นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และพระสุเทพ ปภากโร อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณีสลายการชุมนุมช่วงปี 53 ว่า
ล่าสุดนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รายงานว่า ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ได้รับการประสานงานจาก นายอภิสิทธิ์ และพระสุเทพแล้วว่า ในวันอังคารที่ 10 มีนาคมนี้ ช่วงเช้า นายอภิสิทธิ์ จะมอบหมายให้ผู้แทนมารับหนังสือบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา
ส่วนช่วงบ่ายของวันเดียวกัน พระสุเทพ ปภากโรได้มอบผู้แทนมารับหนังสือบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน เมื่อรับหนังสือดังกล่าวไปให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ลงนามแล้ว ต้องมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ซึ่งสามารถมาแก้ข้อกล่าวหา หรืออ้างพยานหลักฐานใดๆ ได้โดยทาง ป.ป.ช.จะพิจารณาว่า ตามที่กล่าวอ้างนั้น มีความเกี่ยวข้องกับสำนวนหรือไม่ และจะอนุญาตให้อ้างพยานได้แค่ไหน ขอมาได้จำนวนไม่จำกัด แต่ ป.ป.ช.ต้องพิจารณาดู เหมือนกับกรณีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยขออ้างพยานหลายคนแต่ ป.ป.ช.ต้องพิจารณาว่าให้ได้กี่คน
ล่าสุดนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รายงานว่า ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ได้รับการประสานงานจาก นายอภิสิทธิ์ และพระสุเทพแล้วว่า ในวันอังคารที่ 10 มีนาคมนี้ ช่วงเช้า นายอภิสิทธิ์ จะมอบหมายให้ผู้แทนมารับหนังสือบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา
ส่วนช่วงบ่ายของวันเดียวกัน พระสุเทพ ปภากโรได้มอบผู้แทนมารับหนังสือบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน เมื่อรับหนังสือดังกล่าวไปให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ลงนามแล้ว ต้องมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ซึ่งสามารถมาแก้ข้อกล่าวหา หรืออ้างพยานหลักฐานใดๆ ได้โดยทาง ป.ป.ช.จะพิจารณาว่า ตามที่กล่าวอ้างนั้น มีความเกี่ยวข้องกับสำนวนหรือไม่ และจะอนุญาตให้อ้างพยานได้แค่ไหน ขอมาได้จำนวนไม่จำกัด แต่ ป.ป.ช.ต้องพิจารณาดู เหมือนกับกรณีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยขออ้างพยานหลายคนแต่ ป.ป.ช.ต้องพิจารณาว่าให้ได้กี่คน