บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (22 ม.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกคึกคักตลอดช่วงเช้า โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรแบบคละกลุ่มผลักดันดัชนีรอผลประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)กระตุ้นเศรษฐกิจคืนนี้ ประกอบกับกระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง สะท้อนสภาพคล่องที่มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งตลาดไร้ปัจจัยลบใหม่เข้ากดดัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,549.97 จุด เพิ่มขึ้น 12.61จุด หรือ 0.82% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29,594.28 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,550.18 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,543.67 จุด
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ยังคงเป็นการเก็งผลประชุม ECB วันนี้ โดยมีความคาดหวังว่าจะมีการเสนอให้ทำ QE ในวงเงิน 5 หมื่นล้านยูโร/เดือน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี
ส่วนตลาดบ้านเราวันนี้เห็นได้ว่าหุ้นกลุ่มแบงก์, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มสื่อสาร ปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยกลุ่มแบงก์ทยอยประกาศผลประกอบการออกมาแล้วมีกำไรโต 3.5% ถือว่าไม่มาก แต่เห็นโมเมนตัมจากไตรมาส 4/57 ว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ดีขึ้นในปี 58 และส่งผลดีต่อกำไรของกลุ่มแบงก์ในปีนี้ คาดว่าจะมีกำไรเติบโตใกล้ 10% จึงทำให้มีแรงซื้อเข้ามามาก
ส่วนกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้ดีขานรับราคาน้ำมันดิบที่เริ่มเห็นการรีบาวน์ อย่างไรก็ดี มองว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ช่วงนี้ยังผันผวนอยู่ จึงต้องระวังการลงทุนด้วย ส่วนกลุ่มสื่อสารเด่นในวันนี้จากประเด็นการประมูล 4G และการสนับสนุนโครงการดิจิตอล Economy รวมถึงการวางระบบโครงการคมนาคมสื่อสาร เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นไปของโลก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯได้มีการเล่นเก็งผล ECB กันมาหลายวัน ดังนั้นจะต้องรอดูว่าดัชนีฯจะสามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,550 จุดได้หรือไม่ หากยืนไม่ได้ก็มีโอกาสที่จะเจอแรง take profit รอบหนึ่งก่อน แต่ถ้ายืนเหนือ 1,550 จุดได้ก็แนะนำให้ถือต่อได้ พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดได้แก่
CK ราคาล่าสุด 28.25 บาท ปรับบวก 1.50 บาท,
ITD ราคาล่าสุด 8.30 บาท ปรับบวก 0.25 บาท,
TRUE ราคาล่าสุด 13.00 บาท ปรับบวก 0.30 บาท,
BMCL ราคาล่าสุด 2.18 บาท ปรับลง 0.20 บาท และ
KBANK ราคาล่าสุด 224.00 บาท ปรับบวก 2.00 บาท
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดีในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ยังคงเป็นการเก็งผลประชุม ECB วันนี้ โดยมีความคาดหวังว่าจะมีการเสนอให้ทำ QE ในวงเงิน 5 หมื่นล้านยูโร/เดือน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี
ส่วนตลาดบ้านเราวันนี้เห็นได้ว่าหุ้นกลุ่มแบงก์, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มสื่อสาร ปรับตัวขึ้นโดดเด่น โดยกลุ่มแบงก์ทยอยประกาศผลประกอบการออกมาแล้วมีกำไรโต 3.5% ถือว่าไม่มาก แต่เห็นโมเมนตัมจากไตรมาส 4/57 ว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ดีขึ้นในปี 58 และส่งผลดีต่อกำไรของกลุ่มแบงก์ในปีนี้ คาดว่าจะมีกำไรเติบโตใกล้ 10% จึงทำให้มีแรงซื้อเข้ามามาก
ส่วนกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้ดีขานรับราคาน้ำมันดิบที่เริ่มเห็นการรีบาวน์ อย่างไรก็ดี มองว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ช่วงนี้ยังผันผวนอยู่ จึงต้องระวังการลงทุนด้วย ส่วนกลุ่มสื่อสารเด่นในวันนี้จากประเด็นการประมูล 4G และการสนับสนุนโครงการดิจิตอล Economy รวมถึงการวางระบบโครงการคมนาคมสื่อสาร เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นไปของโลก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯได้มีการเล่นเก็งผล ECB กันมาหลายวัน ดังนั้นจะต้องรอดูว่าดัชนีฯจะสามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,550 จุดได้หรือไม่ หากยืนไม่ได้ก็มีโอกาสที่จะเจอแรง take profit รอบหนึ่งก่อน แต่ถ้ายืนเหนือ 1,550 จุดได้ก็แนะนำให้ถือต่อได้ พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดได้แก่
CK ราคาล่าสุด 28.25 บาท ปรับบวก 1.50 บาท,
ITD ราคาล่าสุด 8.30 บาท ปรับบวก 0.25 บาท,
TRUE ราคาล่าสุด 13.00 บาท ปรับบวก 0.30 บาท,
BMCL ราคาล่าสุด 2.18 บาท ปรับลง 0.20 บาท และ
KBANK ราคาล่าสุด 224.00 บาท ปรับบวก 2.00 บาท
