พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงกรณีองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น จี้ไทยเร่งแก้กฎหมายต่อต้านการทรมาน หลังจากที่พบว่าไทยยังมีกฎหมายอีกหลายข้อที่ไม่สอดคล้องกับข้อตกลงในการเข้าร่วมภาคีอนุสัญญา ว่า ที่ผ่านมาได้พยายามแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การเข้าควบคุมฝูงชน การดูแลที่คุมขัง และการงดเว้นโทษ แต่ยังเป็นปัญหาที่คณะกรรมการต่อต้านการทรมานแห่งสหประชาชาติเห็นว่า ยังต้องปรับปรุงกฎหมายถึง 32 ข้อ เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาการต่อต้านการทรมาน และพิธีศาลอิสตันบูล แม้ว่าที่ผ่านมาไทยจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น หลังเข้ามาเป็นภาคีอนุสัญญาต่อต้านการทรมานเมื่อปี 2540 แนวทางแก้ไขที่สำคัญคือ การให้ความรู้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่เกี่ยวข้องในการเก็บพยานหลักฐานการทรมานในที่เกิดเหตุ ซึ่งมีผลต่อการดำเนินคดี ถ้าหากว่าหลักฐานไม่มากพอ อาจจะทำให้รูปคดีเปลี่ยน และกลายเป็นความขัดแย้งได้
ดังนั้น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จึงได้จัดทำหลักสูตรเทคนิคการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน อันเกิดจากการทรมานขึ้น เพื่อเน้นย้ำให้หน่วยงานทางการแพทย์ องค์กรพัฒนาเอกชน ประชาสังคม และผู้เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน นำไปสู่มาตรฐานสากลตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน
ดังนั้น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จึงได้จัดทำหลักสูตรเทคนิคการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน อันเกิดจากการทรมานขึ้น เพื่อเน้นย้ำให้หน่วยงานทางการแพทย์ องค์กรพัฒนาเอกชน ประชาสังคม และผู้เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน นำไปสู่มาตรฐานสากลตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน