เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายอาทิตย์ สุริยวงศ์กุล ผู้ประสานเครือข่ายพลเมืองเน็ต เปิดเผยว่า เครือข่ายภาคประชาชนร่วมกลุ่ม 6 องค์กร ประกอบด้วย สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย มูลนิธิโลกสีเขียว FTA Watch กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน สถาบันพัฒนาสื่อภาคประชาชน และเครือข่ายพลเมืองเน็ต เตรียมยื่นหนังสือคัดค้านการออกกฎหมาย 8 ฉบับที่เกี่ยวเศรษฐกิจดิจิตอล ภายในสัปดาห์นี้ โดยเบื้องต้นจะยื่นต่อสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) คณะกรรมการปฎิรูปกฎหมาย (คปก) และคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ไม่ได้คัดค้านเศรษฐกิจดิจิตอล แต่มองว่าการออกกฎหมายชุดดังกล่าวนี้ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในหลายด้าน ผูกขาดทรัพยากร ไม่ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอลใช้ข้ออ้างเรื่องเศรษฐกิจดิจิตอลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงของรัฐ สะท้อนออกมาในร่างกฎหมายที่ให้อำนาจภาครัฐมากขึ้นในการจัดสรรทรัพยากร
นายอาทิตย์ กล่าวว่า ในขณะเดียวกันเนื้อหาในร่างพ.ร.บ.กสทช. เป็นการดึงคลื่นความถี่กลับมาอยู่ในมือภาครัฐและกองทัพ ซึ่งจะกลับไปเหมือนในสมัยก่อนรัฐธรรมนูญปี 2540 กฎหมายชุดนี้ทำลายหลักการที่ว่าคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะ และทำลายกลไกการแข่งขันเสรีเป็นธรรม ส่งผลให้เป็นกฎหมายเพื่อ เศรษฐกิจและกองทัพ
นอกจากนี้กองทุนที่มาจากรายได้ของ กสทช. ถูกเปลี่ยนวัตถุประสงค์จากเดิมที่เป็นเป็นกองทุนวิจัยพัฒนาเพื่อประโยชน์สาธารณะ ส่งเสริมคุ้มครองผู้บริโภค ส่งเสริมผู้ประกอบกิจการบริการชุมชน ส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อของผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และส่งเสริมจริยธรรมการประกอบวิชาชีพ กลายสภาพเป็นกองทุนเพื่อให้รัฐและเอกชนกู้ยืมแทน
ทั้งนี้ไม่ได้คัดค้านเศรษฐกิจดิจิตอล แต่มองว่าการออกกฎหมายชุดดังกล่าวนี้ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในหลายด้าน ผูกขาดทรัพยากร ไม่ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอลใช้ข้ออ้างเรื่องเศรษฐกิจดิจิตอลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงของรัฐ สะท้อนออกมาในร่างกฎหมายที่ให้อำนาจภาครัฐมากขึ้นในการจัดสรรทรัพยากร
นายอาทิตย์ กล่าวว่า ในขณะเดียวกันเนื้อหาในร่างพ.ร.บ.กสทช. เป็นการดึงคลื่นความถี่กลับมาอยู่ในมือภาครัฐและกองทัพ ซึ่งจะกลับไปเหมือนในสมัยก่อนรัฐธรรมนูญปี 2540 กฎหมายชุดนี้ทำลายหลักการที่ว่าคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติเพื่อประโยชน์สาธารณะ และทำลายกลไกการแข่งขันเสรีเป็นธรรม ส่งผลให้เป็นกฎหมายเพื่อ เศรษฐกิจและกองทัพ
นอกจากนี้กองทุนที่มาจากรายได้ของ กสทช. ถูกเปลี่ยนวัตถุประสงค์จากเดิมที่เป็นเป็นกองทุนวิจัยพัฒนาเพื่อประโยชน์สาธารณะ ส่งเสริมคุ้มครองผู้บริโภค ส่งเสริมผู้ประกอบกิจการบริการชุมชน ส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อของผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และส่งเสริมจริยธรรมการประกอบวิชาชีพ กลายสภาพเป็นกองทุนเพื่อให้รัฐและเอกชนกู้ยืมแทน