นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงการกำกับดูแลสถาบันการเงิน ว่า ช่วงที่ผ่านมา ฐานะการเงิน และการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์นั้น ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ธปท.เห็นว่าจำเป็นต้องปรับปรุงในส่วนของการบริการจัดการภายในธนาคาร โดยเฉพาะการกำกับดูแลให้พนักงานทำตามกฎเกณฑ์ของธนาคารพาณิชย์อย่างเคร่งครัด
โดยธปท.เห็นว่า ขณะนี้มีปัญหาทั้งเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น ในกรณี เงินฝากของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง (สจล.) รวมทั้งกรณีการไม่ได้ให้ข้อมูลที่เหมาะสมกับลูกค้า ในผลิตภัณฑ์ทางการต่าง ๆ ที่ดีพอ เช่น มีกรณีที่มีลุงคนหนึ่งฆ่าตัวตาย เพราะคิดว่าเงินฝากหาย และกรณีอื่น ๆ ที่ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการรับบริการ ซึ่งในเรื่อง สจล. และเรื่องการบริหารภายในเฉพาะจุดต่าง ๆ นี้ ธปท.ได้กำชับธนาคารพาณิชย์ให้เร่งแก้ไข ให้พนักงานทำตามกฎเกณฑ์ และไม่สร้างความเสียหายขึ้นอีก
ในกรณีของสจล.นั้น ธปท.ได้สั่งการให้ทั้งพนักงานธปท. และธนาคารพาณิชย์ ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ และเห็นว่ากรณีนี้ธนาคารที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องปรับปรุงการทำงานภายใน และการดูแลพนักงาน ไม่ให้ฉวยโอกาส หรือทุจริตต่อลูกค้า ซึ่งได้สั่งการให้ธนาคารอื่นดูแลเรื่องเหล่านี้ให้ดีขึ้นไปพร้อม ๆ กันด้วย ขณะที่ลูกค้าเอง โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ก็ต้องปรับปรุงระบบการทำบัญชี และระบบการเงินให้ดีขึ้น เพราะกรณีนี้เหมือนการเต้นแทงโก้ ซึ่งเต้นคนเดียวไม่ได้ มันต้องใช้คน 2 คนเต้นไปด้วยกัน
“ธปท หวังว่า กรณี สจล.จะไม่ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจ ในระบบเงินฝากของสถาบันการเงินในระยะต่อไป โดยธปท.ยืนยันว่า ได้สั่งการให้ทุกธนาคารจัดการระบบการฝากถอนเงินให้ดีขึ้น ซึ่งทุกธนาคารได้เร่งกำชับตรวจตราให้เข้มขึ้น และในส่วนธนาคารที่ต้องการปรับปรุงก็ได้ดำเนินการแล้ว”
โดยธปท.เห็นว่า ขณะนี้มีปัญหาทั้งเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น ในกรณี เงินฝากของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง (สจล.) รวมทั้งกรณีการไม่ได้ให้ข้อมูลที่เหมาะสมกับลูกค้า ในผลิตภัณฑ์ทางการต่าง ๆ ที่ดีพอ เช่น มีกรณีที่มีลุงคนหนึ่งฆ่าตัวตาย เพราะคิดว่าเงินฝากหาย และกรณีอื่น ๆ ที่ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการรับบริการ ซึ่งในเรื่อง สจล. และเรื่องการบริหารภายในเฉพาะจุดต่าง ๆ นี้ ธปท.ได้กำชับธนาคารพาณิชย์ให้เร่งแก้ไข ให้พนักงานทำตามกฎเกณฑ์ และไม่สร้างความเสียหายขึ้นอีก
ในกรณีของสจล.นั้น ธปท.ได้สั่งการให้ทั้งพนักงานธปท. และธนาคารพาณิชย์ ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ และเห็นว่ากรณีนี้ธนาคารที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องปรับปรุงการทำงานภายใน และการดูแลพนักงาน ไม่ให้ฉวยโอกาส หรือทุจริตต่อลูกค้า ซึ่งได้สั่งการให้ธนาคารอื่นดูแลเรื่องเหล่านี้ให้ดีขึ้นไปพร้อม ๆ กันด้วย ขณะที่ลูกค้าเอง โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ก็ต้องปรับปรุงระบบการทำบัญชี และระบบการเงินให้ดีขึ้น เพราะกรณีนี้เหมือนการเต้นแทงโก้ ซึ่งเต้นคนเดียวไม่ได้ มันต้องใช้คน 2 คนเต้นไปด้วยกัน
“ธปท หวังว่า กรณี สจล.จะไม่ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจ ในระบบเงินฝากของสถาบันการเงินในระยะต่อไป โดยธปท.ยืนยันว่า ได้สั่งการให้ทุกธนาคารจัดการระบบการฝากถอนเงินให้ดีขึ้น ซึ่งทุกธนาคารได้เร่งกำชับตรวจตราให้เข้มขึ้น และในส่วนธนาคารที่ต้องการปรับปรุงก็ได้ดำเนินการแล้ว”