รายงานข่าวจากธนาคารธนชาต ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่า ธนาคารได้ปล่อยเงินกู้ให้กับบมจ.โซลูชั่นคอนเนอร์ (1998) หรือเอสแอลซี,บมจ.วธนแคปปิตัล หรือ ดับเบิลยูเอที ที่มีผลประกอบการขาดทุนและไม่มีแผนธุรกิจที่แน่นอน แต่กลับนำเงินเพิ่มทุนและเงินกู้มาไล่ซื้อหุ้นบมจ.เนชั่น มัลติมิเดีย กรุ๊ป หรือ เอ็นเอ็มจี ที่เป็นคู่แข่งทางธุรกิจว่า ธนาคารฯไม่เคยให้สินเชื่อแก่เอสแอลซีเพื่อใช้ในการเข้าซื้อหุ้นเอ็นเอ็มจีแต่อย่างใด สำหรับในส่วนของดับเบิลยูเอทีนั้นบล.ธนชาตได้ให้เงินกู้เพื่อการซื้อขายหุ้นเพียงครั้งเดียว ในเดือน ส.ค.2557 ในอัตรา50%ของราคาซื้อขาย โดยมีหุ้นเอ็นเอ็มจีเป็นหลักประกัน
อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณีหุ้นมีราคาลดลงถึงจุดหนึ่งที่ตกลงกัน หากลูกค้าไม่เพิ่มหลักประกันให้เพียงพอตามสัญญาหรือไม่ขายทิ้งเอง เพื่อลดหนี้บล.ธนชาตสามารถบังคับขายในตลาดได้ เพื่อบริหารความเสี่ยงตามหลักเกณท์ซึ่งเป็นเงื่อนไขปกติที่ให้กับลูกค้าทั่วไปในการลงทุนซื้อหุ้นในตลาดทรัพย์ และเป็นไปตามหลักเกณท์ของกลต. ซึ่งถือว่าเป็นการให้กู้ที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ขณะที่ดับเบิลยูเอทีได้เปิดเผยให้ตลาดหลักทรัพย์ว่าวงเงินให้สินเชื่อมีประมาณ 200 ล้านบาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณีหุ้นมีราคาลดลงถึงจุดหนึ่งที่ตกลงกัน หากลูกค้าไม่เพิ่มหลักประกันให้เพียงพอตามสัญญาหรือไม่ขายทิ้งเอง เพื่อลดหนี้บล.ธนชาตสามารถบังคับขายในตลาดได้ เพื่อบริหารความเสี่ยงตามหลักเกณท์ซึ่งเป็นเงื่อนไขปกติที่ให้กับลูกค้าทั่วไปในการลงทุนซื้อหุ้นในตลาดทรัพย์ และเป็นไปตามหลักเกณท์ของกลต. ซึ่งถือว่าเป็นการให้กู้ที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ขณะที่ดับเบิลยูเอทีได้เปิดเผยให้ตลาดหลักทรัพย์ว่าวงเงินให้สินเชื่อมีประมาณ 200 ล้านบาทเท่านั้น