พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดโครงการ "ปณิธานความดีปีมหามงคล ทำดีเริ่มได้ที่ใจเรา" ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลเริ่มขึ้นเพื่อให้ประชาชนร่วมใจถวายแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยเฉพาะในปี 2558-2570 ซึ่งเป็นช่วงปีมหามงคลของสถาบันพระมหากษัตริย์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำความดีต้องเริ่มที่ตนเอง และเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ โดยตนเองตั้งปณิธานว่า จะแก้ไขตัวเองใน 3 ระดับ คือ การแก้ไขในส่วนของตนเอง ครอบครัว และส่วนของรัฐบาล และประเทศ
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการทำความดีในส่วนของรัฐบาลที่ต้องเร่งแก้ปัญหาต่างๆ เพราะมีเวลาจำกัด จึงต้องเน้นแก้ปัญหาเดิม เพราะอยากให้บ้านเมืองดีขึ้น โดยขอให้ช่วยกันบอกกับกลุ่มที่สร้างปัญหาให้ยุติ เพราะลำพังการแก้ปัญหาทุกวันนี้ก็มีมาก จึงต้องแก้ปัญหาให้ถูกวิธี
ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า ในส่วนของคณะรัฐมนตรี ตนเองจะเป็นผู้ประเมินการทำงาน และวันนี้ทุกฝ่ายต้องยอมรับในกติกาเพื่อเดินหน้าประเทศ และทุกคนต้องช่วยส่งเสริมการทำงานของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความปรองดอง ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย โดยไม่ถอยในเรื่องการทำงาน แต่จะเป็นการหาความเห็นร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า ไม่ได้เข้ามาเพื่อทำลายประชาธิปไตย แต่เข้ามาเพื่อประคองประชาธิปไตย ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันสร้างให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ตนเองคาดหวังในการเข้ามาทำงาน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมอาชีวศึกษา โดยสถาบันการศึกษาอาชีวศึกษาในกรุงเทพมหานคร ให้ตั้งจุดบริการประชาชนทั้ง 50 เขต เพื่อสร้างภาพลักษณ์ความสัมพันธ์ที่ดี และแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทของเยาวชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำความดีต้องเริ่มที่ตนเอง และเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ โดยตนเองตั้งปณิธานว่า จะแก้ไขตัวเองใน 3 ระดับ คือ การแก้ไขในส่วนของตนเอง ครอบครัว และส่วนของรัฐบาล และประเทศ
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการทำความดีในส่วนของรัฐบาลที่ต้องเร่งแก้ปัญหาต่างๆ เพราะมีเวลาจำกัด จึงต้องเน้นแก้ปัญหาเดิม เพราะอยากให้บ้านเมืองดีขึ้น โดยขอให้ช่วยกันบอกกับกลุ่มที่สร้างปัญหาให้ยุติ เพราะลำพังการแก้ปัญหาทุกวันนี้ก็มีมาก จึงต้องแก้ปัญหาให้ถูกวิธี
ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า ในส่วนของคณะรัฐมนตรี ตนเองจะเป็นผู้ประเมินการทำงาน และวันนี้ทุกฝ่ายต้องยอมรับในกติกาเพื่อเดินหน้าประเทศ และทุกคนต้องช่วยส่งเสริมการทำงานของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความปรองดอง ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย โดยไม่ถอยในเรื่องการทำงาน แต่จะเป็นการหาความเห็นร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า ไม่ได้เข้ามาเพื่อทำลายประชาธิปไตย แต่เข้ามาเพื่อประคองประชาธิปไตย ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันสร้างให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ตนเองคาดหวังในการเข้ามาทำงาน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมอาชีวศึกษา โดยสถาบันการศึกษาอาชีวศึกษาในกรุงเทพมหานคร ให้ตั้งจุดบริการประชาชนทั้ง 50 เขต เพื่อสร้างภาพลักษณ์ความสัมพันธ์ที่ดี และแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทของเยาวชน