การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในช่วงเที่ยงวันนี้ (8 ม.ค.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานการประชุม ได้เริ่มเข้าสู่วาระการพิจารณากระบวนการถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ออกจากตำแหน่ง โดย พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตต์ สมาชิก สนช.ได้เสนอให้การพิจารณาของสภาเพื่อถอดถอนบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการประชุมลับ เพราะขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองที่เคยขัดแย้งเริ่มคลี่คลายลง จึงเกรงว่าหากประชุมโดยเปิดเผยจะเป็นการเพิ่มเติมความขัดแย้ง
ขณะที่นายกล้าณรงค์ จันทิก สมาชิก สนช.กล่าวว่า ในการถอดถอนที่ผ่านมาไม่เคยมีการประชุมลับ เพราะหากประชุมลับจะเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ รู้กันภายในห้องประชุม ทำให้ผู้ถูกร้องเสียเปรียบ เพราะจะไม่มีโอกาสชี้แจงต่อสาธารณชน ซึ่งเชื่อว่าหากเป็นเช่นนี้จะทำให้เกิดความเสียหายกับ สนช.ด้วย
ขณะที่ สนช.ได้อภิปรายขอให้พิจารณาโดยเปิดเผย ประธาน สนช.จึงหารือกับ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ให้ถอนญัตติดังกล่าว และยืนยันจะควบคุมการประชุมให้อยู่ในประเด็น เนื่องจากมี สนช.ได้แสดงเจตจำนงว่าจะอภิปรายให้ประชุมโดยเปิดเผย จึงไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งใน สนช. อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ชัชชวาลย์ ยังยืนยันให้ประชุมลับ และขอให้ลงมติกัน ซึ่งในที่สุดที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับญัตติที่เสนอให้ประชุมลับ ด้วยคะแนน 107 ต่อ 70 เสียง งดออกเสียง 19 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ขณะที่นายกล้าณรงค์ จันทิก สมาชิก สนช.กล่าวว่า ในการถอดถอนที่ผ่านมาไม่เคยมีการประชุมลับ เพราะหากประชุมลับจะเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ รู้กันภายในห้องประชุม ทำให้ผู้ถูกร้องเสียเปรียบ เพราะจะไม่มีโอกาสชี้แจงต่อสาธารณชน ซึ่งเชื่อว่าหากเป็นเช่นนี้จะทำให้เกิดความเสียหายกับ สนช.ด้วย
ขณะที่ สนช.ได้อภิปรายขอให้พิจารณาโดยเปิดเผย ประธาน สนช.จึงหารือกับ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ให้ถอนญัตติดังกล่าว และยืนยันจะควบคุมการประชุมให้อยู่ในประเด็น เนื่องจากมี สนช.ได้แสดงเจตจำนงว่าจะอภิปรายให้ประชุมโดยเปิดเผย จึงไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งใน สนช. อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ชัชชวาลย์ ยังยืนยันให้ประชุมลับ และขอให้ลงมติกัน ซึ่งในที่สุดที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับญัตติที่เสนอให้ประชุมลับ ด้วยคะแนน 107 ต่อ 70 เสียง งดออกเสียง 19 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง