รายงานข่าวแจ้งว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข้อมูลทรัพย์สินและหนี้สิน ส.ส.กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี ในส่วนของ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวน 9 คน ที่ลาออกจากการเป็น ส.ส.เมื่อวันที่ 11 พ.ย.57 เพื่อออกมาชุมนุมทางการเมืองในนาม กปปส. ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือพระสุเทพ ปภากโร, นายถาวร เสนเนียม, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายอิสสระ สมชัย หรือพระอิสสระ โกสโล, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายชุมพล จุลใส
โดยในส่วนของนายสุเทพ แจ้งสถานะว่าเป็นหม้าย โดยมีทรัพย์สินมีทั้งสิ้น 211,182,630 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 287,271,724 บาท โดยรวมแล้วมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 76,089,094 บาท โดยหนี้สินส่วนใหญ่เป็นเงินกู้จากธนาคาร 3 แห่งมูลค่า 202,310,169 บาท เงินกู้จาก บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด รวมทั้งเงินเบิกเกินบัญชี ทั้งนี้เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่งแจ้งว่า มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 113,836,911 บาท เท่ากับว่านายสุเทพมีหนี้สินลดลง 37,747,817 บาท
ส่วนนายสาทิตย์ คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 67,504,505 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 10,356,247 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 57,148,258 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 56,900,379 บาท เท่ากับว่านายสาทิตย์มีทรัพย์สินลดลง 247,879 บาท
ส่วนนายถาวร และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 106,978,959 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 5,999,918 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 100,979,041 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 100,982,968 บาท เท่ากับว่านายถาวรมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 3,927 บาท
ส่วนนายอิสสระ และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 20,224,692 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2 ล้านบาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 18,224,692 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่งแจ้งว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 15,708,412 บาท เท่ากับว่านายอิสสระมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,516,280 บาท
ส่วนนายวิทยา และคู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 25,683,235 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,603,642 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 23,079,593 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้นมากกว่าหนี้สิน 20,951,806 บาท เท่ากับว่า นายวิทยา มีทรัพย์สินเพิ่ม 2,127,787 บาท
นายเอกนัฏ แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 100,800,562 บาท ไม่มีหนี้สิน รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน100,800,562 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 101,595,464 บาท ไม่มีหนี้สิน เท่ากับว่านายเอกนัฏมีทรัพย์สินลดลง 794,902 บาท
ส่วนนายณัฏฐพล คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,876,272,397 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 28,962,653 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 1,847,309,744 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้ง มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 1,520,431,797 บาท เท่ากับว่า นายณัฏฐพล มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 326,877,947 บาท
ส่วนนายพุทธิพงษ์ และคู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 70,843,457 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 849,945 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 69,993,512 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 83,846,942 บาท เท่ากับว่า นายพุทธิพงษ์ มีทรัพย์สินลดลง 13,853,470 บาท
ส่วนนายชุมพล และคู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 104,117,452 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 25,680,394 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 78,437,058 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 81,588,445 บาท เท่ากับว่า นายชุมพล มีทรัพย์สินลดลง 3,151,387 บาท
โดยในส่วนของนายสุเทพ แจ้งสถานะว่าเป็นหม้าย โดยมีทรัพย์สินมีทั้งสิ้น 211,182,630 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 287,271,724 บาท โดยรวมแล้วมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 76,089,094 บาท โดยหนี้สินส่วนใหญ่เป็นเงินกู้จากธนาคาร 3 แห่งมูลค่า 202,310,169 บาท เงินกู้จาก บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด รวมทั้งเงินเบิกเกินบัญชี ทั้งนี้เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่งแจ้งว่า มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 113,836,911 บาท เท่ากับว่านายสุเทพมีหนี้สินลดลง 37,747,817 บาท
ส่วนนายสาทิตย์ คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 67,504,505 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 10,356,247 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 57,148,258 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 56,900,379 บาท เท่ากับว่านายสาทิตย์มีทรัพย์สินลดลง 247,879 บาท
ส่วนนายถาวร และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 106,978,959 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 5,999,918 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 100,979,041 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 100,982,968 บาท เท่ากับว่านายถาวรมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 3,927 บาท
ส่วนนายอิสสระ และคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 20,224,692 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2 ล้านบาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 18,224,692 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่งแจ้งว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 15,708,412 บาท เท่ากับว่านายอิสสระมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,516,280 บาท
ส่วนนายวิทยา และคู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 25,683,235 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,603,642 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 23,079,593 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้นมากกว่าหนี้สิน 20,951,806 บาท เท่ากับว่า นายวิทยา มีทรัพย์สินเพิ่ม 2,127,787 บาท
นายเอกนัฏ แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 100,800,562 บาท ไม่มีหนี้สิน รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน100,800,562 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 101,595,464 บาท ไม่มีหนี้สิน เท่ากับว่านายเอกนัฏมีทรัพย์สินลดลง 794,902 บาท
ส่วนนายณัฏฐพล คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,876,272,397 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 28,962,653 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 1,847,309,744 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้ง มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 1,520,431,797 บาท เท่ากับว่า นายณัฏฐพล มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 326,877,947 บาท
ส่วนนายพุทธิพงษ์ และคู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 70,843,457 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 849,945 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 69,993,512 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 83,846,942 บาท เท่ากับว่า นายพุทธิพงษ์ มีทรัพย์สินลดลง 13,853,470 บาท
ส่วนนายชุมพล และคู่สมรส แจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 104,117,452 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 25,680,394 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 78,437,058 บาท เมื่อเทียบกับช่วงพ้นตำแหน่ง แจ้งว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 81,588,445 บาท เท่ากับว่า นายชุมพล มีทรัพย์สินลดลง 3,151,387 บาท