นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล กำหนดให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดต้นแบบของการกำจัดขยะ ล่าสุด ได้ทำการขนย้ายขยะจาก ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา มาไว้ที่ ต.มหาพราหมณ์ อ.บางบาล ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ถือว่าเป็นโครงการสำคัญต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยเฉพาะต้องทำให้มีคุณภาพ และรวดเร็ว เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือการทำสถานที่กำจัดขยะ จะมีบ่อขยะขนาดใหญ่ที่ ต.มหาพราหมณ์ อ.บางบาล เดิมมี 5 บ่อ ได้ยุบรวมเหลือ 2 บ่อ ในเนื้อที่ 136 ไร่ แต่ละบ่อจะเก็บขยะได้ถึง 17 ปีต่อ 1 บ่อ รวมแล้วจะเก็บขยะได้กว่า 30 ปี ขณะนี้เริ่มขนย้ายตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2557 จะไปสิ้นสุดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 รวม 60 วัน
นายอภิชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากดำเนินการขนย้ายขยะที่ตำบลบ้านป้อมแล้วเสร็จ จะใช้สถานที่ทำเป็นสวนสาธารณะ พร้อมกันนี้ ยังได้ย้ำว่า ขยะที่ขนย้ายจาก ต.บ้านป้อม มาที่ ต.มหาพราหมณ์ ไม่ได้นำมาเก็บ แต่นำมาพักไว้ชั่วคราว รวมถึงจะเปิดโอกาสให้ อบต.ที่อยู่รอบข้างนำขยะมาทิ้งได้ หลังจากนั้น กฟผ.จะนำไปผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า
ทั้งนี้ ถือว่าเป็นโครงการสำคัญต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยเฉพาะต้องทำให้มีคุณภาพ และรวดเร็ว เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือการทำสถานที่กำจัดขยะ จะมีบ่อขยะขนาดใหญ่ที่ ต.มหาพราหมณ์ อ.บางบาล เดิมมี 5 บ่อ ได้ยุบรวมเหลือ 2 บ่อ ในเนื้อที่ 136 ไร่ แต่ละบ่อจะเก็บขยะได้ถึง 17 ปีต่อ 1 บ่อ รวมแล้วจะเก็บขยะได้กว่า 30 ปี ขณะนี้เริ่มขนย้ายตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2557 จะไปสิ้นสุดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 รวม 60 วัน
นายอภิชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากดำเนินการขนย้ายขยะที่ตำบลบ้านป้อมแล้วเสร็จ จะใช้สถานที่ทำเป็นสวนสาธารณะ พร้อมกันนี้ ยังได้ย้ำว่า ขยะที่ขนย้ายจาก ต.บ้านป้อม มาที่ ต.มหาพราหมณ์ ไม่ได้นำมาเก็บ แต่นำมาพักไว้ชั่วคราว รวมถึงจะเปิดโอกาสให้ อบต.ที่อยู่รอบข้างนำขยะมาทิ้งได้ หลังจากนั้น กฟผ.จะนำไปผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า