พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยว่า มหาดไทยได้ดำเนินโครงการ “ตลาดนัดชุมชน ไทยช่วยไทย คนไทยยิ้มได้” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพการเกษตร ผู้ผลิตสินค้าชุมชน/OTOP ที่ประสบปัญหาการจำหน่ายผลผลิต และผลิตภัณฑ์ได้ในราคาที่ไม่เป็นธรรม หรือไม่มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง โดยจัดให้มีตลาดนัดชุมชนเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน และสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกกว่าท้องตลาดที่ผู้ผลิต และผู้บริโภคได้มาพบกันโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยให้ทุกจังหวัดร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ พาณิชย์จังหวัด (สินค้าธงฟ้า) เกษตรจังหวัด สหกรณ์การเกษตร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานทหารในพื้นที่
ทั้งนี่ได้กำหนดสถานที่จำหน่ายสินค้าที่มีระยะเวลาจัดเป็นประจำแน่นอน ไม่ใช่ลักษณะการจัด Event เพื่อให้ประชาชนนำสินค้ามาจำหน่ายเอง ในรูปแบบถนนคนเดิน โดยได้จัดงาน Kick Off เปิดตลาดนัดชุมชนทุกจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ และเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลก่อนเริ่มโครงการพบว่า มีสถานที่จัดตลาดนัดทั้งในพื้นที่ของส่วนราชการ สถานที่สาธารณะ สถานที่เอกชนหรือแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 984 แห่ง ผู้จำหน่าย 4 หมื่นราย หลังจากดำเนินโครงการฯ มีตลาดนัดชุมชนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,063 แห่ง มีผู้จำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นเกษตรกร ผู้ผลิตสินค้า OTOP สินค้าชุมชน มาจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น เป็นจำนวน 8.9 หมื่นราย ยอดจำหน่ายจากทั่วประเทศรวมกว่า 800 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในการจัดตลาดนัดชุมชนในสถานที่ต่างๆ ยังได้จัดให้มีกิจกรรมอื่นๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการขาย รวมไปถึงการนำบริการจากภาครัฐไปให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ อาทิ การแสดงดนตรีศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน กิจกรรมสาธิต นิทรรศการ สวนสนุก การให้บริการประชาชน เช่น ตรวจสารปนเปื้อน การให้ความรู้เรื่องสุขลักษณะของตลาดนัด บริการตัดผมฟรี เป็นต้น
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อไปว่า โครงการตลาดนัดชุมชน เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำขึ้น เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มีสถานที่จำหน่าย และซื้อสินค้าในราคาที่เป็นธรรม ส่งผลให้ผู้ผลิตมีรายได้ที่สูงขึ้นผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือนบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะค่าครองชีพ สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก ตามนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคมของรัฐบาล
ทั้งนี่ได้กำหนดสถานที่จำหน่ายสินค้าที่มีระยะเวลาจัดเป็นประจำแน่นอน ไม่ใช่ลักษณะการจัด Event เพื่อให้ประชาชนนำสินค้ามาจำหน่ายเอง ในรูปแบบถนนคนเดิน โดยได้จัดงาน Kick Off เปิดตลาดนัดชุมชนทุกจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ และเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลก่อนเริ่มโครงการพบว่า มีสถานที่จัดตลาดนัดทั้งในพื้นที่ของส่วนราชการ สถานที่สาธารณะ สถานที่เอกชนหรือแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 984 แห่ง ผู้จำหน่าย 4 หมื่นราย หลังจากดำเนินโครงการฯ มีตลาดนัดชุมชนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,063 แห่ง มีผู้จำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นเกษตรกร ผู้ผลิตสินค้า OTOP สินค้าชุมชน มาจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น เป็นจำนวน 8.9 หมื่นราย ยอดจำหน่ายจากทั่วประเทศรวมกว่า 800 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในการจัดตลาดนัดชุมชนในสถานที่ต่างๆ ยังได้จัดให้มีกิจกรรมอื่นๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการขาย รวมไปถึงการนำบริการจากภาครัฐไปให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ อาทิ การแสดงดนตรีศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน กิจกรรมสาธิต นิทรรศการ สวนสนุก การให้บริการประชาชน เช่น ตรวจสารปนเปื้อน การให้ความรู้เรื่องสุขลักษณะของตลาดนัด บริการตัดผมฟรี เป็นต้น
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อไปว่า โครงการตลาดนัดชุมชน เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำขึ้น เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มีสถานที่จำหน่าย และซื้อสินค้าในราคาที่เป็นธรรม ส่งผลให้ผู้ผลิตมีรายได้ที่สูงขึ้นผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือนบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะค่าครองชีพ สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับฐานราก ตามนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคมของรัฐบาล
