นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และนายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ตัวแทนอัยการสูงสุด (อสส.) เดินทางมายื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในฐานความผิดเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าว
ขณะที่นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด พร้อมคำชี้แจงเหตุผลที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เดินทางมาพบอัยการสูงสุด ก่อนที่อัยการสูงสุดจะส่งตัวแทนยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะไปรายงานตัวในชั้นศาลเมื่อศาลประทับฟ้องและเรียกตัว เนื่องจากอดีตนายกรัฐมนตรียังอยู่ในสถานะเพียงผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาเท่านั้น ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวเป็นเรื่องของอัยการสูงสุดกับศาล ที่กำหนดให้อัยการสูงสุดต้องส่งคำฟ้องต่อศาล หากศาลประทับรับฟ้องตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็พร้อมจะเดินทางไปรายงานตัวต่อศาล เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าที่ผ่านมาการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาและการไต่สวน อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการต่อสู้คดีอย่างเพียงพอ
ขณะที่นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด พร้อมคำชี้แจงเหตุผลที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เดินทางมาพบอัยการสูงสุด ก่อนที่อัยการสูงสุดจะส่งตัวแทนยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะไปรายงานตัวในชั้นศาลเมื่อศาลประทับฟ้องและเรียกตัว เนื่องจากอดีตนายกรัฐมนตรียังอยู่ในสถานะเพียงผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญาเท่านั้น ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวเป็นเรื่องของอัยการสูงสุดกับศาล ที่กำหนดให้อัยการสูงสุดต้องส่งคำฟ้องต่อศาล หากศาลประทับรับฟ้องตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็พร้อมจะเดินทางไปรายงานตัวต่อศาล เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าที่ผ่านมาการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาและการไต่สวน อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการต่อสู้คดีอย่างเพียงพอ