นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงแผนงานการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติในปีนี้ ว่า แหล่งก๊าซเยตากุน และยานาดา ประเทศพม่า จะหยุดซ่อมบำรุงระหว่างวันที่ 10-19 เมษายนนี้ ส่งผลให้ก๊าซหายไประบบของไทยประมาณ 1,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือเทียบเท่าการผลิตไฟฟ้า 7,500 เมกะวัตต์ และแหล่งก๊าซธรรมชาติซอติก้า จะปิดซ่อมบำรุงระหว่างวันที่ 20-27 เมษายนนี้ ส่งผลให้ก๊าซหายไประบบของไทยประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน รวมถึงการปิดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หรือเจดีเอ 18 ช่วงเดือนมิถุนายน และกันยายนนี้ ซึ่งส่งผลให้โรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา ต้องหยุดดำเนินการทำให้มีกำลังไฟฟ้าหายจากระบบ 1,400 เมกะวัตต์ และกระทบการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การปิดซ่อมบำรุงในทุกแหล่งเป็นการปิดซ่อมบำรุงประจำปี ซึ่งกระทรวงพลังงานได้วางแผนการรับมือไว้แล้ว 3 ด้าน คือสั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจาก สปป.ลาวเพิ่มเติม และห้าม่ให้มีการหยุดซ่อมแหล่งก๊าซในอ่าวไทยช่วงเวลาดังกล่าว รวมถึงเตรียมน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตารองรับกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าในภาคตะวันตกและโรงไฟฟ้าพระนครเหนือเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม การปิดซ่อมบำรุงในทุกแหล่งเป็นการปิดซ่อมบำรุงประจำปี ซึ่งกระทรวงพลังงานได้วางแผนการรับมือไว้แล้ว 3 ด้าน คือสั่งการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจาก สปป.ลาวเพิ่มเติม และห้าม่ให้มีการหยุดซ่อมแหล่งก๊าซในอ่าวไทยช่วงเวลาดังกล่าว รวมถึงเตรียมน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตารองรับกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าในภาคตะวันตกและโรงไฟฟ้าพระนครเหนือเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติ