รายงานข่าวแจ้งความคืบหน้า ของการสอบสวนคลี่คลายคดียักยอกเงิน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) 1,474 ล้านบาท ว่า ตำรวจกองปราบปรามได้รวบรวมพยานหลักฐานตั้งแต่เริ่มเข้าไปสืบสวนสอบสวน จนพบหลักฐานสำคัญคือเอกสารการเบิกจ่าย ใบฝากถอนของธนาคาร จึงทำให้เชื่อว่าผู้บริหารระดับสูงของ สจล.มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการของ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด อย่างชัดเจน ทำให้เกิดกระแสข่าวว่าพนักงานสอบสวนเตรียมยื่นหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 1 รายคือ นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สจล.
อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนคดี สจล.ได้รับการประสานจากนายถวิลว่า จะเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 24 ก.พ.นี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้ปากคำเพิ่มเติมและต่อสู้คดี และเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วย อย่างไรก็ตามหากนายถวิลเข้ามาตามที่นัดหมาย คาดว่าพนักงานสอบสวนจะแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร และละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157
ทั้งนี้นายถวิล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอสอบปากคำตนเพิ่มเติม โดยนัดหมายกันที่กองปราบปราบฯ ในเวลา 09.00 น. ซึ่งตนก็ยินดีจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามเวลาดังกล่าว พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ แต่หากเกิดอะไรขึ้นตนไม่คิดหลบหนี เนื่องจากการยักยอกเงินที่เกิดขึ้นก่อนที่ตนมารับตำแหน่ง จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามตนจะต่อสู้จนถึงที่สุด ส่วนเรื่องที่ตำรวจจะออกหมายจับตนนั้นตนไม่ทราบ
อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนคดี สจล.ได้รับการประสานจากนายถวิลว่า จะเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 24 ก.พ.นี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมให้ปากคำเพิ่มเติมและต่อสู้คดี และเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วย อย่างไรก็ตามหากนายถวิลเข้ามาตามที่นัดหมาย คาดว่าพนักงานสอบสวนจะแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร และละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157
ทั้งนี้นายถวิล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอสอบปากคำตนเพิ่มเติม โดยนัดหมายกันที่กองปราบปราบฯ ในเวลา 09.00 น. ซึ่งตนก็ยินดีจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามเวลาดังกล่าว พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ แต่หากเกิดอะไรขึ้นตนไม่คิดหลบหนี เนื่องจากการยักยอกเงินที่เกิดขึ้นก่อนที่ตนมารับตำแหน่ง จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามตนจะต่อสู้จนถึงที่สุด ส่วนเรื่องที่ตำรวจจะออกหมายจับตนนั้นตนไม่ทราบ