สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กยังคงปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะยังคงปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งข่าวที่ว่าอิรักวางแผนที่จะเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบในเดือนนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.1 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันล้นตลาด โดยล่าสุดมีกระแสคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ม.ค.จะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล แตะที่ 386.2 ล้านบาร์เรล
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ธ.ค. พุ่งขึ้นแตะระดับ 9.13 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายอาซิม ญีฮัด โฆษกกระทรวงพลังงานของอิรักเปิดเผยว่า อิรักซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปค วางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกในเดือนม.ค.เป็น 3.3 ล้านบาร์เรล หลังจากที่สามารถส่งออกน้ำมันได้ถึง 2.94 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ปีที่แล้ว และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าโอเปคจะปรับลดปริมาณการผลิตเพื่อสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบจนถึงขณะนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.1 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันล้นตลาด โดยล่าสุดมีกระแสคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ม.ค.จะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล แตะที่ 386.2 ล้านบาร์เรล
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ธ.ค. พุ่งขึ้นแตะระดับ 9.13 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายอาซิม ญีฮัด โฆษกกระทรวงพลังงานของอิรักเปิดเผยว่า อิรักซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปค วางแผนที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกในเดือนม.ค.เป็น 3.3 ล้านบาร์เรล หลังจากที่สามารถส่งออกน้ำมันได้ถึง 2.94 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่ประชุมโอเปคมีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ปีที่แล้ว และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าโอเปคจะปรับลดปริมาณการผลิตเพื่อสกัดการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบจนถึงขณะนี้