นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกรณีมาตรการผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย ภายหลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ญี่ปุ่นเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรของไทย และเสนอให้สหประชาชาติ เห็นความสำคัญของการช่วยพยุงราคาสินค้าเกษตร ว่า กระทรวงพาณิชย์จะมีการหารือกับประเทศคู่ค้าในประเภทสินค้าเกษตรโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน และประเทศอื่นๆ ที่มีการสั่งซื้อสินค้าไทยอยู่แล้ว เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีการสั่งซื้อข้าว มันสำปะหลัง และผลไม้จากไทย เพื่อให้มีการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น
ส่วนกรณีที่ประเทศคู่ค้าบางประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจ ไทยต้องมีแนวทางในการหาตลาดใหม่ หรือตลาดทดแทน เช่นที่นายกรัฐมนตรีได้หารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้มีการสั่งซื้อสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น เพราะญี่ปุ่นยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะสั่งซื้อสินค้าจากไทย เพราะหากเป็นสินค้าที่ได้คุณภาพและได้มาตรฐานของญี่ปุ่นจะทำให้ได้ราคาสูงมาก โดยแนวทางทั้งหมดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอยู่
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของราคาสินค้าในขณะนี้ ซึ่งภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้สูงขึ้น และยังมีบางชนิดที่ราคาลดลง เช่น เนื้อหมู ไข่ไก่ ส่วนที่เพิ่มขึ้นบ้างจะเป็นในส่วนของอาหารปรุงสำเร็จ โดยในส่วนนี้กระทรวงพาณิชย์มีโครงการ หนูณิชย์พาชิม กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงโครงการธงฟ้า ที่มีการจัดอย่างต่อเนื่อง เตรียมขยายเป็นรูปแบบของการนำสินค้าราคาถูกเคลื่อนที่ให้บริการประชาชนในชุมช
สำหรับการดูแลราคาสินค้าเมื่อต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียน กระทรวงพาณิชย์จะเน้นในเรื่องของการกำกับดูแลเป็นหลัก โดยเฉพาะในสิค้าจำเป็น 205 รายการ ซึ่งจะมีแนวทางดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ
ส่วนกรณีที่ประเทศคู่ค้าบางประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจ ไทยต้องมีแนวทางในการหาตลาดใหม่ หรือตลาดทดแทน เช่นที่นายกรัฐมนตรีได้หารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ให้มีการสั่งซื้อสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น เพราะญี่ปุ่นยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะสั่งซื้อสินค้าจากไทย เพราะหากเป็นสินค้าที่ได้คุณภาพและได้มาตรฐานของญี่ปุ่นจะทำให้ได้ราคาสูงมาก โดยแนวทางทั้งหมดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอยู่
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของราคาสินค้าในขณะนี้ ซึ่งภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้สูงขึ้น และยังมีบางชนิดที่ราคาลดลง เช่น เนื้อหมู ไข่ไก่ ส่วนที่เพิ่มขึ้นบ้างจะเป็นในส่วนของอาหารปรุงสำเร็จ โดยในส่วนนี้กระทรวงพาณิชย์มีโครงการ หนูณิชย์พาชิม กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงโครงการธงฟ้า ที่มีการจัดอย่างต่อเนื่อง เตรียมขยายเป็นรูปแบบของการนำสินค้าราคาถูกเคลื่อนที่ให้บริการประชาชนในชุมช
สำหรับการดูแลราคาสินค้าเมื่อต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียน กระทรวงพาณิชย์จะเน้นในเรื่องของการกำกับดูแลเป็นหลัก โดยเฉพาะในสิค้าจำเป็น 205 รายการ ซึ่งจะมีแนวทางดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ