ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมร่วมกับ 4 หน่วยงาน คือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง เพื่อทำงบประมาณปี 2559 ยอมรับว่า งบประมาณปี 2559 จะขาดดุลมากกว่างบประมาณปี 2558 ซึ่งขาดดุล 2.5 แสนล้านบาท โดยให้แต่ละหน่วยงานกลับไปประเมินรายได้ที่ชัดเจนอีกครั้ง ก่อนจะกำหนดกรอบงบประมาณรายจ่าย เบื้องต้นในการประชุมครั้งต่อไป โดยมีการประเมินว่า แม้จะมีการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นจากการปรับโครงสร้างภาษี เช่น ภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และภาษีสรรพสามิตดีเซล ทำให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 12-13 แต่ก็จะมีรายจ่ายต่างๆ เพิ่มขึ้นตามมา เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทำให้งบประมาณนั้นขาดดุลเพิ่มขึ้นตามไปด้วย