นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้จัดทำบันทึกข้อตกลง หรือ เอ็มโอยู การดำเนินการสูบผันน้ำท่อส่งน้ำเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำประแสร์ และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และบริษัท จัดการพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) โดยโครงการดังกล่าวเป็น 1 ใน 13 โครงการที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2548 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างเร่งด่วน โดยระบบผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์มายังอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ จังหวัดระยอง ก่อสร้างโดยบริษัทอีสท์วอเตอร์ และได้ส่งมอบโครงการให้กรมชลประทานเพื่อใช้บริหารจัดการน้ำเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2553 ซึ่งกรมชลประทานได้มีการประชุมชี้แจง และสร้างความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำ และมีการจัดตั้งคณะกรรมการจัดการชลประทาน และกลุ่มบริหารการใช้น้ำนอกภาคการเกษตร เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการใช้ประโยชน์ในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้
สำหรับการสูบผันน้ำตามข้อตกลงนี้จะเริ่มตั้งแต่ปี 2558 ถึงปี 2562 รวมระยะเวลา 5 ปี โดยทั้งสองหน่วยงานจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมทั้งต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการสูบผันน้ำ ทั้งทรัพย์สินของราชการตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกด้วย
สำหรับการสูบผันน้ำตามข้อตกลงนี้จะเริ่มตั้งแต่ปี 2558 ถึงปี 2562 รวมระยะเวลา 5 ปี โดยทั้งสองหน่วยงานจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมทั้งต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการสูบผันน้ำ ทั้งทรัพย์สินของราชการตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกด้วย
