นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญดำเนินการไปนั้น โดยรวมไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่จำกัดอำนาจประชาชน เห็นชัดเจนว่าประชาชนไม่มีอำนาจที่จะเลือกผู้ออกกฎหมายและบริหารประเทศ ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นก็ไม่มีความหมาย เพราะผู้มาจากการเลือกตั้งทำอะไรไม่ได้ ต้องอยู่ภายใต้การกำหนดควบคุมของผู้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และไม่สามารถออกนโยบายอะไรได้ เพราะถูกกำหนดให้ทำตามแนวทางปฏิรูป ที่สำคัญยังเขียนรัฐธรรมนูญไม่ให้มีการแก้ไขได้ ต้องรอวันฉีกทิ้งเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการวางแนวทางการเมือง โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญมีความคล้ายคลึงกับสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ผ่านมาแล้ว 30 ปี แต่ดูเหมือนจะเลวร้ายมากกว่า ฉะนั้นจึงหมายความว่าย้อนหลังกันไปมากกว่า 30 ปี ซึ่งไม่ใช่รัฐธรรมนูญครึ่งใบ แต่เรียกว่ารัฐธรรมนูญเผด็จการ
ส่วนกรณีการตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาตินั้น เห็นว่าเป็นเพียงการสืบทอดอำนาจให้กับผู้ที่มีส่วนร่วมกับการรัฐประหาร เพื่อกำหนดความเป็นไปของบ้านเมือง โดยไม่ให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียง
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการวางแนวทางการเมือง โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญมีความคล้ายคลึงกับสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ผ่านมาแล้ว 30 ปี แต่ดูเหมือนจะเลวร้ายมากกว่า ฉะนั้นจึงหมายความว่าย้อนหลังกันไปมากกว่า 30 ปี ซึ่งไม่ใช่รัฐธรรมนูญครึ่งใบ แต่เรียกว่ารัฐธรรมนูญเผด็จการ
ส่วนกรณีการตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาตินั้น เห็นว่าเป็นเพียงการสืบทอดอำนาจให้กับผู้ที่มีส่วนร่วมกับการรัฐประหาร เพื่อกำหนดความเป็นไปของบ้านเมือง โดยไม่ให้ประชาชนมีสิทธิมีเสียง