ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ในการดำเนินการซักถามคู่ความทั้งในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา
โดยนายนิคม ยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และไม่ได้เป็นไปตามผลประโยชน์ส่วนตัว หลังตัวแทนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะผู้กล่าวหาได้ตอบคำถามต่อ คณะกรรมาธิการซักถามแล้ว นายนิคมได้ตอบข้อซักถามของคณะกรรมาธิการ โดยยืนยันว่า ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และข้อบังคับการประชุม และเมื่อมีผู้เสนอปิดการอภิปรายประชุม จึงต้องดำเนินการตามญัตติจึงยืนยันได้ว่า ไม่ได้ใช้อำนาจตามอำเภอใจ
นอกจากนี้ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช.ยังคงประเมินสถานการณ์ภาพรวมของบ้านเมือง พบว่าสถานการณ์โดยรวมยังอยู่ในภาวะปกติ แต่ยังย้ำถึงความจำเป็นในการประกาศใช้กฎอัยการศึก เพื่อที่จะเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป
โดยนายนิคม ยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และไม่ได้เป็นไปตามผลประโยชน์ส่วนตัว หลังตัวแทนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะผู้กล่าวหาได้ตอบคำถามต่อ คณะกรรมาธิการซักถามแล้ว นายนิคมได้ตอบข้อซักถามของคณะกรรมาธิการ โดยยืนยันว่า ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และข้อบังคับการประชุม และเมื่อมีผู้เสนอปิดการอภิปรายประชุม จึงต้องดำเนินการตามญัตติจึงยืนยันได้ว่า ไม่ได้ใช้อำนาจตามอำเภอใจ
นอกจากนี้ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช.ยังคงประเมินสถานการณ์ภาพรวมของบ้านเมือง พบว่าสถานการณ์โดยรวมยังอยู่ในภาวะปกติ แต่ยังย้ำถึงความจำเป็นในการประกาศใช้กฎอัยการศึก เพื่อที่จะเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป