็ตามสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จะยังคงดำรงตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อยู่เช่นเดิม
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งทั้ง 3 ตำแหน่งดังกล่าวที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ขอลาออกนั้น ถือว่ามีความสำคัญในทางการปกครองคณะสงฆ์มาก โดยเฉพาะตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ซึ่งมีหน้าที่ปกครองพระสงฆ์ในเขตปกครองภาคเหนือทั้งหมด ขณะที่ตำแหน่งประธานคณะพระธรรมจาริก จะมีหน้าที่ในการควบคุม ดูแล พระสงฆ์ที่ทำหน้าที่เป็นพระธรรมจาริก คือ พระสงฆ์ที่ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาบนพื้นที่ดอยสูง ตะเข็บชายแดนในแถบภาคเหนือ ส่วนตำแหน่งแม่กองงานพระธรรมทูตนั้น จะมีหน้าที่คอยควบคุมดูแลพระธรรมทูตที่ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่จังหวัดต่างๆทั่วประเทศทั้งหมด
พร้อมทั้งมีมติแต่งตั้ง พระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ) วัดปากน้ำฯ กรรมการมส. เจ้าคณะภาค 7 ขึ้นดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ พระเทพกิตติเวที (ฉ่ำ ปุญฺญชโย) เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เจ้าคณะภาค 17 ดำรงตำแหน่ง ประธานคณะพระธรรมจาริก และตั้งสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ กรรมการมส. ดำรงตำแหน่งแม่กองงานพระธรรมทูต โดยให้มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ภายหลังการประชุมมส. นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การลาออกจากทั้ง 3 ตำแหน่งดังกล่าวเป็นความต้องการของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ โดยท่านได้แจ้งด้วยวาจาต่อที่ประชุมด้วยตัวของท่านเอง ซึ่งทางมส.ก็มีมติเห็นชอบ เหตุที่ท่านตัดสินใจลาออกนั้นน่าจะมาจากการที่ท่านอายุมากขึ้น อย่างไรก็ตามสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จะยังคงดำรงตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อยู่เช่นเดิม
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งทั้ง 3 ตำแหน่งดังกล่าวที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ขอลาออกนั้น ถือว่ามีความสำคัญในทางการปกครองคณะสงฆ์มาก โดยเฉพาะตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ซึ่งมีหน้าที่ปกครองพระสงฆ์ในเขตปกครองภาคเหนือทั้งหมด ขณะที่ตำแหน่งประธานคณะพระธรรมจาริก จะมีหน้าที่ในการควบคุม ดูแล พระสงฆ์ที่ทำหน้าที่เป็นพระธรรมจาริก คือ พระสงฆ์ที่ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาบนพื้นที่ดอยสูง ตะเข็บชายแดนในแถบภาคเหนือ ส่วนตำแหน่งแม่กองงานพระธรรมทูตนั้น จะมีหน้าที่คอยควบคุมดูแลพระธรรมทูตที่ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่จังหวัดต่างๆทั่วประเทศทั้งหมด