ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีสหรัฐอเมริกาทำหนังสือถึงประเทศไทยให้ตรวจสอบแอปเปิลพันธุ์กาล่า และสายพันธุ์แกรนนี่สมิธ เพราะพบความสัมพันธ์กับโรคลิสเทอริโอซิส (Listeriosis) ว่า ขณะนี้อย.มี 3 มาตรการ ในการดำเนินการโดยการตรวจสอบตามด่านของอย. และกรมวิชาการเกษตร ประกอบด้วย
1.กรณีนำเข้าแอปเปิ้ลทั้ง 2 สายพันธุ์ ยี่ห้อบิ๊กบี และแกรนนี่ เบสต์ ของบริษัทตามที่สหรัฐอเมริกาแจ้งไว้นั้นจะต้องอายัดสิ้นค้าไว้เพื่อตรวจหาเชื้อลิสเทอริโอซิส ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน หากไม่พบเชื้อจึงจะปล่อยให้จำหน่ายได้ 2. ในกรณีเป็นแอปเปิ้ล
2 สายพันธุ์ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ใช่ยี่ห้อบิ๊กบี และแกรนนี่ เบสต์ ไม่ได้สั่งอายัดตามกฎหมายแต่จะขอความร่วมมือจากบริษัทนำเข้าว่าอย่างเพิ่งกระจายสินค้าจนกว่าจะมีการตรวจหาเชื้อโรคแล้วเสร็จ และ
3. ดำเนินการตรวจสอบหาเชื้อโรคในแอปเปิ้ลทุกสายพันธุ์ ทุกยี่ห้อจากทุกประเทศ ที่นำเข้ามาในประเทศไทยแต่ไม่ได้อายัดสินค้าไว้
“ขณะนี้ด่านที่มีการตรวจเข้มที่สุดของ อย. มี 3 แห่ง คือ ด่านท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือคลองเตย และลาดกระบัง ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าผลไม้เยอะ เบื้องต้นที่แหลมฉบังมี 2 ตู้คอนแทรนด์เนอร์ที่นำเข้ามา ตู้แรกไม่เกี่ยวข้องกับที่สหรัฐแจ้ง กำลังรอปล่อยให้จำหน่าย ส่วนอีกตู้หนึ่งเป็นสายพันธุ์แกรนนี่สมิธ แต่ไม่ใช่ยี่ห้อบิ๊กบี และแกรนนี่ เบสท์ ซึ่งกรณีนี้เข้าข่ายต้องคุมเข้มตามมาตรการที่ 2 อย่างไรก็ตาม ตามท้องตลาดยังไม่มีสินค้านี้เข้ามาในประเทศไทย ประชาชนสามารถซื้อมารับประทานได้ แต่ขอให้ล้างทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง” ภก.ประพนธ์ กล่าว
ทั้งนี้องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (U.S Food and DrugAdministration, USFDA) ได้มีหนังสือแจ้งมายังไทย เพื่อเรียกเก็บสินค้าแอปเปิ้ล พันธุ์กาล่า และแกรนนี่สมิธภายใต้เครื่องหมายการค้า “Granny’s Best” หรือ “Big B” จากบริษัท Bidart Bros เนื่องจากพบว่าผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่สหรัฐอเมริกาได้รับอันตรายและอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิด หญิงมีครรภ์ คนชรา หรือผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งเกี่ยวพันกับโรค Listeriosis นั้น
จากการตรวจสอบของด่านตรวจพืช กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และด่านอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่าแอปเปิ้ ลทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Granny’s Best” หรือ “Big B” รุ่นที่ถูกเรียกคืนดังกล่าว ไม่มีการนำเข้ามาในประเทศไทย
1.กรณีนำเข้าแอปเปิ้ลทั้ง 2 สายพันธุ์ ยี่ห้อบิ๊กบี และแกรนนี่ เบสต์ ของบริษัทตามที่สหรัฐอเมริกาแจ้งไว้นั้นจะต้องอายัดสิ้นค้าไว้เพื่อตรวจหาเชื้อลิสเทอริโอซิส ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน หากไม่พบเชื้อจึงจะปล่อยให้จำหน่ายได้ 2. ในกรณีเป็นแอปเปิ้ล
2 สายพันธุ์ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ใช่ยี่ห้อบิ๊กบี และแกรนนี่ เบสต์ ไม่ได้สั่งอายัดตามกฎหมายแต่จะขอความร่วมมือจากบริษัทนำเข้าว่าอย่างเพิ่งกระจายสินค้าจนกว่าจะมีการตรวจหาเชื้อโรคแล้วเสร็จ และ
3. ดำเนินการตรวจสอบหาเชื้อโรคในแอปเปิ้ลทุกสายพันธุ์ ทุกยี่ห้อจากทุกประเทศ ที่นำเข้ามาในประเทศไทยแต่ไม่ได้อายัดสินค้าไว้
“ขณะนี้ด่านที่มีการตรวจเข้มที่สุดของ อย. มี 3 แห่ง คือ ด่านท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือคลองเตย และลาดกระบัง ซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าผลไม้เยอะ เบื้องต้นที่แหลมฉบังมี 2 ตู้คอนแทรนด์เนอร์ที่นำเข้ามา ตู้แรกไม่เกี่ยวข้องกับที่สหรัฐแจ้ง กำลังรอปล่อยให้จำหน่าย ส่วนอีกตู้หนึ่งเป็นสายพันธุ์แกรนนี่สมิธ แต่ไม่ใช่ยี่ห้อบิ๊กบี และแกรนนี่ เบสท์ ซึ่งกรณีนี้เข้าข่ายต้องคุมเข้มตามมาตรการที่ 2 อย่างไรก็ตาม ตามท้องตลาดยังไม่มีสินค้านี้เข้ามาในประเทศไทย ประชาชนสามารถซื้อมารับประทานได้ แต่ขอให้ล้างทำความสะอาดก่อนทุกครั้ง” ภก.ประพนธ์ กล่าว
ทั้งนี้องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (U.S Food and DrugAdministration, USFDA) ได้มีหนังสือแจ้งมายังไทย เพื่อเรียกเก็บสินค้าแอปเปิ้ล พันธุ์กาล่า และแกรนนี่สมิธภายใต้เครื่องหมายการค้า “Granny’s Best” หรือ “Big B” จากบริษัท Bidart Bros เนื่องจากพบว่าผู้ที่รับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่สหรัฐอเมริกาได้รับอันตรายและอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิด หญิงมีครรภ์ คนชรา หรือผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งเกี่ยวพันกับโรค Listeriosis นั้น
จากการตรวจสอบของด่านตรวจพืช กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และด่านอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่าแอปเปิ้ ลทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Granny’s Best” หรือ “Big B” รุ่นที่ถูกเรียกคืนดังกล่าว ไม่มีการนำเข้ามาในประเทศไทย