บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย และศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปภาวะตลาดหุ้นรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (23-27ก.พ.) ดัชนี SET ปรับลดลงหลังตลาดขาดปัจจัยบวกหนุน โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,587.01 จุด ลดลง 1.03% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 40.09% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 61,471.65 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 798.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.18% จากสัปดาห์ก่อน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในสัปดาห์นี้ โดยปรับลดลงในวันจันทร์ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน แต่ขยับขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์จากข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับการขยายเวลามาตรการช่วยเหลือกรีซออกไปอีก 4 เดือน
ทั้งนี้ ตลาดปรับตัวลงอีกครั้งในวันพุธ โดยมีแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนต่างชาติ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี จากการซื้อเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยดัชนีร่วงลงอีกครั้งในวันศุกร์ จากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานตามการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันโลก
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัดมองว่า ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,600 และ 1,623 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,583 และ 1,567 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ.ของไทย รวมทั้งการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้ภาคการผลิต และการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อย่างไรก็ดี ยังต้องจับตาการรายงานดัชนี PMI ของจีน และประเทศในยูโรโซน รวมทั้ง การเริ่มเดินหน้าทำ QE ของธนาคารกลางยุโรป
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนในสัปดาห์นี้ โดยปรับลดลงในวันจันทร์ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน แต่ขยับขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์จากข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับการขยายเวลามาตรการช่วยเหลือกรีซออกไปอีก 4 เดือน
ทั้งนี้ ตลาดปรับตัวลงอีกครั้งในวันพุธ โดยมีแรงขายทำกำไรจากนักลงทุนต่างชาติ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี จากการซื้อเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยดัชนีร่วงลงอีกครั้งในวันศุกร์ จากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานตามการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันโลก
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (2-6 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัดมองว่า ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,600 และ 1,623 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,583 และ 1,567 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.พ.ของไทย รวมทั้งการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้ภาคการผลิต และการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อย่างไรก็ดี ยังต้องจับตาการรายงานดัชนี PMI ของจีน และประเทศในยูโรโซน รวมทั้ง การเริ่มเดินหน้าทำ QE ของธนาคารกลางยุโรป