นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) หนึ่งในผู้ต้องคำพิพากษาจากศาลพัทยา กรณีนำมวลชนบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเมื่อปี 2552 โดยศาลได้พิพากษาให้จำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา กล่าวถึงขั้นตอนการเตรียมต่อสู้คดีว่า จากนี้แนวร่วมกลุ่มนปช.ทั้ง 13 คนที่ต้องคำพิพากษาจะประชุมร่วมกับทีมทนายความ เพื่อเตรียมข้อมูลหลักฐานที่จะไปใช้ต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งมีหลายประเด็น แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าข่ายล่วงละเมิดอำนาจศาล
ทั้งนี้ในช่วงที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษหนึ่งคืนนั้น แกนนำนปช.13 คน ปล่อยวาง และทำใจได้แล้ว ไปอยู่ในแดน 3 ร่วมกับนักโทษคนอื่นๆ ได้รับการดูแลอย่างดีจากทางเรือนจำ พวกเราทั้ง 13 คน มีกำลังใจดี เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองต้องมาอยู่ตรงนี้ปรึกษาหารือว่า จะอยู่อย่างไรต่อไป ทุกคนไม่เครียด ปล่อยวางได้
ด้าน นายนิสิต สินธุไพร หนึ่งในผู้ต้องคำพิพากษาในคดีเดียวกัน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นภายใน 30 วัน โดยหารือร่วมกับทนายและผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้จากการพิพากษาของศาล ได้เห็นช่องทางการต่อสู้พอสมควร ซึ่งจะมีการชี้แจงต่อศาลอุทธรณ์ให้มีความชัดเจนในหลายๆ ประเด็น
ทั้งนี้ในช่วงที่ถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษหนึ่งคืนนั้น แกนนำนปช.13 คน ปล่อยวาง และทำใจได้แล้ว ไปอยู่ในแดน 3 ร่วมกับนักโทษคนอื่นๆ ได้รับการดูแลอย่างดีจากทางเรือนจำ พวกเราทั้ง 13 คน มีกำลังใจดี เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองต้องมาอยู่ตรงนี้ปรึกษาหารือว่า จะอยู่อย่างไรต่อไป ทุกคนไม่เครียด ปล่อยวางได้
ด้าน นายนิสิต สินธุไพร หนึ่งในผู้ต้องคำพิพากษาในคดีเดียวกัน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นภายใน 30 วัน โดยหารือร่วมกับทนายและผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้จากการพิพากษาของศาล ได้เห็นช่องทางการต่อสู้พอสมควร ซึ่งจะมีการชี้แจงต่อศาลอุทธรณ์ให้มีความชัดเจนในหลายๆ ประเด็น