นายบุญเลิศ คชายุทธเดช รองประธานกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยผลการแลกเปลี่ยนความเห็นกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อศึกษาแนวทางในการใช้กระบวนการยุติธรรมสร้างความปรองดอง ซึ่งเห็นตรงกันว่า การเรียกร้องทางการเมืองด้วยวิธีการชุมนุมที่ผ่านมา มีความซับซ้อนในเรื่องของคดี เพราะเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมาย ดังนั้น คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ไม่ว่าจะมีการใช้อาวุธหรือไม่ จำเป็นต้องนำเข้าไปอยู่ในสารบบคดีอาญา เพราะในสารบบกระบวนการยุติธรรมไม่มีคำนิยามของคดีทางการเมือง
นอกจากนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ปัจจุบันสภาพของเรือนจำทั่วประเทศมีความแออัดและใช้งบประมาณมาก ดังนั้น กระบวนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ต้องทำในหลายมิติ โดยเริ่มจากต้นทาง ซึ่งต้องให้มีผู้กระทำผิดน้อยลง ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนสภาพการคุมขังในเรือนจำ
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้ากรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สปช. จะเข้าประธานศาลฎีกา อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และอัยการสูงสุด เพื่อหารือแนวทางการสร้างความปรองดองด้วย
นอกจากนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ปัจจุบันสภาพของเรือนจำทั่วประเทศมีความแออัดและใช้งบประมาณมาก ดังนั้น กระบวนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ต้องทำในหลายมิติ โดยเริ่มจากต้นทาง ซึ่งต้องให้มีผู้กระทำผิดน้อยลง ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนสภาพการคุมขังในเรือนจำ
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้ากรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สปช. จะเข้าประธานศาลฎีกา อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และอัยการสูงสุด เพื่อหารือแนวทางการสร้างความปรองดองด้วย