นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) สำรวจข้อมูลการลงทุนของภาคเอกชน หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ พบว่ามีผู้ประกอบการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ตั้งแต่พฤษภาคม -31 ธันวาคม 2557 มีจำนวน 3,815 ราย ได้ออกใบอนุญาต ร.ง.4 ไปแล้ว ผู้ประกอบการเริ่มประกอบกิจการจริง จำนวน 1,661 ราย คิดเป็นเงินลงทุน214,360 ล้านบาท เกิดการจ้างคนงาน 90,090 คน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้ให้นโยบาย กรอ.จัดทำข้อมูลการแจ้งเริ่มประกอบการ และขยายโรงงานจริงว่าหลังได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมไปแล้ว มีคงเหลือที่ยังไม่ประกอบกิจการจำนวนกี่ราย เพื่อช่วยประสานอำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชน และพบว่าโรงงานที่เปิดดำเนินกิจการในตอนนี้เป็นกิจการขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมและการเตรียมตัวที่ดี ส่วนที่ยังไม่เปิดดำเนินกิจการ ส่วนใหญ่จะเป็นกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) เนื่องจากยังต้องใช้เวลาในการหาแรงงาน แหล่งเงินทุน หรือการก่อสร้างที่อาจล่าช้าส่วนปัจจัยอื่นหากผู้ประกอบการรายใดมีอุปสรรคที่ภาครัฐจะสามารถช่วยได้กระทรวงจะเป็นตัวกลางในการประสานความช่วยเหลือดังกล่าว
สำหรับโรงงานที่ทำการผลิตในปัจจุบันเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีเงินลงทุนสูง และมีการจ้างคนงานเป็นจำนวนมากจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างดี และมั่นใจว่า ภายใน 1-2 เดือน จะมีโรงงานเปิดสายการผลิตใหม่และขยายกิจการกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคทุกจังหวัดอีกจำนวน 2,154 โรงงาน คิดเป็นเงินลงทุน 242,603 ล้านบาท และจะมีการจ้างงานใหม่อีก 59,793 คน ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการสร้างและขยายกิจการในประเทศไทยส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมไทยในปีนี้มีแนวโน้มสดใส
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้ให้นโยบาย กรอ.จัดทำข้อมูลการแจ้งเริ่มประกอบการ และขยายโรงงานจริงว่าหลังได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรมไปแล้ว มีคงเหลือที่ยังไม่ประกอบกิจการจำนวนกี่ราย เพื่อช่วยประสานอำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชน และพบว่าโรงงานที่เปิดดำเนินกิจการในตอนนี้เป็นกิจการขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมและการเตรียมตัวที่ดี ส่วนที่ยังไม่เปิดดำเนินกิจการ ส่วนใหญ่จะเป็นกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) เนื่องจากยังต้องใช้เวลาในการหาแรงงาน แหล่งเงินทุน หรือการก่อสร้างที่อาจล่าช้าส่วนปัจจัยอื่นหากผู้ประกอบการรายใดมีอุปสรรคที่ภาครัฐจะสามารถช่วยได้กระทรวงจะเป็นตัวกลางในการประสานความช่วยเหลือดังกล่าว
สำหรับโรงงานที่ทำการผลิตในปัจจุบันเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีเงินลงทุนสูง และมีการจ้างคนงานเป็นจำนวนมากจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างดี และมั่นใจว่า ภายใน 1-2 เดือน จะมีโรงงานเปิดสายการผลิตใหม่และขยายกิจการกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคทุกจังหวัดอีกจำนวน 2,154 โรงงาน คิดเป็นเงินลงทุน 242,603 ล้านบาท และจะมีการจ้างงานใหม่อีก 59,793 คน ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการสร้างและขยายกิจการในประเทศไทยส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมไทยในปีนี้มีแนวโน้มสดใส