ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ของพม่า ประกาศไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ขณะที่การสู้รบระหว่างกองทัพรัฐบาลกับกบฏโกก้าง ในรัฐชาน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ได้ผลักดันชาวบ้านหลายหมื่นคนอพยพหนีภัย โดยมีทั้งที่ลงใต้ และจำนวนมากได้ข้ามแดนไปยังมณฑลยูนนาน ของจีน ส่งผลให้ปักกิ่งประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมชายแดนในวันอังคาร (17ก.พ.) พร้อมเรียกร้องให้คู่กรณีป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของแดนมังกร
วัดแห่งหนึ่งในเมืองลาเชียว ในรัฐชาน ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่มีการสู้รบลงมาทางใต้ราว 140 กิโลเมตร กลายเป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับชาวบ้านหลายพันคนที่หนีเอาชีวิตรอดจากความรุนแรงในเมืองลวกไก เมืองเอกของเขตโกก้างที่เกือบกลายเป็นเมืองร้าง โดยชาวบ้านเหล่านี้ส่วนใหญ่มีสมบัติติดตัวเพียงที่บรรจุในกระเป๋าพลาสติก 2-3 ใบ
หลายคนในจำนวนนี้เป็นคนงานชั่วคราวซึ่งตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่อยู่ในส่วนอื่นๆ ของพม่า แต่มีอย่างน้อย 200 คนที่ขอหลบภัยในหอนอนที่แออัดของวัดแห่งนี้
ทั้งนี้ การสู้รบระหว่างกบฏโกก้างที่เป็นชนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีน กับกองทัพรัฐบาลพม่าปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา และทำให้ความสงบสุขที่ดำเนินมา 6 ปีเต็มในพื้นที่ดังกล่าวจบลงโดยสิ้นเชิง
กองทัพพม่าเปิดฉากตอบโต้กลับกลุ่มกบฏที่พยายามยึดเมืองลวกไก ที่เป็นเมืองเอกของเขตโกก้าง และอยู่ใกล้พรมแดนจีน โดยการโจมตีอย่างรุนแรงหลายระลอกของฝ่ายโกก้าง ได้ทำให้ทหารของรัฐบาลเสียชีวิตเกือบ 50 คน
เวลานี้ทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียกำลังพลหลายสิบคนในการปะทะกันบนท้องถนน ขณะที่กองทัพพม่าพยายามชิงเมืองคืนและโจมตีแหล่งรวมพลของกลุ่มกบฏ
หนังสือพิมพ์โกลบัล นิว ไลต์ ออฟ เมียนมาร์ฉบับวันอังคาร (17) รายงานว่า ประธานาธิบดีเต็งเส่งระบุว่า กองทัพกำลังปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพด้านดินแดน พร้อมประกาศระหว่างเดินทางไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลว่า พม่าจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
ทางการพม่ากล่าวหาว่า โพน กยา ชิน ผู้นำกลุ่มกบฏโกก้าง เป็นผู้จุดชนวนความรุนแรง และเรียกร้องให้จีนควบคุมไม่ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของแดนมังกรช่วยเหลือกบฏกลุ่มนี้
วัดแห่งหนึ่งในเมืองลาเชียว ในรัฐชาน ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่มีการสู้รบลงมาทางใต้ราว 140 กิโลเมตร กลายเป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับชาวบ้านหลายพันคนที่หนีเอาชีวิตรอดจากความรุนแรงในเมืองลวกไก เมืองเอกของเขตโกก้างที่เกือบกลายเป็นเมืองร้าง โดยชาวบ้านเหล่านี้ส่วนใหญ่มีสมบัติติดตัวเพียงที่บรรจุในกระเป๋าพลาสติก 2-3 ใบ
หลายคนในจำนวนนี้เป็นคนงานชั่วคราวซึ่งตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่อยู่ในส่วนอื่นๆ ของพม่า แต่มีอย่างน้อย 200 คนที่ขอหลบภัยในหอนอนที่แออัดของวัดแห่งนี้
ทั้งนี้ การสู้รบระหว่างกบฏโกก้างที่เป็นชนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีน กับกองทัพรัฐบาลพม่าปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา และทำให้ความสงบสุขที่ดำเนินมา 6 ปีเต็มในพื้นที่ดังกล่าวจบลงโดยสิ้นเชิง
กองทัพพม่าเปิดฉากตอบโต้กลับกลุ่มกบฏที่พยายามยึดเมืองลวกไก ที่เป็นเมืองเอกของเขตโกก้าง และอยู่ใกล้พรมแดนจีน โดยการโจมตีอย่างรุนแรงหลายระลอกของฝ่ายโกก้าง ได้ทำให้ทหารของรัฐบาลเสียชีวิตเกือบ 50 คน
เวลานี้ทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียกำลังพลหลายสิบคนในการปะทะกันบนท้องถนน ขณะที่กองทัพพม่าพยายามชิงเมืองคืนและโจมตีแหล่งรวมพลของกลุ่มกบฏ
หนังสือพิมพ์โกลบัล นิว ไลต์ ออฟ เมียนมาร์ฉบับวันอังคาร (17) รายงานว่า ประธานาธิบดีเต็งเส่งระบุว่า กองทัพกำลังปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพด้านดินแดน พร้อมประกาศระหว่างเดินทางไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลว่า พม่าจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
ทางการพม่ากล่าวหาว่า โพน กยา ชิน ผู้นำกลุ่มกบฏโกก้าง เป็นผู้จุดชนวนความรุนแรง และเรียกร้องให้จีนควบคุมไม่ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของแดนมังกรช่วยเหลือกบฏกลุ่มนี้