รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ.นางรัตนา ศรีเหรัญ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ นายสัจจา ศรีเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กรุงเทพมหานคร เขต 2 และคณะอนุกรรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) สพม.กทม.เขต 2 ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีการออกคำสั่งให้นายพชรพงศ์ ตรีเทพา มาช่วยราชการต่อที่ สพม.กทม.เขต 2 ซึ่งได้ข้อสรุปว่า การที่ให้นายพชรพงศ์ช่วยราชการที่ สพม.กทม.เขต 2 จะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพราะที่ประชุมมีความคิดเห็นว่าไม่ต้องการให้นายพชรพงศ์เสียสิทธิ์ในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา โดยจะหาทางย้ายนายพชรพงศ์ไปช่วยราชการที่โรงเรียนในพื้นที่สพม.กทม.เขต 2 ที่ยังขาดผู้อำนวยการโรงเรียน
ส่วนการที่ให้นายพชรพงศ์มาช่วยราชการต่อที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ คงไม่เหมาะสม เพราะตำแหน่งของนายพชรพงศ์คือ ผู้บริหารโรงเรียน ดังนั้นก็ควรจะไปทำหน้าที่บริหารงานโรงเรียน ซึ่งตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนจะได้รับเงินวิทยฐานะประจำตำแหน่งด้วย และหากต้องให้นายพชรพงศ์มาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯต่อ ก็จะทำให้นายพชรพงศ์เสียสิทธิเรื่องเงินวิทยฐานะ ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรให้นายพชรพงศ์ไปช่วยราชการในโรงเรียนที่ยังขาดผู้อำนวยการโรงเรียนจะดีกว่า โดยขณะนี้ก็มีโรงเรียนขนาดใหญ่ในพื้นที่ สพม.กทม.เขต 2 ที่ยังขาดผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่
" ในปี 2558 นี้จะมีผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่เกษียณอายุราชการจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อถึงช่วงโยกย้ายประจำปีในเดือนกันยายน ทาง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ก็อาจจะพิจารณาสลับนายพชรพงศ์ไปอยู่โรงเรียนอื่นแทนได้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าโรงเรียนอื่นก็ต่อต้านไม่ต้องการให้นายพชรพงศ์ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนนั้น เรื่องนี้นายพชรพงศ์สามารถใช้ช่วงเวลาช่วยราชการพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเป็นอย่างที่คนอื่นกล่าวหาหรือไม่ และเมื่อถึงเวลาโยกย้ายจริงปัญหาทุกอย่างจะได้หมดไป" นางรัตนา กล่าว
ส่วนการที่ให้นายพชรพงศ์มาช่วยราชการต่อที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ คงไม่เหมาะสม เพราะตำแหน่งของนายพชรพงศ์คือ ผู้บริหารโรงเรียน ดังนั้นก็ควรจะไปทำหน้าที่บริหารงานโรงเรียน ซึ่งตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนจะได้รับเงินวิทยฐานะประจำตำแหน่งด้วย และหากต้องให้นายพชรพงศ์มาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯต่อ ก็จะทำให้นายพชรพงศ์เสียสิทธิเรื่องเงินวิทยฐานะ ที่ประชุมจึงเห็นว่าควรให้นายพชรพงศ์ไปช่วยราชการในโรงเรียนที่ยังขาดผู้อำนวยการโรงเรียนจะดีกว่า โดยขณะนี้ก็มีโรงเรียนขนาดใหญ่ในพื้นที่ สพม.กทม.เขต 2 ที่ยังขาดผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่
" ในปี 2558 นี้จะมีผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่เกษียณอายุราชการจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อถึงช่วงโยกย้ายประจำปีในเดือนกันยายน ทาง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ก็อาจจะพิจารณาสลับนายพชรพงศ์ไปอยู่โรงเรียนอื่นแทนได้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าโรงเรียนอื่นก็ต่อต้านไม่ต้องการให้นายพชรพงศ์ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนนั้น เรื่องนี้นายพชรพงศ์สามารถใช้ช่วงเวลาช่วยราชการพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเป็นอย่างที่คนอื่นกล่าวหาหรือไม่ และเมื่อถึงเวลาโยกย้ายจริงปัญหาทุกอย่างจะได้หมดไป" นางรัตนา กล่าว