สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเซาเปาโลประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ว่าชาวบราซิลราว 1.5 ล้านคนออกมาเดินขบวนไปตามท้องถนนทั่วประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อแสดงพลังต่อต้านประธานาธิบดีดิลมา รูสเซฟฟ์ แห่งบราซิล หลายรายต้องการให้เธอถูกลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งสมัยที่สองได้ไม่ถึง 6 เดือน หลังชนะเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว
แต่จุดที่เป็นการชุมนุมใหญ่ที่สุดนั้นเป็นการชุมนุมที่เมืองเซาเปาโลมีคนออกมาราว 1 ล้านคนตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประเมินตัวเลขเอาไว้หลายคนใส่เสื่อสีเหลืองเขียวสีเดียวกับทีมฟุตบอลทีมชาติบราซิลและเมืองเซาเปาโลแห่งนี้ก็เป็นฐานเสียงของฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์
นอกจากนั้นก็ยังมีการชุมนุมตามเมืองต่างๆรวมแล้ว 83 แห่งรวมถึงการชุมนุมใหญ่ในกรุงบราซิเลียเมืองหลวงและเมืองริโอ เดอจาเนโร
ตัวเลขผู้ชุมนุมนั้นใกล้เคียงกับตัวเลขของผู้ชุมนุมเมื่อเดือนมิ.ย.ปี 2556 เป็นการประท้วงต่อต้านการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2557 ซึ่งใช้งบประมาณมหาศาล พร้อมกับเรียกร้องให้ยุติการคอร์รัปชั่นและหันใช้งบประมาณด้านการขนส่งสุขอนามัย และการศึกษา
นักการเมืองหลายคนรวมทั้งคนใกล้ชิดของประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์และ อดีตผู้บริหารของบริษัทพลังงานเปโตรบราสกำลังถูกสอบสวนเรื่องรับเงินใต้โต๊ะและฟอกเงินรวมแล้ว 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐแต่ก็ยังไม่มีใครถูกศาลตัดสินว่ากระทำผิดแต่ตัวประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์ก็ไม่ได้ถูกสอบสวนนอกจากเรื่องคอร์รัปชั่นของบริษัทเปโตรบราสแล้วยังมีเรื่องเศรษฐกิจทั้งเงินเฟ้อซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของบราซิลมองว่ากำลังใกล้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
แต่จุดที่เป็นการชุมนุมใหญ่ที่สุดนั้นเป็นการชุมนุมที่เมืองเซาเปาโลมีคนออกมาราว 1 ล้านคนตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประเมินตัวเลขเอาไว้หลายคนใส่เสื่อสีเหลืองเขียวสีเดียวกับทีมฟุตบอลทีมชาติบราซิลและเมืองเซาเปาโลแห่งนี้ก็เป็นฐานเสียงของฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์
นอกจากนั้นก็ยังมีการชุมนุมตามเมืองต่างๆรวมแล้ว 83 แห่งรวมถึงการชุมนุมใหญ่ในกรุงบราซิเลียเมืองหลวงและเมืองริโอ เดอจาเนโร
ตัวเลขผู้ชุมนุมนั้นใกล้เคียงกับตัวเลขของผู้ชุมนุมเมื่อเดือนมิ.ย.ปี 2556 เป็นการประท้วงต่อต้านการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2557 ซึ่งใช้งบประมาณมหาศาล พร้อมกับเรียกร้องให้ยุติการคอร์รัปชั่นและหันใช้งบประมาณด้านการขนส่งสุขอนามัย และการศึกษา
นักการเมืองหลายคนรวมทั้งคนใกล้ชิดของประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์และ อดีตผู้บริหารของบริษัทพลังงานเปโตรบราสกำลังถูกสอบสวนเรื่องรับเงินใต้โต๊ะและฟอกเงินรวมแล้ว 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐแต่ก็ยังไม่มีใครถูกศาลตัดสินว่ากระทำผิดแต่ตัวประธานาธิบดีรูสเซฟฟ์ก็ไม่ได้ถูกสอบสวนนอกจากเรื่องคอร์รัปชั่นของบริษัทเปโตรบราสแล้วยังมีเรื่องเศรษฐกิจทั้งเงินเฟ้อซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของบราซิลมองว่ากำลังใกล้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
