ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2498 ให้เพิ่มอำนาจทหารควบคุมตัวพลเรือนได้นานสูงสุดถึง 84 วัน โดยไม่จำเป็นต้องได้รับอำนาจศาล และการมอบอำนาจให้ทหารควบคุมตัวพลเรือนโดยไม่ต้องมีการตรวจสอบ
พล.ร.อ.วัลลภ เกิดผล ประธานคณะกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า การควบคุมตัวพลเรือนตามร่างกฎหมายนี้ ศาลทหารจะควบคุมตัวเฉพาะความผิดเกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูง และคดีความมั่นคงเท่านั้น ส่วนคดีอื่นแม้จะเป็นพลเรือนร่วมกระทำผิดกับทหารก็ไม่ได้มีการนำพลเรือนมาขึ้นศาลทหารแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หลังการอภิปรายของสมาชิก สนช. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ตามรายมาตรา และมีมติเห็นชอบวาระ 3 และเห็นควรประกาศใช้เป็นกฎหมาย ด้วยคะแนน 179 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง พร้อมเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ที่ระบุว่า เรือนจำควรมีสถานที่ที่เหมาะสมแก่ผู้ต้องขังหญิง โดยเฉพาะผู้ต้องขังหญิงที่ตั้งครรภ์ และผู้ต้องขังหญิงที่ต้องเลี้ยงดูบุตร และกระทรวงกลาโหมควรกำหนดกรอบการปฏิบัติตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
พล.ร.อ.วัลลภ เกิดผล ประธานคณะกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า การควบคุมตัวพลเรือนตามร่างกฎหมายนี้ ศาลทหารจะควบคุมตัวเฉพาะความผิดเกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูง และคดีความมั่นคงเท่านั้น ส่วนคดีอื่นแม้จะเป็นพลเรือนร่วมกระทำผิดกับทหารก็ไม่ได้มีการนำพลเรือนมาขึ้นศาลทหารแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หลังการอภิปรายของสมาชิก สนช. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ ตามรายมาตรา และมีมติเห็นชอบวาระ 3 และเห็นควรประกาศใช้เป็นกฎหมาย ด้วยคะแนน 179 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง พร้อมเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ที่ระบุว่า เรือนจำควรมีสถานที่ที่เหมาะสมแก่ผู้ต้องขังหญิง โดยเฉพาะผู้ต้องขังหญิงที่ตั้งครรภ์ และผู้ต้องขังหญิงที่ต้องเลี้ยงดูบุตร และกระทรวงกลาโหมควรกำหนดกรอบการปฏิบัติตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน